Search Mark
หน้าแรก / บทความวิเคราะห์ตลาด

ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และผลกระทบ แนวโน้มจะเป็นอย่างไร?


การจ้างงานนอกภาคการเกษตรคืออะไร? 

นักลงทุน และนักเทรดหลายคนนั้นจะมองหาตัวชีนำทางเศรษฐกิจที่สร้างความผันผวนของตลาดการเงิน (Financial Market) โดยตัวชี้วัดมีโอกาสที่จะทำให้นักลงทุน และนักเทรดหลายคนนั้นใช้โอกาสในการวิเคราะห์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ 

โดยการการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) นั้นครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงของการจ้างงานรายเดือน โดยจะมีการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด และมีแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยตรง 

การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เป็นดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจตัวหนึ่งที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่ประกาศทุกๆ วันศุกร์แรกของแต่ละเดือน ซึ่งการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกันกับอัตราเงินเฟ้อ หรือ GDP  

การวิเคราะห์ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร 

มาดูวิธีวิเคราะหดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร 

  1. ข้อมูลในแดนบวกของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะหมายถึงจำนวนงานที่มากขึ้น และเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีกำลังในการใช้จ่ายมากขึ้น ด้วยเหตุผลนี้ทำให้นักลงทุน และนักเทรดคู่สกุลเงิน Forex สามารถคาดการณ์ได้ว่าหากจำนวนงานที่เพิ่มขึ้นอย่าง 100,000 ตำแหน่งต่อเดือนก็จะช่วยกระตุ้นการขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในเวลาเดียวกัน 
  1. ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นสามารถบ่งชี้ และทำให้นักเทรดสามารถรับทิศทางในการลงทุนได้ หากอัตราการว่างงานลดลงค่าเงินดอลลาร์ก็จะแข็งขึ้นส่งผลเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่หากอัตราการวางงานที่เพิ่มขึ้น และอัตราการจ้างงานน้อยลงเหล่านักเทรดก็สามารถเลือกที่จะลงทุนค่าเงินสกุลอื่นแทนเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงนั้น 
  1. ข้อมูลของเงินเดือนที่ลดลงนั้นส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อัตราการว่างงานที่มากขึ้น และการจ้างงานที่ลดลงนั้นเป็นสัญญาณลบสำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ จากการรายงานของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรแสดงให้เห็นว่าหากช่วงไหนมีการจ้างงานลดลงต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในช่วงแดนลบดังนั้นในช่วงนนั้นนักเทรดควรจะลงทุนสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอลลาร์สหรัฐฯ 

ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรส่งผลกระทบต่อนักลงทุนและตลาดอย่างไร 

จากข้อมูลข้างตนเราจะเห็นได้ว่าดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นสามารถชี้เห็นแนวโน้มตลาดของคู่สกุลเงิน Forex และนำไปสู่ผลกระทบต่อการซื้อขาย Forex โดยรวม 

โดยข้อมูลของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นเชื่อมโยง และใกล้ชิดกับเศรษฐกิจโดยเมื่ออัตราจ้างงานมากขึ้น เศรษฐกิจก็มีอัตราที่เติบโตมากขึ่้น และผู้บริโภคก็มีกำลังในการใช้จ่ายมากขึ้น 

มากไปกว่านั้นข้อมูลของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรยังเชื่อมโยง และกระทบต่อคู่สกุลเงินหลักทั้งหมดรวมถึง EUR/USD, USD/JYP, GBP/USD, AUD/USD, USD/CHF เป็นต้น 

เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น การลงทุนกับทองคำจึงปลอดภัยเนื่องจากมูลค่าของทองคำ และเงินดอลลาร์มีความสัมพันธ์แบบผกผัน ในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์นั้นไม่ดีเท่าที่ควรเหล่านักเทรดก็สามารถเปลี่ยนมาลงทุนกับทองคำได้ในช่วงเวลานั้น 

ในขณะเดียวกันดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเชิงบวกก็สามารถสนับสนุนราคาทองคำได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถคาดการณ์ราคาทองคำได้ตามข้อมูลของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร 

ผลกระทบของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรต่อแนวโน้มตลาด 

นักวิเคราะห์ นักเทรด และนักลงทุน สามารถศึกษาผลลัพธ์ของ ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร แสดงให้เห็นว่าเกิดอัตราที่ผกผันมาก 

จากการเปิดเผยข้อมูลของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพฤษภาคม 2565 (วันที่ 6 พฤษภาคม 2565) แนวโน้มโดยรวมของ GBP/USD นั้นอยู่ในแดนลบ 

โดยทิศทางและแนวโน้มของ GBP นั้นตอนแรกยังไม่ชัดเจนว่าจะอยู่ในแนวโน้มแดนลบ แต่หลังจากการประกาศข้อมูลของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพฤษภาคม GBP ก็อยู่ในแดนลบ และค่าเงินก็อ่อนตัวลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพฤษภาคมนั้นมีผลต่อแนวโน้มในตลาดอย่างชัดเจน 

ในวันท่ี 6 พฤษภาคมที่มีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ทองคำก็มีแนวโน้มที่จะอยู่ในแดนลบ และอ่อนแอลงรวมถึงอัตราดอกเบี้ยของ Fed ก็สูงขึ้นแสดงให้เห็นผลกระทบด้านลบของการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินแข็งขึ้น และความต้องการทองคำก็ลดลง 

และในวันที่ 1 เมษายน 2565 ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นมีจำนวนที่สูงขึ้นกว่าเดือนมีนาคม แต่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการเติบโตอยู่ในแดนบวก และส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 

แนวโน้มในอนาคต 

ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพฤษภาคม 2565 นั้นเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งถึงแม้ว่าจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2564 โดยในเดือนหน้าไปมีการปรับจาก 325,000 ตำแหน่งให้มาก 436,000 ตำแหน่ง 

ด้วยเหตุผลนี้ดัชนีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) นั้นได้ขยับขึ้นใกล้ในระดับ 29 จุด โดยมูลค่าที่คาดการณ์สำหรับรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนมิถุนายน 2565 อยู่ที่ 310,000 โดยปรับมูลค่าเดิมเป็น 436,000 ตำแหน่ง  

การแจ้งข้อมูลดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นสามารถเป็นตัวชี้วัดในนักเทรดสามารถวิเคราะหืและเก็งกำไรจากทิศทางของข้อมูล รายงานของดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจการซื้อขายได้ 

ถึงแม้ว่าจะมีตัวชี้วัดมากมาย แต่ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงานนั้นเป็นองค์ประกอบหลักที่นักเทรดทุกคนควรศึกษาไว้ 

สามารถอ่านรายงานดัชนีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และการอัพเดตบน DooPrimeNews.com เพื่อสามารถวางแผนการลงทุนของคุณได้ 
 

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง  
การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดสร้างการสูญเสียหรือขาดทุนได้ อีกทั้งผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ ก่อนทำธุรกรรมใดๆ กับเรา โปรดอ่านและเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายในเครื่องมือทางการเงินที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนหากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ  

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ  
ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และสำหรับข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำในการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญในการซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใดๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้รับรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพในอดีตของเครื่องมือทางการเงิน ดัชนี หรือพอร์ตการลงทุนไม่ควรถือเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันเกี่ยวกับข้อมูลที่แสดง และ Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสีย ขาดทุน หรือความเสียหายโดยตรงหรือโดยอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง กำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายโดยตรงหรือโดยอ้อม ที่เกิดจากการลงทุนส่วนบุคคล  

แชร์ไปที่

บทความวิเคราะห์ตลาด

ตลาดหุ้นปิดบวกท่ามกลางการมองในแง่ดีด้านเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นได้ปิดทำการในสัปดาห์นี้ด้วยสัญญาณเชิงบวกหลังจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นก็ตาม  S&P 500 เติบโตมากกว่า 1% Wall Street ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยแนะนำว่า Federal Reserve อาจไม่จำเป็นต้องปรับนโยบายแบบเร่งด่วน สิ่งนี้นำไปสู่การปรับราคาในตลาดตราสารหนี้โดยที่อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังเพิ่มขึ้น การคาดการณ์การเติบโตของงานและอัตราดอกเบี้ย  ตัวเลขเงินเดือนสหรัฐเพิ่มขึ้น 303,000 ในเดือนมีนาคม โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.8% และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ในช่วงนี้นักลงทุนยังเห็นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.40% ในขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ราคาน้ำมันเบรนท์อยู่เหนือระดับ 90 ดอลลาร์   แม้ว่าผลการดำเนินงานของตลาดงานจะแข็งแกร่ง แต่ Mohamed El-Erian หัวหน้าที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของ Allianz คาดการณ์ว่า Federal Reserve อาจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้  สัญญา Swap ซึ่งเป็นมาตรวัดสำหรับคาดการณ์การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเป็นประมาณ 52% โดยความน่าจะเป็นในเดือนกรกฎาคมจะลดลงต่ำกว่า 100%  ภาพรวมผลการดำเนินงานของตลาด  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ร่วงลง -1.0% ดัชนี Nasdaq […]

2024-4-9 | บทความวิเคราะห์ตลาด

แนวโน้มวอลล์สตรีทเป็นบวก ท่ามกลางจุดยืนเฟด และข้อมูลเงินเฟ้อ

การเคลื่อนไหวล่าสุดในวอลล์สตรีทได้ส่งสัญญาณเชิงบวกเล็กน้อยให้กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มีความผันผวนอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานเจอโรม พาวเวลล์ ยังคงยืนหยัด ในการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอดทนรอ  จุดยืนของเฟดท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ  จุดยืนของพาวเวลล์เกิดขึ้นหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงอย่างน่าทึ่งที่ 0.3% ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ธนาคารกลางได้ตั้งไว้สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อประกอบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ความลังเลของพาวเวลล์ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควรอาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้  ตัวชี้วัดเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์ยังอยู่ในโซนแห่งความสบายใจอยู่ พวกเขามองว่านี่เป็นหลักฐานที่แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเห็นได้จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเกินความคาดหมาย และการเติบโตของค่าจ้าง  ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของตลาด  แม้จะเกิดความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่เทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ แต่นักลงทุนยังดันตลาดหุ้นให้สูงขึ้นไปต่อ  ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในรายไตรมาส แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและผู้บริโภค  แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นในผลประกอบการของดัชนีหลักๆ ในช่วงเทศกาลวันหยุด โดยดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.4% และดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ไต่ขึ้น 0.8% ขณะเดียวกัน ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 0.3%  การเคลื่อนไหวของตลาดและผลการดำเนินงานรายไตรมาส  เมื่อไตรมาสแรกสิ้นสุดลง ตลาดหุ้น Wall Street ได้เฉลิมฉลองผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกเล็กน้อย […]

2024-4-2 | บทความวิเคราะห์ตลาด

S&P 500 สูงขึ้นจากความเห็นเฟด นักวิเคราะห์เตือนอาจเกิด Pullback

ราคาประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาของ S&P 500 ปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจที่สุดของปี 2024 โดยทำลายสถิติการลงติดต่อกันสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อย่างน่าทึ่ง  การฟื้นตัวของวอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนมาจากคำมั่นของธนาคารกลางสหรัฐที่ย้ำว่าจะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยลดความกังวลของนักลงทุน  ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อ การตอบสนองอย่างใจเย็นของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาด  แนวโน้มเชิงบวกและการเก็งกำไร  แม้ว่าตลาดหุ้นในวันศุกร์จะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่แนวโน้มโดยรวมของสัปดาห์นี้ยังคงเป็นบวกอย่างปฏิเสธไม่ได้  การเก็งกำไรต่อการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้ในต้นเดือนมิถุนายนได้กระตุ้นให้แรงซื้อในตลาด ส่งผลให้เป็นสัปดาห์ที่ S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 2%  ภาวะกระทิงที่แข็งแรงนี้กระตุ้นให้นักวิเคราะห์ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ และจุดประกายให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับโอกาศในการสะสมของราคาหรือการ Pullback ในระยะสั้น  David Lefkowitz จาก UBS Global Wealth Management เน้นว่า เมื่อพิจารณาจากความเชื่อมั่นและตำแหน่งของราคาที่อยู่ในระดับที่สูง การ Pullback เล็กน้อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็เป็นไปได้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนในการซื้อหุ้นเพิ่มเติม  อิทธิพลของธนาคารกลางสหรัฐ  เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจยังคงผสมผสาน นักลงทุนควรติดตามแถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิด  ความคิดเห็นของพาวเวลล์ในงาน “Fed Listens” ไม่ได้พูดถึงนโยบายการเงินอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน Michael Barr รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของ Fed ได้บอกเป็นนัยถึงการปรับเปลี่ยนข้อเสนอซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มเงินทุนสำหรับผู้ปล่อยกู้  ผลการดำเนินงานของตลาด  S&P 500 ปิดต่ำกว่าราคา […]

2024-3-26 | บทความวิเคราะห์ตลาด