ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 3.50% ในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาเสถียรภาพเงินเฟ้อ และสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและยั่งยืน

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ RBNZ ในวันนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ในปี 2565 โดย RBNZ ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราส่วนเดียวกันในเดือนก.พ., เม.ย., พ.ค., ก.ค., ส.ค. และล่าสุดในเดือนต.ค.

แถลงการณ์ของ RBNZ ระบุว่า “ธนาคารกลางมองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไป เพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อและทำให้การจ้างงานขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและยั่งยืน โดยขณะนี้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป และทรัพยากรด้านแรงงานยังคงขาดแคลน”

อ้างอิง อินโฟเควสท์

แบงก์ชาติเกาหลีใต้คาดว่าเงินเฟ้อเคลื่อนไหวในระดับสูงยาวนาน

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ได้ออกมาระบุในวันนี้ (5 ต.ค.) ว่า เงินเฟ้อผู้บริโภครายปีของเกาหลีใต้นั้นมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในระดับสูงที่ประมาณ 5-6% พร้อมความเสี่ยงขาขึ้น เป็นระยะเวลานาน

ทั้งนี้ BOK ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงขาขึ้นสำหรับเงินเฟ้อ ได้แก่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินวอนและการลดการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือภาวะเงินเฟ้อในช่วงนี้และการคาดการณ์เงินเฟ้อ

สำนักงานสถิติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเกาหลีใต้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบเป็นรายปีเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนก.ย. อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของราคาน้ำมันและสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของเกาหลีใต้อาจแตะระดับสูงสุดแล้ว

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เงินบาทเปิด 37.45 แข็งค่าจากวานนี้ คาดกรอบ 37.35-37.55 จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทย

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 37.45 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 37.55 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับแข็งค่าขึ้นมาจากเย็นวาน หลังจากที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง ส่งผลให้ราคาทองคำ และสินทรัพย์อื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี คาดว่าวันนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ทรงตัว

“บาทเริ่มกลับมาแข็งค่า เพราะบอนด์ยีลด์สหรัฐลดลง คงเป็นเพราะการปรับฐาน จึงทำให้ราคาทองคำ และสินทรัพย์อื่นๆ เพิ่มขึ้น”

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจยูเครนทรุดตัว 35% ปีนี้ เซ่นพิษสงครามยืดเยื้อ

ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า การที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนตั้งแต่เดือนก.พ.จนถึงขณะนี้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจยูเครนทรุดตัวลง 35% ในปีนี้

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ทำลายโรงงานอุตสาหกรรมและพื้นที่เกษตรจำนวนมากของยูเครน และยังส่งผลให้ประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่ธนาคารโลกประมาณการว่า การบูรณะสิ่งก่อสร้างของยูเครนจะมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3.49 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.5 เท่าของขนาดเศรษฐกิจของยูเครนในช่วงก่อนเกิดสงคราม

“ยูเครนยังคงต้องการการสนับสนุนด้านการเงิน เนื่องจากสงครามยังคงดำเนินต่อไป รวมทั้งจำเป็นต้องมีโครงการฟื้นฟูและบูรณะประเทศ” แอนนา บีเจิร์ด รองประธานธนาคารโลกฝ่ายกิจการยุโรปและเอเชียกลางกล่าว

อ้างอิง อินโฟเควสท์

สหรัฐชี้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียช่วยผู้นำเข้าในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ประหยัดเงินนับแสนล้านดอลล์

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์รายงานโดยอ้างอิงผลการศึกษาของกระทรวงการคลังสหรัฐว่า ข้อเสนอกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียอาจช่วยบรรดาผู้นำเข้าในตลาดเกิดใหม่ประหยัดงบประมาณได้กว่าแสนล้านดอลลาร์

รายงานระบุว่า แผนกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียของกลุ่ม G7 นั้นจะช่วยให้ 50 ประเทศในตลาดเกิดใหม่และรายได้ต่ำ ตั้งแต่ตุรกีไปจนถึงเอลซัลวาดอร์และประเทศไทย สามารถประหยัดงบประมาณด้านการนำเข้าน้ำมันไปประมาณ 1.6 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังสหรัฐไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าต้องกำหนดเพดานราคาเท่าไหร่จึงจะช่วยประหยัดเงินได้ตามที่กล่าวอ้าง โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งจากกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า “ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมีนัยสำคัญ” เกี่ยวกับการประมาณการเรื่องการประหยัดค่านำเข้าน้ำมันดังกล่าว

อ้างอิง อินโฟเควสท์