Search Mark
หน้าแรก / บทความวิเคราะห์ตลาด

Sell-off และ Market Rally


บทความวิเคราะห์ตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดสูงขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงส่งผลให้ตลาดทั้งสัปดาห์ปิดสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีความผันผวนอย่างมากในระหว่างสัปดาห์ทำให้ตลาดปิดสูงขึ้นและเป็นหตุให้เกิดความผันผวนอย่างมากจากแนวโน้มที่กำลังต่ำลง

จากการแถลงของ Fed ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระบุถึงกองทุนสำรองที่กำลังพิจารณา
ลดการสนับสนุนเงินสำรองในไม่ช้า จากความกังวลของผลกระทบของ China Evergrande Group อีกทั้งผลกระทบจากการนโยบายปราบปราม Cryptocurrencies ของประเทศจีนอีกด้วย โดยจากรายงานของ Bloomberg ที่รวบรวมข้อมูลจาก Bank of America Corp และ EPFR Global data พบว่ากองทุนมูลค่ามีอัตราการไหลออกของเงินในตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 3 จากทั้งหมดที่เคยมีมา โดยเงินส่วนใหญ่นั้นมาจากหุ้นเทคโนโลยี ที่นับเป็นการเสี่ยงสูงสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า
นักลงทุนต่างดึงเงินออกจากหุ้นและเงินสด เพื่อเปลี่ยนไปใช้กองทุนตราสารหนี้มากถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์และในโลหะมีค่าถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาด

สรุปภาพรวมตลาดในวันศุกร์ที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ดังนี้ 

 มูลค่าปิดตลาด 
(จุด) 
ค่าการเปลี่ยนแปลง 
(จุด) 
คิดเป็น  
Dow Jones 34,798.00     +33.18        +0.10%
S&P 500        4455.48           +6.5            +0.15%
Nasdaq Comp 15047.70       -4.55           -0.03%
US 10Y              1.453%  
VIX       17.75-0.88-4.72%

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องถามตัวเองว่าทำไมตลาดจึงดีดตัวขึ้นในช่วง 3 วันสุดท้ายของสัปดาห์ หลังจากการเทขายในวันจันทร์และวันอังคาร โดยกล่าวได้ว่า
อาจเป็นเพราะ Fed, China Evergrande และ Crypto คือปัจจัยที่ทำให้มูลค่าการตลาด
ลดลง แม้ว่าผู้เขียนจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ก็กล่าวได้ว่าการประชุมที่ผ่านมานั้นเกี่ยวกับเรื่องเทคนิคล้วนๆ โดย S&P เริ่มต้นสัปดาห์จากมูลค่าต่ำกว่า
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งเป็นระดับเทคนิคที่ได้รับสื่อต่างๆ ใช้ในการอ้างอิง
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น S&P มีปริมาณการซื้อขายที่ต่ำกว่ามูลค่า
ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็มีมูลค่าปิดตลาดที่ดีกว่าสถิติเริ่มต้นในจันทร์

อ้างอิง: Source: CBOE, Reuters, Bloomberg


ประกาศความไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น 

แม้ว่า DOO Group จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อรับรองความถูกต้องของเอกสารหรือบทความนี้ แต่จะไม่รับรองหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ และ DOO Group จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการใช้เอกสารหรือบทความนี้ เนื้อหาในเอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปและเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษาเท่านั้น ซึ่งบทความนี้ไม่ใช่และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเสนอในการซื้อหรือขาย หรือเป็นการชักชวนให้เสนอซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น พันธบัตรหรือเครื่องมือทางการเงินหรือการลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เอกสารหรือบทคามนี้ไม่ควรใช้เป็นการแนะนำหรือให้การลงทุนหรือคำแนะนำอื่นใดเกี่ยวกับการซื้อ การขาย หรือการจำหน่ายตราสารทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่นใด การตัดสินใจลงทุนในเครื่องมือทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ หลักทรัพย์หรือการลงทุนไม่ควรทำโดยอาศัยข้อความใด ๆ ในเอกสารนี้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินของตนเองโดยคำนึงถึงความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน และพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบ

DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจหรือการดำเนินการใด ๆ โดยอาศัยข้อมูลในเอกสารหรือบทความนี้ และในกรณีใด ๆ DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดต่อความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง ทั้งโดยบังเอิญ โดยอ้อม หรือผลคล้ายกันที่เกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือบทความนี้ แม้ว่าจะได้แจ้งถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวแล้วก็ตาม
เอกสารนี้หรือบทความนี้มีข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในเอกสารนี้อิงตามการคาดการณ์ในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อิงจากการวิเคราะห์ของ DOO Group จากสถิติที่มีอยู่ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวข้องกับการตัดสินที่เกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในอนาคต การแข่งขันและตลาดในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์อย่างแม่นยำ เนื่องด้วยความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญซึ่งมีอยู่ในข้อมูลเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในที่นี้ การรวมข้อมูลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นการแสดงโดย DOO Group ว่าจะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง DOO Group ขอแจ้งว่าให้ทราบว่าไม่ควรไว้วางใจในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป และไม่รับผิดชอบต่อการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ การแสดงความเห็นเป็นของผู้เขียนและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

เอกสารนี้ถือเป็นความลับกับผู้อ่านและข้ออมูลนี้มีการจัดหาเพียงเพื่อข้อมูลเท่านั้นและไม่สามารถทำซ้ำ แจกจ่ายซ้ำ หรือส่งต่อ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมไปยังบุคคลอื่นหรือเผยแพร่ทั้งหมดหรือบางส่วน เพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ห้ามนำหรือส่งเอกสารนี้หรือสำเนาใด ๆ ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือแจกจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมในสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายเอกสารนี้ในเขตอำนาจศาลอื่นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมาย และบุคคลที่ครอบครองเอกสารนี้ควรแจ้งตนเองและปฏิบัติตามข้อจำกัดดังกล่าว การยอมรับรายงานนี้แสดงว่าคุณตกลงผูกพันตามคำแนะนำข้างต้น

แชร์ไปที่

บทความวิเคราะห์ตลาด

S&P 500 สูงขึ้นจากความเห็นเฟด นักวิเคราะห์เตือนอาจเกิด Pullback

ราคาประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาของ S&P 500 ปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจที่สุดของปี 2024 โดยทำลายสถิติการลงติดต่อกันสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อย่างน่าทึ่ง  การฟื้นตัวของวอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนมาจากคำมั่นของธนาคารกลางสหรัฐที่ย้ำว่าจะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยลดความกังวลของนักลงทุน  ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อ การตอบสนองอย่างใจเย็นของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาด  แนวโน้มเชิงบวกและการเก็งกำไร  แม้ว่าตลาดหุ้นในวันศุกร์จะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่แนวโน้มโดยรวมของสัปดาห์นี้ยังคงเป็นบวกอย่างปฏิเสธไม่ได้  การเก็งกำไรต่อการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้ในต้นเดือนมิถุนายนได้กระตุ้นให้แรงซื้อในตลาด ส่งผลให้เป็นสัปดาห์ที่ S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 2%  ภาวะกระทิงที่แข็งแรงนี้กระตุ้นให้นักวิเคราะห์ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ และจุดประกายให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับโอกาศในการสะสมของราคาหรือการ Pullback ในระยะสั้น  David Lefkowitz จาก UBS Global Wealth Management เน้นว่า เมื่อพิจารณาจากความเชื่อมั่นและตำแหน่งของราคาที่อยู่ในระดับที่สูง การ Pullback เล็กน้อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็เป็นไปได้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนในการซื้อหุ้นเพิ่มเติม  อิทธิพลของธนาคารกลางสหรัฐ  เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจยังคงผสมผสาน นักลงทุนควรติดตามแถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิด  ความคิดเห็นของพาวเวลล์ในงาน “Fed Listens” ไม่ได้พูดถึงนโยบายการเงินอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน Michael Barr รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของ Fed ได้บอกเป็นนัยถึงการปรับเปลี่ยนข้อเสนอซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มเงินทุนสำหรับผู้ปล่อยกู้  ผลการดำเนินงานของตลาด  S&P 500 ปิดต่ำกว่าราคา […]

2024-3-26 | บทความวิเคราะห์ตลาด

หุ้นเทคเจอแรงขาย ความคาดหวังการประชุมเฟดทำตลาดหุ้นผันผวน

หุ้นเจอกับแรงขายอย่างหนักท่ามกลางความเหวี่ยงที่ผันผวน  หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาความผันผวนของตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะลดลง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขายหุ้นในภาคเทคโนโลยี ความผันผวนของตลาดถูกขยายเพิ่มเติมโดยการหมดอายุของสัญญาออปชั่นที่เรียกว่า Triple Witching  เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในหมู่เทรดเดอร์ เนื่องจากสัญญามูลค่า 5.3 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะหมดอายุ ทำให้เกิดความท้าทายในการคาดการณ์ทิศทางของตลาด ตามที่นักวิเคราะห์เตือน  การคาดการณ์นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการตอบสนองของตลาด  ความคาดหวังเกี่ยวกับการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐก็มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของตลาดเช่นกัน การคาดเดาเกี่ยวกับขอบเขตของการผ่อนคลายดอกเบี้ยจะส่งสัญญาณถึงปี 2567 ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ  ทั้ง S&P 500 และ Nasdaq 100 เกิดแรงขาย โดย Adobe Inc. รายงานแนวโน้มยอดขายที่ซบเซา แม้ว่า Nvidia Corp. จะได้รับผลกำไรจากงานประชุม AI  ความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ท่ามกลางตัวเลขทางเศรษฐกิจ  ในขณะเดียวกัน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเผชิญกับสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดของปี ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเผยให้เห็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างที่ไม่คาดคิด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล  การเก็งกำไรและการปรับความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ย  การเก็งกำไรเกี่ยวกับการตัดสินใจในอนาคตของ Fed ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้เทรดเดอร์ต้องปรับเปลี่ยนการเดิมพันต่อจังหวะเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น  นักเศรษฐศาสตร์ได้แก้ไขการคาดการณ์ โดยขณะนี้คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 อยู่ที่ 75 จุด ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ 125 […]

2024-3-19 | บทความวิเคราะห์ตลาด

เทรดเดอร์กังวลหุ้นร่วง พร้อมตัวเลขการจ้างงานออกมาผสมผสาน 

ผลกระทบจากตัวเลขการจ้างงานแบบผสมผสาน  หุ้นสหรัฐฯ ในวอลล์สตรีทมีแนวโน้มขาลง เนื่องจากเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าแนวโน้มขาขึ้นที่เกิดติดต่อกันหลายครั้งนี้ อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่เลยเถิดเกินไป การลดลงเกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่ออกมาแบบผสมผสาน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน  ตัวเลขรายงานการจ้างงาน  ตามรายงานของสำนักงานสถิติแรงงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว แต่ควบคู่ไปกับการปรับลดตำแหน่งงาน 167,000 ตำแหน่งจากสองเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% สู่ระดับสูงสุดในรอบสองปี  จุดอ่อนของภาคเทคโนโลยีและโมเมนตัมของตลาด  ความอ่อนแอในภาคเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง Nvidia และ Tesla  มีส่วนทำให้ตลาดโดยรวมลดลง ความกังวลเกิดขึ้นว่าตลาดีมีแรงซื้อมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการเพิ่มขึ้นของ S&P 500 ในปัจจุบัน ส่งผลให้นักวิเคราะห์ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของหุ้น  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 1.2% ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ร่วงลง 0.9% และ 0.3% ตามลำดับ   และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 Index  Last  Change  %Change  DOW JONES   […]

2024-3-11 | บทความวิเคราะห์ตลาด