Search Mark
หน้าแรก / คลังความรู้

วิธีตรวจสอบสถานะการกำกับดูแลทางการเงินภายใต้หน่วยงาน US SEC


ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจแปรเปลี่ยนได้จากปัจจัยหลายประการ เช่น ตลาดผันผวน สภาพเศรษฐกิจชะงัก ภาวะสงคราม สถานการณ์การเมืองและการทุจริต ซึ่งการฉ้อฉลทุจริตมักเกิดขึ้นในแวดวงพาณิชย์และตลาดการลงทุนอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง COVID-19 ที่นักโจรกรรมมักจะฉวยโอกาสอาศัยความวุ่นวายสร้างกลโกงการลงทุนหลอกล่อให้คนตกเป็นเหยื่อ 

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือนักลงทุนต้องตระหนักและรู้ทันอุบายการฉ้อโกงต่างๆ ด้วยการตรวจสอบว่าบริษัทได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งแรกที่เราต้องพิจารณาเมื่อหาบริษัทในการลงทุน เนื่องจากใบอนุญาตจะแสดงให้เห็นว่าบริษัทนั้นๆ รับผิดชอบต่อกิจกรรมของตนและปกป้องความปลอดภัยของประชาชนหรือไม่ 

เราในฐานะที่เป็นกลุ่มการเงินระดับโลกที่ยึดมั่นในความเป็นมืออาชีพ ความซื่อสัตย์ และความรับผิดชอบ Doo Group ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งของ Doo Prime ขอให้การรับรองสิทธิ์ของลูกค้าที่จะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2014 นั้น Doo Group ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินจากทั่วโลก ใบอนุญาตทั้งหมดนี้ออกโดยหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกซึ่งเราจะชี้แจงในบทความนี้ ถึงวิธีการตรวจสอบสถานะการกำกับดูแลของบริษัทในเครือ Doo Group ภายใต้ความคุ้มครองของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (US SEC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางแห่งแรกของตลาดหลักทรัพย์ 
 

เกี่ยวกับ US SEC 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (U.S. Securities and Exchange Commission: US SEC) ก่อตั้งขึ้นในปี 1933 โดยผ่านพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาปี 1933 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 เพื่อรับมือสภาวะตลาดหุ้นล้ม ซึ่งนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 1929 ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.sec.gov/about/what-we-do 

ด้วยประวัติของ US SEC ที่ยาวนานกว่า 80 ปี หน้าที่หลักของบริษัทคือการปกป้องนักลงทุน โดยการตรวจสอบความเป็นธรรม โปร่งใส และความมีประสิทธิภาพของตลาดการเงิน มุ่งมั่นที่จะสร้างผลลัพท์เชิงบวกต่อเศรษฐกิจและชีวิตของคนในสหรัฐฯ 
 

ข้อกำหนดและการกำกับดูแลที่เข้มงวดของ US SEC ทำให้เห็นจุดแข็งของ Doo Group ที่ได้รับใบอนุญาตที่ออกโดยหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำของโลก 

เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดใบอนุญาตของเรา Doo Group ได้เตรียมแนวทางการตรวจสอบใบอนุญาตจากหน่วยงานของ US SEC ของโบรกเกอร์ ดังนี้ 

วิธีตรวจสอบว่าบริษัททางการเงินอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ US SEC หรือไม่: 

คุณสามารถดำเนินการตรวจสอบด้วยการค้นหาใน US SEC Services Register ได้ ในที่นี้เราจะยกตัวอย่างด้วยการลองค้นหาด้วยชื่อโบรกเกอร์ Elish & Elish Inc. 

ขั้นตอนที่ 1: เข้าสู่เว็บไซต์ทางการของ US SEC Report ที่ www.sec.report 

ขั้นตอนที่ 2: โปรดคลิกที่ “Company Search (ค้นหาบริษัท)” 

ขั้นตอนที่ 3: หน้าเพจของคุณจะถูกเปลี่ยนไปยังหน้า “CIK – Central Index Key Search” 

ขั้นตอนที่ 4: โปรดพิมพ์เลข Central Index Key number (หมายเลขรหัสดัชนีกลาง) ของ Elish & Elish Inc ซึ่งในที่นี้คือ 0000853720 ลงในช่องหมายเลข CIK และคลิกที่ “Lookup CIK” 

ขั้นตอนที่ 5: รายละเอียดของบริษัทจะแสดงให้เห็น เช่น ประเภทนิติบุคคล ที่ทำการของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของบริษัท ที่อยู่ทางไปรษณีย์ ดังต่อไปนี้ 

Doo Group ปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาความสุจริตในการดำเนินงาน 

บริษัทการเงินที่ได้รับรองอย่างถูกต้อง จะมีข้อมูลทางกฎหมายและรายละเอียดใน US SEC Register นอกเหนือจาก US SEC แล้ว Elish & Elish Inc. ยังอยู่ภายใต้การควบคุมโดยหน่วยงาน US FINRA ด้วย 

Doo Group จะยังคงมุ่งมั่นและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อมอบบริการที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และเป็นมืออาชีพให้กับลูกค้าทั่วโลก 

เกี่ยวกับ Doo Group  

Doo Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ในปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากการพัฒนาหลายปี Doo Group ได้กลายเป็นบริษัทบริการทางการเงินหลายประเภทที่มีเทคโนโลยีทางการเงินเป็นหลัก โดยมีบริษัทในเครืออย่าง Doo Clearing, Doo Financial, Doo Prime, FinPoints และอื่น ๆ Doo Group มีความมุ่งมั่นที่จะให้การบริการจัดการการซื้อขายและทรัพย์สินมากกว่า 20,000 ผลิตภัณฑ์ อาทิ เช่น หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น และสกุลดิจิตอลให้กับลูกค้ารายบุคคลและองค์กร  

ปัจจุบัน หน่วยงานภายใน Doo Group แต่ละผลิตภัณฑ์และพื้นที่ที่ให้บริการได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินชั้นนำระดับโลกหลายแห่งโดยครอบคลุมแต่ไม่จำกัดเพียง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (US SEC) และหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงินสหรัฐฯ ( US FINRA), หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินแห่งสหราชอาณาจักร (UK FCA), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งออสเตรเลีย (AU ASIC), องค์การประกันภัยแห่งฮ่องกง (HK IA), กรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งฮ่องกง (HK C&ED), สำนักทะเบียนบริษัท (HK CR), หน่วยงานบริการทางการเงินของเซเชลส์ (SC FSA), คณะกรรมการบริการทางการเงินของมอริเชียส (MU FSC) และคณะกรรมการบริการทางการเงินของวานูอาตู (VU FSC) Doo Group มีหน่วยงานที่ดำเนินงานอยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงดัลลัส ลอนดอน ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ดูไบ กัวลาลัมเปอร์ และภูมิภาคอื่นๆ 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  

ฮ่องกง: +852 6701 2091  

สิงคโปร์: +65 6011 1736 

อีเมล: [email protected] 

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)     

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)   

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Group จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต    

Doo Group ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Group เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Group ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้   

Doo Group ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Group ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้   

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง   

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย   

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Group หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง   

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย   

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Group ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Group ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล  

แชร์ไปที่

คลังความรู้

Bitcoin Halving 2024: สิ่งที่คุณควรรู้ 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Bitcoin Halving ที่ทุกคนจับตามองได้จบลงแล้ว เป็นประเด็นร้อนแรงของนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลกับการคาดการณ์และการเก็งกำไร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน โดยถือเป็นการ Halving ครั้งที่สี่ของ Bitcoin เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ “Halving” ที่จะเกิดขึ้นประมาณทุกๆ 4 ปี เนื่องจากอุปทานของ Bitcoin เกิดการเปลี่ยนแปลง  เมื่อปรากฏการณ์นี้สิ้นสุดลง ตลาดและนักลงทุนจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงความซับซ้อนของ Bitcoin Halving และผลกระทบต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการลดลงของ Bitcoin  Bitcoin Halving คืออะไร?  Bitcoin Halving หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “การลดจำนวนรางวัลครึ่งหนึ่ง” เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในโลกของ Bitcoin โดยเป็นกลไกพื้นฐานในการจัดการภาวะเงินเฟ้อและรักษาความขาดแคลน (scarcity) ปรากฏการณ์นี้เป็นการลดจำนวนรางวัลสกุลเงินดิจิตอลจากการขุดลงครึ่งหนึ่ง กระบวนการนี้ช่วยเพิ่มต้นทุนในการสร้าง bitcoins ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความขาดแคลนนี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าของ Bitcoin ในฐานะที่จัดเก็บมูลค่าในรูปแบบดิจิทัลแบบไม่รวมศูนย์  เหตุการณ์ Bitcoin Halving นี้ตั้งโปรแกรมโดย Satoshi Nakamoto โดยจะเกิดขึ้นทุกๆ […]

2024-4-25 | คลังความรู้

เปิดตัว Truth Social หุ้นจะรักษาโมเมนตัมได้หรือไม่

.  ในวันแรกของการซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ใหม่ DJT หุ้นของ Trump Media & Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยเพิ่มขึ้นถึง 16% การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วประกอบกับราคาก่อนหน้านี้ที่ทำจุดสูงสุดที่ 50% ในช่วงเซสชั่นของวันอังคาร ตอกย้ำถึงความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นต่อการเปิดตัวของแพลตฟอร์ม  การก้าวขึ้นของ DJT เกิดขึ้นภายหลังการควบรวมกิจการกับ Digital World Acquisition Corp. (DWAC) ซึ่งเป็นเครื่องมือเฉพาะกิจที่มีการดำเนินงานในตลาดมาตั้งแต่ปี 2564 การอนุมัติการควบรวมกิจการครั้งนี้โดยผู้ถือหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ปูทางให้ Truth Social เข้าสู่อาณาจักรตลาดหลักทรัพย์  Wall Street Journal รายงานว่าราคาปิดที่ 57.99 ดอลลาร์สหรัฐในวันอังคารที่ผ่านมามีการประเมินมูลค่า Truth Social ของ Donald Trump จะมีมูลค่าเกือบเท่ากับของ U.S. Steel มูลค่าหลักทรัพย์ของ DJT เพิ่มขึ้นประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความกระตือรือร้นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข่าวลือนี้ […]

2024-4-5 | คลังความรู้

วิเคราะห์ที่มาและผลกระทบ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 17 ปี

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่งส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในนโยบายการเงิน การตัดสินใจครั้งนี้มีผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตลาดหุ้น Nikkei ของญี่ปุ่น และมูลค่าของเงินเยน  ตามที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น คาซูโอะ อูเอดะระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แนวโน้มเศรษฐกิจเชิงบวกกำลังเกิดขึ้น พร้อมกับสัญญาณการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและราคา  การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ยุติยุคของอัตราดอกเบี้ยติดลบและนโยบาย Yield Curve Control ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2007 เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% อีกด้วย  บทความนี้จะเจาะลึกความเป็นมาของนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของญี่ปุ่น รวมถึงวิเคราะห์แนวโน้มที่ผิดปกติในตลาดหุ้นและตลาดสกุลเงินของญี่ปุ่นหลังจากที่ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยติดลบ และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นไปได้หลังจากนี้  ทำความเข้าใจนโยบายการเงิน: จากอัตราดอกเบี้ยติดลบไปเป็นบวก  การตัดสินใจของญี่ปุ่นในการดำเนินการและยุติอัตราดอกเบี้ยติดลบเกิดจากความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อมานาน โดยมีลักษณะการเติบโตที่ซบเซา การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และความกดดันจากภาวะเงินฝืด  เพื่อกระตุ้นการเติบโต ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในปี 2016 โดยลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงเหลือ -0.1%    อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคมของปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 10 จุด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 0-0.1% และยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ ธนาคารได้ละทิ้งนโยบาย Yield Curve Control (YCC) ซึ่งมุ่งหวังให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 0% และลดการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง […]

2024-3-29 | คลังความรู้