ภาพรวมตลาดหุ้น และความเป็นไปของผลกำไรในอนาคต

2021-09-14

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตัวลงเมื่อวันศุกร์ ด้วยสถิติดัชนีที่อยู่ในเกณฑ์การขาดทุนรายสัปดาห์ ด้วยเป็นช่วงวันหยุดสั้นๆ ในสัปดาห์ของวันแรงงานในวันจันทร์ โดยตัวผู้เขียนเองก็สงสัยว่านักลงทุนบางรายก็อาจหยุดไปจนถึงช่วง Rosh Hashanah หรือวันปีใหม่ของชาวยิว 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในครั้งนี้เป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะใน Dow Jones ที่มีอัตรราการจองที่ลดลงรายสัปดาห์ติดต่อกัน 

แน่นอนว่าสาเหตุหลักที่ทุกคนนึกถึงคือการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่เป็นสาเหตุหลักของการชะลอตัวในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอาจเป็นเพราะคำสั่งของรัฐบาลกลางของ Apple ที่กล่าวว่าบริษัทไม่สามารถบังคับให้นักพัฒนาใช้ระบบการชำระเงินของตนได้ ทำให้ Apple  นั้นกลายเป็นดัชนีที่ต่ำที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม Dow Jones ที่ลดลงถึง 3.31% ทำให้ producer prices index (PPI หรือราคาผู้ผลิต) ทำสถิติสูงสุดใหม่  PPI เพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนและ 8.3% จากปีที่แล้ว ไม่รวมอาหารและพลังงาน หรือกล่าวได้ว่าดัชนี PPI หลักเพิ่มขึ้น 0.6% ต่อเดือน และ 6.7% ต่อปี 

สรุปภาพรวมตลาดในวันศุกร์ที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ดังนี้ 

 มูลค่าปิดตลาด 
(จุด) 
ค่าการเปลี่ยนแปลง 
(จุด) 
คิดเป็น  
Dow Jones 34,607.72    -271.66       -0.78% 
S&P 500        4458.58            -34.7         -0.77% 
Nasdaq Comp 15115.49  -132.76    -0.87% 
US 10Y                1.343%   
VIX         20.95    +2.15 +11.44% 

ส่วนตัวผู้เขียนอยากจะถามอีกครั้ง ว่านี่เป็นเพียงการดึงกลับอีกครั้งของ dip buyers สำหรับผู้ซื้อหรือเรากำลังมองหามูลค่าทางตลาดลดลงอีกหรือไม่? เนื่องจากปัจจุบันการระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นปัญหาที่สะเทือนในทุกวงการ อีกทั้งยังมีข่าวในเชิงลบในหุ้นเทคโนโลยีที่หลายคนอาจไม่ใส่ใจมากนัก และแน่นอนนโยบาย tapering ของ Fed ที่มีแนวโน้มที่จะดำเนินการเร็วกว่าปกติ แต่ก็ไม่สาม่รถหยุดตลาดไม่ให้ทำระดับสูงสุดใหม่ได้ 

อีกทั้งธนาคารเพื่อการลงทุนก็มีการเรียกร้องเชิงลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่ง Goldman Sachs, Morgan Stanley และ Citi Group ต่างก็ประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเทขายในตลาด อย่างที่ทราบกันดีว่าตลาดหุ้นหรือตลาดใด ๆ เมื่ออยู่ภาวะที่อ่อนแรงก็ต้องการพักหายใจ ทำให้เดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีอัตราการซื้อขายอ่อนที่สุดตามฤดูกาล ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าแม้ว่าผลการดำเนินการในอดีตจะไม่สามารถทำนายถึงอนาคตได้ แต่ข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา 

เมื่อตลาดกระทิงจะต้องการกำไร เรารู้ว่าตลาดหมีที่เรียกร้องให้มีการ retracement มาเป็นเวลานาน พวกเขาจะชนะในครั้งนี้หรือไม่? แล้วกองทัพค้าปลีกที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ เพราะค้าขายกับความกลัวและความโลภมากกว่าภาคส่วนอื่น ๆ สัปดาห์นี้จึงเป็นอีกสัปดาห์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นอย่าง การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันอังคาร ประกาศยอดค้าปลีกในวันพฤหัสบดี และประกาศความเชื่อมั่นผู้บริโภคในวันศุกร์… การระมัดระวังรัดเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อาจนำมาซึ่งผลที่ไม่เป็นดังหวังได้เช่นได้ 
 
ข้อมูลอ้างอิง: CBOE, Reuters, Bloomberg 
บทความโดย James Gomes ผู้คร่ำหวอดในวงการการเงินมากว่า 30 ปี โดยทำงานกับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯฯ มานานกว่า 20 ปี 


ประกาศความไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น 

แม้ว่า DOO Group จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อรับรองความถูกต้องของเอกสารหรือบทความนี้  แต่จะไม่รับรองหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ และ DOO Group จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการใช้เอกสารหรือบทความนี้ เนื้อหาในเอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปและเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษาเท่านั้น ซึ่งบทความนี้ไม่ใช่และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเสนอในการซื้อหรือขาย หรือเป็นการชักชวนให้เสนอซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น พันธบัตรหรือเครื่องมือทางการเงินหรือการลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เอกสารหรือบทคามนี้ไม่ควรใช้เป็นการแนะนำหรือให้การลงทุนหรือคำแนะนำอื่นใดเกี่ยวกับการซื้อ การขาย หรือการจำหน่ายตราสารทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่นใด การตัดสินใจลงทุนในเครื่องมือทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ หลักทรัพย์หรือการลงทุนไม่ควรทำโดยอาศัยข้อความใด ๆ ในเอกสารนี้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินของตนเองโดยคำนึงถึงความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน และพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบ 

 DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจหรือการดำเนินการใด ๆ โดยอาศัยข้อมูลในเอกสารหรือบทความนี้ และในกรณีใด ๆ DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดต่อความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง ทั้งโดยบังเอิญ โดยอ้อม หรือผลคล้ายกันที่เกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือบทความนี้ แม้ว่าจะได้แจ้งถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวแล้วก็ตาม 

เอกสารนี้หรือบทความนี้มีข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในเอกสารนี้อิงตามการคาดการณ์ในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อิงจากการวิเคราะห์ของ DOO Group จากสถิติที่มีอยู่ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวข้องกับการตัดสินที่เกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในอนาคต การแข่งขันและตลาดในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์อย่างแม่นยำ เนื่องด้วยความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญซึ่งมีอยู่ในข้อมูลเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในที่นี้ การรวมข้อมูลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นการแสดงโดย DOO Group ว่าจะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง DOO Group ขอแจ้งว่าให้ทราบว่าไม่ควรไว้วางใจในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป และไม่รับผิดชอบต่อการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ การแสดงความเห็นเป็นของผู้เขียนและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ 

เอกสารนี้ถือเป็นความลับกับผู้อ่านและข้ออมูลนี้มีการจัดหาเพียงเพื่อข้อมูลเท่านั้นและไม่สามารถทำซ้ำ  แจกจ่ายซ้ำ หรือส่งต่อ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมไปยังบุคคลอื่นหรือเผยแพร่ทั้งหมดหรือบางส่วน เพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ห้ามนำหรือส่งเอกสารนี้หรือสำเนาใด ๆ ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือแจกจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมในสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายเอกสารนี้ในเขตอำนาจศาลอื่นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมาย และบุคคลที่ครอบครองเอกสารนี้ควรแจ้งตนเองและปฏิบัติตามข้อจำกัดดังกล่าว การยอมรับรายงานนี้แสดงว่าคุณตกลงผูกพันตามคำแนะนำข้างต้น 

IconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-14 | พัฒนาระบบ

การอัปเดต MT4 Demo 1: การจัดเก็บข้อมูลคำสั่งซื้อ

เพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสบการณ์ในการเทรดของคุณ เราจะดำเนินการปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์ MT4 Demo 1 ตั้งแต่ 09:00 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ถึง (UTC+7) 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป 

article-thumbnail

2025-11-11 | ชั่วโมงการซื้อขาย

การปรับเวลาซื้อขายสำหรับวันหยุดในสหรัฐอเมริกา เดือนพฤศจิกายน 2568

เราขอแจ้งให้คุณทราบถึงการปรับเปลี่ยนเวลาซื้อขายในช่วงวันหยุดของสหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน 2568   วันหยุดในสหรัฐอเมริกา  กรุณาตรวจสอบตารางเวลาซื้อขายที่อัปเดตด้านล่างสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ และวางแผนการเทรดของคุณล่วงหน้าอย่างเหมาะสม  เวลาซื้อขายที่ปรับเปลี่ยนสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ:  ประเภทสินทรัพย  รหัสสินค้า  ชื่อผลิตภัณฑ์  USDBRL  ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับเรียลบราซิล  จันทร์, 11 พ.ย. 04:00 ~ พุธ, 13 พ.ย. 20:30  พฤหัสบดี, 20 พ.ย. 04:00 ~ เสาร์, 22 พ.ย. 20:30  หมายเหตุสำคัญ:  หากมีคำถามเพิ่มเติม โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของเรา