Search Mark
หน้าแรก / บทความวิเคราะห์ตลาด

ตัวเลขเงินเฟ้อทรงตัวและภาวะกระทิงอาจกลับมา


หุ้นสหรัฐฯ ได้ปิดตลาดที่ราคาสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2022 โดยดัชนี S&P ทำผลงานรายสัปดาห์อย่างต่อเนื่องได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 

 ขณะที่ข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อจากสภาพเศรษฐกิจมีสภาพทรงตัวในวันศุกร์ 

ส่วนดัชนีค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลหลัก (Core PCE) ซึ่งเป็นดัชนีเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใช้เป็นมาตรวัดสภาพเงินเฟ้อหลัก มีอัตราเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้าและมีอัตราเพิ่มขึ้น 5.1% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ 

อย่างที่กล่าวในตอนต้น ดัชนีทำราคาดีต่อเนื่องจากวันศุกร์ก่อนหน้า โดยตลาดแสดงราคากลับตัวที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งตลาดได้เริ่มต้นวันด้วยราคาที่ต่ำเล็กน้อยเนื่องจากการประกาศรายได้ของ Amazon และ Apple แต่แนวโน้มราคากลับเป็นอีกด้านหลังจากการประกาศข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ 

โดยค่าเฉลี่ยดัชนี Dow Jones ปิดตลาดที่ราคาสูงขึ้น 2.6% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.5% และดัชนี Nasdaq ที่ 2.9% 

ส่วนราคารายสัปดาห์นั้น Dow Jones เพิ่มขึ้น 5.7% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.9% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.2% 

ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันที่ 28 ตุลาคม 2022 

 ราคาปิดตลาด ราคาที่เปลี่ยน %ที่เปลี่ยนแปลง 
Dow Jones 32,861.80. +828.52. +2.59% 
S&P 500 3,901.06 +93.76. +2.46% 
Nasdaq Comp 11,102.45. +309.78 +2.87% 
US 10Y 4.01%   
VIX 25.75 -1.64 -5.99% 

ต้องขอบคุณธนาคารแห่งประเทศแคนาดา (Bank of Canada) เพราะเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาทำเซอร์ไพรส์โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 50 เบซิสพอยต์ (bps) ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนี้อาจเป็นกลยุทธ์ที่จูงใจให้ตลาดมีความหวัง และคิดว่าธนาคารกลางจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อที่ราคาจะกลับตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขเงินเฟ้อที่เป็นไปตามความคาดหมาย ทำให้ฝั่ง Buyer รู้สึกฮึกเหิม และเชื่อว่าตลาดกำลังพร้อมที่จะปรับตัวขึ้น 

นี่คือสถานการณ์ที่ฝั่งธนาคารกลางยุโรปขึ้นดอกเบี้ย 75 bps และมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 bps 

ตลาดกำลังคาดหวังถูกทางหรือไม่ หรือนี่เป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผลเพียงเท่านั้น 

ตลาดตราสารหนี้ได้แสดงให้เห็นว่าภาวะถดถอยกำลังชะลอตัวลง โดยดูจากเส้นกราฟผลตอบแทนกำลังกลับด้าน แม้ผลตอบแทนในช่วง 3 เดือนจะยังสูงกว่าผลตอบแทนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถ้าราคายังคงเป็นเช่นนี้ก็อาจทำให้ Fed ลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยได้ 

หากภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังใกล้เข้ามา ทำไมราคาหุ้นถึงปรับตัวขึ้น 

อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นได้ว่าราคาขายที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ทำไมถึงพุ่งสูงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงถดถอยได้ นี่อาจทำให้นักลงทุนเกิดความหวังในการรอวัฏจักรเศรษฐกิจขาขึ้น (Boom Bust Cycle) ครั้งต่อไป 

หรืออาจเป็นเพียงราคาที่ดีดตัวช่วงสั้นๆ หรือเป็นเพียงผลจากการแข่งกันใช้ AI อัลกอริธึมในการลงทุนทำให้ราคาพุ่งขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น 

ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด ผู้ที่รอขายชอร์ตอาจจะเจ็บตัวได้ในช่วงนี้ ส่วนผู้ที่ทำกำไรใรช่วงขาขึ้นเริ่มทรงตัวได้อีกครั้ง อย่างน้อยก็ในตอนนี้ 

ด้วยการแกว่งตัวของราคาครั้งใหญ่ล่าสุดนี้จากการแห่เทขายมาจนถึงราคาที่ดีดกลับมาพุ่งสูง ทำให้ยากมากที่จะคาดการณ์ทิศทางต่อไปของตลาดได้ 

ดังนั้นทุกคนต้องเตรียมตัวกับราคาที่พุ่งเป็นโรลเลอร์โคสเตอร์ให้ดี ความผันผวนนี้อาจจะยังไม่จบ 

ที่มา: CBOE, Bloomberg,   

บทความนี้เขียนโดย James Gomes     

เจมส์อยู่ในวงการการเงินมากว่า 30 ปี และล่าสุดเขาทำงานให้กับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปีแล้ว   

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง 

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย   

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง   

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)      

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)    

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต     

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้    

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้ 

แชร์ไปที่

บทความวิเคราะห์ตลาด

S&P 500 ร่วง ท่ามกลางการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาคเทคอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

ตลาดหุ้นต้องเผชิญกับสัปดาห์ที่โหดร้าย โดย S&P 500 ประสบพบกับผลการดำเนินงานที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 การลงครั้งนี้ได้รับแรงหนุนมาจากความวิตกกังวลในตลาด  ผลกระทบทางเศรษฐกิจและธนาคารกลางสหรัฐ  ประการแรก ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินความคาดหมาย บวกกับแถลงการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักจากธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้เกิดความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยอาจยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปเป็นระยะเวลานานขึ้น  สิ่งนี้ได้บั่นทอนแรงซื้อของนักลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีการเติบโต ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย  ประการที่สอง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านได้เพิ่มความไม่แน่นอนอีกชั้นหนึ่งให้กับตลาด  ปัจจัยลบในภาคเทคโนโลยี  การขายออกที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคเทคโนโลยี ที่ได้รับแรงกดดันมาจากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น ASML และ TSM  รายงานเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงฤดูกาลประกาศรายได้ที่กำลังจะมาถึงสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Amazon นักลงทุนต่างคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งแต่ยังคงกังวลเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทเหล่านี้ในการตอบสนองความคาดหวังสำหรับโครงการด้านปัญญาประดิษฐ์ของพวกเขา  ภาพรวมผลประกอบการรายสัปดาห์  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ลดลง -3.1% ดัชนี Nasdaq Composite ที่เน้นด้านเทคโนโลยีลดลง -5.5% และดัชนีบลูชิป Dow ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ +0.01%  และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 Index  Last  Change  %Change  DOW […]

2024-4-22 | บทความวิเคราะห์ตลาด

ตลาดหุ้นปิดบวกท่ามกลางการมองในแง่ดีด้านเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นได้ปิดทำการในสัปดาห์นี้ด้วยสัญญาณเชิงบวกหลังจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นก็ตาม  S&P 500 เติบโตมากกว่า 1% Wall Street ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยแนะนำว่า Federal Reserve อาจไม่จำเป็นต้องปรับนโยบายแบบเร่งด่วน สิ่งนี้นำไปสู่การปรับราคาในตลาดตราสารหนี้โดยที่อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังเพิ่มขึ้น การคาดการณ์การเติบโตของงานและอัตราดอกเบี้ย  ตัวเลขเงินเดือนสหรัฐเพิ่มขึ้น 303,000 ในเดือนมีนาคม โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.8% และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ในช่วงนี้นักลงทุนยังเห็นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.40% ในขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ราคาน้ำมันเบรนท์อยู่เหนือระดับ 90 ดอลลาร์   แม้ว่าผลการดำเนินงานของตลาดงานจะแข็งแกร่ง แต่ Mohamed El-Erian หัวหน้าที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของ Allianz คาดการณ์ว่า Federal Reserve อาจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้  สัญญา Swap ซึ่งเป็นมาตรวัดสำหรับคาดการณ์การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเป็นประมาณ 52% โดยความน่าจะเป็นในเดือนกรกฎาคมจะลดลงต่ำกว่า 100%  ภาพรวมผลการดำเนินงานของตลาด  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ร่วงลง -1.0% ดัชนี Nasdaq […]

2024-4-9 | บทความวิเคราะห์ตลาด

แนวโน้มวอลล์สตรีทเป็นบวก ท่ามกลางจุดยืนเฟด และข้อมูลเงินเฟ้อ

การเคลื่อนไหวล่าสุดในวอลล์สตรีทได้ส่งสัญญาณเชิงบวกเล็กน้อยให้กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มีความผันผวนอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานเจอโรม พาวเวลล์ ยังคงยืนหยัด ในการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอดทนรอ  จุดยืนของเฟดท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ  จุดยืนของพาวเวลล์เกิดขึ้นหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงอย่างน่าทึ่งที่ 0.3% ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ธนาคารกลางได้ตั้งไว้สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อประกอบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ความลังเลของพาวเวลล์ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควรอาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้  ตัวชี้วัดเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์ยังอยู่ในโซนแห่งความสบายใจอยู่ พวกเขามองว่านี่เป็นหลักฐานที่แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเห็นได้จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเกินความคาดหมาย และการเติบโตของค่าจ้าง  ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของตลาด  แม้จะเกิดความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่เทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ แต่นักลงทุนยังดันตลาดหุ้นให้สูงขึ้นไปต่อ  ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในรายไตรมาส แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและผู้บริโภค  แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นในผลประกอบการของดัชนีหลักๆ ในช่วงเทศกาลวันหยุด โดยดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.4% และดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ไต่ขึ้น 0.8% ขณะเดียวกัน ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 0.3%  การเคลื่อนไหวของตลาดและผลการดำเนินงานรายไตรมาส  เมื่อไตรมาสแรกสิ้นสุดลง ตลาดหุ้น Wall Street ได้เฉลิมฉลองผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกเล็กน้อย […]

2024-4-2 | บทความวิเคราะห์ตลาด