Search Mark
หน้าแรก / บทความวิเคราะห์ตลาด

CPI Print และ Price Action


เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2022 หุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดที่ราคาต่ำกว่าเดิม หลังจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ยืนยันถึงสภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงไม่ลดลง 

นี่จะเป็นอีกครั้งที่จะถูกบันทึกไว้ว่าเป็นการเปลี่ยนฐานราคาครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของตลาด ซึ่งหนึ่งวันก่อนหน้านั้นตลาดยังคงอยู่ในขาขึ้น แต่วันถัดมา ราคาก็ปรับฐานไปเป็นขาลงอีกครั้ง 

โดยเมื่อวันพฤหัสบดี ดัชนีสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยมีอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ข้อมูลนี้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเริ่มกระทบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดำเนินการแก้ปัญหาแนวโน้มนี้แล้วหลายครั้งก็ตาม 

ในตอนแรกนั้น หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงไป ทำให้ความกังวลต่อภาวะถดถอยรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก แต่เมื่อสิ้นสุดวันพฤหัสฯ หุ้นสหรัฐฯ ก็ดีดตัวปิดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

มี Price Action ที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมี CPI print ที่เกิดขึ้นจากปัจจัยทางเทคนิคและโพสิชัน หลังจาก CPI print ลดลงเกือบ 2% แล้ว ดัชนี S&P 500 ก็ปิดตลาดที่ราคาสูงขึ้น 2.6% ส่วน Nasdaq ปิดตลาดที่ราคาเพิ่มขึ้น 2.2% 

เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากโปรแกรมการซื้อขายของอัลกอริธึม ซึ่งเริ่มคำสั่งซื้อหลังจาก S&P 500 ดีดตัว 50% จากระดับต่ำสุดช่วงโควิด-19 

เมื่อกล่าวถึงการ Unwinding Hedge (หรือการ Selling put) ในรอบระดับแนวรับเดียวกัน รวมทั้งการปิดระยะสั้นอาจเป็นสาเหตุเพิ่มเติม แม้แต่ตลาดตราสารหนี้เองก็ยังเห็นถึงการกลับตัวของราคาดัชนี แม้ว่าจะไม่มากเท่าหุ้นก็ตาม โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่บทความนี้ 

ดัชนี S&P 500 ปิดใกล้ระดับต่ำสุดของวัน ร่วงลงมากกว่า 2% ส่วนดัชนี Nasdaq 100 มีการขาดทุนมากที่สุด โดยลดลงที่ราวๆ 3% เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นกลับไปเป็น 4.5% 

ข้อมูลด้านล่างนี้คือระดับราคาปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2022 

 Last Change %Change 
Dow Jones 29,634.83. -403.89. -1.34% 
S&P 500   3,583.07 -86.84. -2.37% 
Nasdaq Comp 10,321.39. -327.76. -3.08% 
US 10Y 4.02%   
VIX 32.02 +0.25 +0.08% 

เมื่อดูข้อมูลแล้วต้องบอกเลยว่า ผู้ที่รอตลาดขาลงเพื่อขายชอร์ตอาจจะรู้สึก “ขอบคุณ” เลยทีเดียว 

เราทุกคนต่างรู้ดีว่าตลาดเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ เพราะก่อนหน้านั้นในตอนแรกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากราคา CPI ลดต่ำลงสร้างความปั่นป่วนอย่างมาก ผู้ที่รอทำกำไรในช่วงตลาดขาลงเหมือนถูกเตะตัดขา ผู้ที่รอตลาดขาขึ้นได้โอกาส จนกลัวจะพลาดโอกาสทำกำไรไป (FOMO) ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น แต่ตลาดก็ผันผวนเป็นอีกด้านหนึ่งอย่างกะทันหันไปดื้อๆ 

ตามการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ ทิศทางราคาดูเหมือนเป็นทิศทางที่ขึ้นมาชั่วคราวเพื่อหลอกให้ดีใจ หรือที่เรียกว่า Head fake, Dead cat bounce หรือชื่ออะไรก็ตามในทำนองนี้ 

เมื่อเหตุการณ์สงบลงและนักลงทุนเริ่มคิดไตร่ตรองหาสาเหตุของแนวโน้มขาลง สาเหตุก็คงจะหนีไม่พ้นอัตราเงินเฟ้อสูงนั่นเอง ซึ่ง Fed ก็ต้องเข้ามามีบทบาทปรับอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอย่างแน่นอน 

สถานะขายมากเกินไปมักจะมีการรีบาวด์เสมอ ซึ่งเราควรเตรียมพร้อมรับมือต่อไป 

ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อใดก็ตามที่มีพาดหัวข่าวเช่นกรณีพันธบัตรรัฐบาล UK สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ถึงมันจะส่งผลถึงกันบ้าง แต่แน่นอนว่าปัญหาของ UK ก็จะมีปัญหาเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนของสหรัฐฯ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ การขายตามข่าวมีแนวโน้มว่าเป็นเรื่องดีสำหรับคนที่รอตลาดขาลง 

คาดว่าเราอาจจะเห็นความผันผวนมากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่จำไว้ว่า แนวโน้มราคาหลักลดลง และอาจใช้เวลาสักพักก่อนที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างถาวร 

ที่มา: CBOE, Bloomberg,  

บทความนี้เขียนโดย James Gomes    

เจมส์อยู่ในวงการการเงินมากว่า 30 ปี และล่าสุดเขาทำงานให้กับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปีแล้ว  

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)   

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต    

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้   

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้   

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง 

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย   

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง   

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย 

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล  

แชร์ไปที่

บทความวิเคราะห์ตลาด

ตลาดหุ้นปิดบวกท่ามกลางการมองในแง่ดีด้านเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นได้ปิดทำการในสัปดาห์นี้ด้วยสัญญาณเชิงบวกหลังจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นก็ตาม  S&P 500 เติบโตมากกว่า 1% Wall Street ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยแนะนำว่า Federal Reserve อาจไม่จำเป็นต้องปรับนโยบายแบบเร่งด่วน สิ่งนี้นำไปสู่การปรับราคาในตลาดตราสารหนี้โดยที่อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังเพิ่มขึ้น การคาดการณ์การเติบโตของงานและอัตราดอกเบี้ย  ตัวเลขเงินเดือนสหรัฐเพิ่มขึ้น 303,000 ในเดือนมีนาคม โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.8% และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ในช่วงนี้นักลงทุนยังเห็นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.40% ในขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ราคาน้ำมันเบรนท์อยู่เหนือระดับ 90 ดอลลาร์   แม้ว่าผลการดำเนินงานของตลาดงานจะแข็งแกร่ง แต่ Mohamed El-Erian หัวหน้าที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของ Allianz คาดการณ์ว่า Federal Reserve อาจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้  สัญญา Swap ซึ่งเป็นมาตรวัดสำหรับคาดการณ์การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเป็นประมาณ 52% โดยความน่าจะเป็นในเดือนกรกฎาคมจะลดลงต่ำกว่า 100%  ภาพรวมผลการดำเนินงานของตลาด  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ร่วงลง -1.0% ดัชนี Nasdaq […]

2024-4-9 | บทความวิเคราะห์ตลาด

แนวโน้มวอลล์สตรีทเป็นบวก ท่ามกลางจุดยืนเฟด และข้อมูลเงินเฟ้อ

การเคลื่อนไหวล่าสุดในวอลล์สตรีทได้ส่งสัญญาณเชิงบวกเล็กน้อยให้กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มีความผันผวนอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานเจอโรม พาวเวลล์ ยังคงยืนหยัด ในการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอดทนรอ  จุดยืนของเฟดท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ  จุดยืนของพาวเวลล์เกิดขึ้นหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงอย่างน่าทึ่งที่ 0.3% ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ธนาคารกลางได้ตั้งไว้สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อประกอบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ความลังเลของพาวเวลล์ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควรอาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้  ตัวชี้วัดเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์ยังอยู่ในโซนแห่งความสบายใจอยู่ พวกเขามองว่านี่เป็นหลักฐานที่แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเห็นได้จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเกินความคาดหมาย และการเติบโตของค่าจ้าง  ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของตลาด  แม้จะเกิดความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่เทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ แต่นักลงทุนยังดันตลาดหุ้นให้สูงขึ้นไปต่อ  ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในรายไตรมาส แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและผู้บริโภค  แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นในผลประกอบการของดัชนีหลักๆ ในช่วงเทศกาลวันหยุด โดยดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.4% และดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ไต่ขึ้น 0.8% ขณะเดียวกัน ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 0.3%  การเคลื่อนไหวของตลาดและผลการดำเนินงานรายไตรมาส  เมื่อไตรมาสแรกสิ้นสุดลง ตลาดหุ้น Wall Street ได้เฉลิมฉลองผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกเล็กน้อย […]

2024-4-2 | บทความวิเคราะห์ตลาด

S&P 500 สูงขึ้นจากความเห็นเฟด นักวิเคราะห์เตือนอาจเกิด Pullback

ราคาประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาของ S&P 500 ปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจที่สุดของปี 2024 โดยทำลายสถิติการลงติดต่อกันสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อย่างน่าทึ่ง  การฟื้นตัวของวอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนมาจากคำมั่นของธนาคารกลางสหรัฐที่ย้ำว่าจะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยลดความกังวลของนักลงทุน  ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อ การตอบสนองอย่างใจเย็นของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาด  แนวโน้มเชิงบวกและการเก็งกำไร  แม้ว่าตลาดหุ้นในวันศุกร์จะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่แนวโน้มโดยรวมของสัปดาห์นี้ยังคงเป็นบวกอย่างปฏิเสธไม่ได้  การเก็งกำไรต่อการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้ในต้นเดือนมิถุนายนได้กระตุ้นให้แรงซื้อในตลาด ส่งผลให้เป็นสัปดาห์ที่ S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 2%  ภาวะกระทิงที่แข็งแรงนี้กระตุ้นให้นักวิเคราะห์ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ และจุดประกายให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับโอกาศในการสะสมของราคาหรือการ Pullback ในระยะสั้น  David Lefkowitz จาก UBS Global Wealth Management เน้นว่า เมื่อพิจารณาจากความเชื่อมั่นและตำแหน่งของราคาที่อยู่ในระดับที่สูง การ Pullback เล็กน้อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็เป็นไปได้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนในการซื้อหุ้นเพิ่มเติม  อิทธิพลของธนาคารกลางสหรัฐ  เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจยังคงผสมผสาน นักลงทุนควรติดตามแถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิด  ความคิดเห็นของพาวเวลล์ในงาน “Fed Listens” ไม่ได้พูดถึงนโยบายการเงินอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน Michael Barr รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของ Fed ได้บอกเป็นนัยถึงการปรับเปลี่ยนข้อเสนอซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มเงินทุนสำหรับผู้ปล่อยกู้  ผลการดำเนินงานของตลาด  S&P 500 ปิดต่ำกว่าราคา […]

2024-3-26 | บทความวิเคราะห์ตลาด