Sell-off และ Market Rally

2021-09-27

บทความวิเคราะห์ตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดสูงขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงส่งผลให้ตลาดทั้งสัปดาห์ปิดสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีความผันผวนอย่างมากในระหว่างสัปดาห์ทำให้ตลาดปิดสูงขึ้นและเป็นหตุให้เกิดความผันผวนอย่างมากจากแนวโน้มที่กำลังต่ำลง

จากการแถลงของ Fed ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระบุถึงกองทุนสำรองที่กำลังพิจารณา
ลดการสนับสนุนเงินสำรองในไม่ช้า จากความกังวลของผลกระทบของ China Evergrande Group อีกทั้งผลกระทบจากการนโยบายปราบปราม Cryptocurrencies ของประเทศจีนอีกด้วย โดยจากรายงานของ Bloomberg ที่รวบรวมข้อมูลจาก Bank of America Corp และ EPFR Global data พบว่ากองทุนมูลค่ามีอัตราการไหลออกของเงินในตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 3 จากทั้งหมดที่เคยมีมา โดยเงินส่วนใหญ่นั้นมาจากหุ้นเทคโนโลยี ที่นับเป็นการเสี่ยงสูงสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า
นักลงทุนต่างดึงเงินออกจากหุ้นและเงินสด เพื่อเปลี่ยนไปใช้กองทุนตราสารหนี้มากถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์และในโลหะมีค่าถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาด

สรุปภาพรวมตลาดในวันศุกร์ที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ดังนี้ 

 มูลค่าปิดตลาด 
(จุด) 
ค่าการเปลี่ยนแปลง 
(จุด) 
คิดเป็น  
Dow Jones 34,798.00     +33.18        +0.10%
S&P 500        4455.48           +6.5            +0.15%
Nasdaq Comp 15047.70       -4.55           -0.03%
US 10Y              1.453%  
VIX       17.75-0.88-4.72%

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องถามตัวเองว่าทำไมตลาดจึงดีดตัวขึ้นในช่วง 3 วันสุดท้ายของสัปดาห์ หลังจากการเทขายในวันจันทร์และวันอังคาร โดยกล่าวได้ว่า
อาจเป็นเพราะ Fed, China Evergrande และ Crypto คือปัจจัยที่ทำให้มูลค่าการตลาด
ลดลง แม้ว่าผู้เขียนจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ก็กล่าวได้ว่าการประชุมที่ผ่านมานั้นเกี่ยวกับเรื่องเทคนิคล้วนๆ โดย S&P เริ่มต้นสัปดาห์จากมูลค่าต่ำกว่า
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งเป็นระดับเทคนิคที่ได้รับสื่อต่างๆ ใช้ในการอ้างอิง
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น S&P มีปริมาณการซื้อขายที่ต่ำกว่ามูลค่า
ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็มีมูลค่าปิดตลาดที่ดีกว่าสถิติเริ่มต้นในจันทร์

อ้างอิง: Source: CBOE, Reuters, Bloomberg


ประกาศความไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น 

แม้ว่า DOO Group จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อรับรองความถูกต้องของเอกสารหรือบทความนี้ แต่จะไม่รับรองหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ และ DOO Group จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการใช้เอกสารหรือบทความนี้ เนื้อหาในเอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปและเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษาเท่านั้น ซึ่งบทความนี้ไม่ใช่และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเสนอในการซื้อหรือขาย หรือเป็นการชักชวนให้เสนอซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น พันธบัตรหรือเครื่องมือทางการเงินหรือการลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เอกสารหรือบทคามนี้ไม่ควรใช้เป็นการแนะนำหรือให้การลงทุนหรือคำแนะนำอื่นใดเกี่ยวกับการซื้อ การขาย หรือการจำหน่ายตราสารทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่นใด การตัดสินใจลงทุนในเครื่องมือทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ หลักทรัพย์หรือการลงทุนไม่ควรทำโดยอาศัยข้อความใด ๆ ในเอกสารนี้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินของตนเองโดยคำนึงถึงความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน และพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบ

DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจหรือการดำเนินการใด ๆ โดยอาศัยข้อมูลในเอกสารหรือบทความนี้ และในกรณีใด ๆ DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดต่อความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง ทั้งโดยบังเอิญ โดยอ้อม หรือผลคล้ายกันที่เกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือบทความนี้ แม้ว่าจะได้แจ้งถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวแล้วก็ตาม
เอกสารนี้หรือบทความนี้มีข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในเอกสารนี้อิงตามการคาดการณ์ในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อิงจากการวิเคราะห์ของ DOO Group จากสถิติที่มีอยู่ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวข้องกับการตัดสินที่เกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในอนาคต การแข่งขันและตลาดในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์อย่างแม่นยำ เนื่องด้วยความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญซึ่งมีอยู่ในข้อมูลเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในที่นี้ การรวมข้อมูลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นการแสดงโดย DOO Group ว่าจะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง DOO Group ขอแจ้งว่าให้ทราบว่าไม่ควรไว้วางใจในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป และไม่รับผิดชอบต่อการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ การแสดงความเห็นเป็นของผู้เขียนและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

เอกสารนี้ถือเป็นความลับกับผู้อ่านและข้ออมูลนี้มีการจัดหาเพียงเพื่อข้อมูลเท่านั้นและไม่สามารถทำซ้ำ แจกจ่ายซ้ำ หรือส่งต่อ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมไปยังบุคคลอื่นหรือเผยแพร่ทั้งหมดหรือบางส่วน เพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ห้ามนำหรือส่งเอกสารนี้หรือสำเนาใด ๆ ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือแจกจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมในสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายเอกสารนี้ในเขตอำนาจศาลอื่นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมาย และบุคคลที่ครอบครองเอกสารนี้ควรแจ้งตนเองและปฏิบัติตามข้อจำกัดดังกล่าว การยอมรับรายงานนี้แสดงว่าคุณตกลงผูกพันตามคำแนะนำข้างต้น

IconBrandElement

article-thumbnail

2025-12-26 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

คาดการณ์ ปี 2026 ‘ทองคำและเงิน’ เป็นขาขึ้นหรือขาลง?  

ตอนนี้ทองคำและเงินยังคงเดินหน้าทำลายสถิติใหม่ไม่หยุด เรียกว่าพุ่งทะลุ All-Time High กันแทบจะสัปดาห์เว้นสัปดาห์เลยทีเดียว จากตอนแรกที่ดูเหมือนเป็นการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป กลายเป็นว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงการแรลลี่ที่แข็งแกร่งที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ จนดึงดูดสายตาทั้งนักลงทุนสายถือยาวและเดย์เทรดให้หันมามองกันหมด  คำถามที่ทุกคนอยากรู้คือ ในปี 2026 เทรนด์นี้จะยังไปต่อได้ไหม หรือราคาเริ่มวิ่งนำหน้าปัจจัยพื้นฐานไปไกลเกินแล้ว?   จนถึงตอนนี้ ปัจจัยต่างๆ ยังคงซัพพอร์ตราคาได้ดี ทั้งแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง ความคาดหวังเรื่องดอกเบี้ยที่เปลี่ยนไป ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และความกังวลในค่าเงินฟีแอต ทั้งหมดนี้คือเชื้อเพลิงที่ทำให้ดีมานด์พุ่งสูงขึ้น เมื่อมองไปถึงปี 2026 ตลาดจึงต้องมาเช็คกันว่าแรงส่งเหล่านี้จะยังทำงานอยู่หรือไม่  ทำไมทองคำและเงินถึงทำสถิติสูงสุดใหม่?  การที่โลหะมีค่าพุ่งแรงขนาดนี้ เกิดจากการประสานแรงของปัจจัยมหภาคหลายตัวพร้อมกัน:  พอปัจจัยเหล่านี้มารวมกัน ก็ทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือทองคำและเงิน (ซึ่งไม่มีปันผลหรือดอกเบี้ย) ลดน้อยลง กลายเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและน่าดึงดูดกว่าการเก็บเงินในระบบการเงินปกติ  ในปี 2026 Fed จะลดดอกเบี้ยหนักกว่าเดิมไหม?  คำถามยอดฮิตที่หลายคนเสิร์ชกันคือ “การลดดอกเบี้ยส่งผลยังไงกับทองและเงิน?”  ตอนนี้ตลาดโฟกัสไปที่นโยบายการเงินเฟสถัดไป ถ้าเงินเฟ้อยังคุมได้และตัวเลขจ้างงานชะลอตัวต่อเนื่อง โอกาสที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยเพิ่มก็มีสูง ซึ่งตามสถิติแล้ว ช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาลงมักจะเป็น “สวรรค์” ของทองคำและเงิน โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่ตลาดปรับความคาดหวังได้เร็วกว่าตัวนโยบายจริงเสียอีก  ตัวเลข CPI และการจ้างงาน สำคัญแค่ไหน?  สองตัวนี้คือหัวใจหลักของแนวโน้มราคาเลย:  หากเทรนด์นี้ยังอยู่ เราอาจได้เห็นราคาทองและเงินพุ่งรับข่าวล่วงหน้าไปก่อนที่นโยบายจะประกาศใช้จริงเสียอีก  สัญญาณจาก Gold-to-Silver Ratio บอกอะไรเรา?  ดัชนี Gold-to-Silver Ratio คือตัววัดว่าต้องใช้เงินกี่ออนซ์เพื่อซื้อทองคำหนึ่งออนซ์ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ค่าเฉลี่ยของดัชนีนี้มักจะต่ำกว่าระดับปัจจุบันมาก ถ้าระดับนี้ยังสูงอยู่ แปลว่าเงิน ยังถูกมากเมื่อเทียบกับทอง ถ้าระดับนี้ต่ำ แปลว่าเงินเริ่มแพงแล้ว   ปัจจุบันดัชนีนี้ยังอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวค่อนข้างมาก ซึ่งสะท้อนว่าที่ผ่านมา “เงิน” วิ่งตาม “ทอง” ไม่ทัน แม้จะไม่ได้ยืนยันว่าราคาต้องพุ่งขึ้นแน่นอน แต่มันชี้ให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำของมูลค่าที่น่าจับตามอง หากตลาดทองยังพีคอยู่แบบนี้ ส่วนต่างตรงนี้อาจจะแคบลงได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับภาวะมหภาคและพฤติกรรมของนักลงทุนด้วย  เป้าหมายราคาปี 2026: จะไปได้ไกลแค่ไหน?  แทนที่จะฟันธงเป๊ะๆ ตลาดมักจะมองเป็นสถานการณ์ต่างๆ มากกว่า แน่นอนว่าไม่ใช่การการันตี แต่มันคือภาพสะท้อนว่าตลาดเคยทำอะไรแบบนี้มาแล้วในช่วงที่วัฏจักรเศรษฐกิจเอื้ออำนวย  ระวังจุดเปลี่ยนช่วงครึ่งหลังของปี 2026  แม้ช่วงต้นปีจะดูสดใส แต่ต้องระวังตัวแปรที่อาจเปลี่ยนเกมได้ เช่น:  ต้องไม่ลืมว่าโลหะมีค่าวิ่งตาม “ความคาดหวัง” ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่ออกมาแล้วเท่านั้น  สรุปแล้ว ปี 2026 น่าซื้อหรือน่าขาย?  ภาพรวมตอนนี้ยังดูเป็นบวก สำหรับทองคำและเงิน โดยเฉพาะในช่วงต้นปี แต่หน้างานก็สามารถเปลี่ยนได้เสมอตามสไตล์ตลาดที่เคลื่อนที่ด้วยปัจจัยมหภาค ปี 2026 จึงน่าจะเป็นปีที่ราคาวิ่งตามสัญญาณนโยบายและข้อมูลเศรษฐกิจแบบติดขอบสนาม ใครที่เป็นสายเทรดต้องติดตามความเชื่อมั่นของตลาดให้ดี 

article-thumbnail

2025-12-26 | พัฒนาระบบ

การอัปเดต MT4 Demo 5: การจัดเก็บข้อมูลคำสั่งซื้อ 

เพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสบการณ์การเทรดของคุณให้ดียิ่งขึ้น เราจะดำเนินการบำรุงรักษาตามกำหนดบนเซิร์ฟเวอร์ MT4 Demo 5 ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ถึงเวลา 09:00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 (UTC+7)  

article-thumbnail

2025-12-23 | อัปเดตผลิตภัณฑ์

ประกาศยุติการซื้อขายสินค้า Futures บางรายการ 

เพื่อให้ atสอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบ และการบริหารจัดการรายการผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เราขอแจ้งการอัปเดตสถานะการซื้อขายของสัญญาฟิวเจอร์สบางรายการ โดยสัญญาที่ได้รับผลกระทบจะเปลี่ยนสถานะเป็น “โหมดปิดสถานะเท่านั้น” ก่อนที่จะดำเนินการถอดถอนออกจากแพลตฟอร์มการซื้อขายอย่างสมบูรณ์  ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบกำหนดการและรายชื่อสัญลักษณ์ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบริหารจัดการสถานะคงค้างหรือรายการคำสั่งซื้อขายที่รอการจับคู่ให้เรียบร้อยตามรายละเอียดด้านล่าง  กำหนดการสำคัญ:  สถานะ  วันที่และเวลา (UTC+7)  โหมดปิดสถานะเท่านั้น (Close-Only Mode Begins)  22 ธันวาคม 2025 – เวลา 19:00 น.  ถอดถอนออกจากแพลตฟอร์ม  24 ธันวาคม 2025 – เวลา 14:00 น.  มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?  ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2025 เวลา 19:00 น. เป็นต้นไป:  สัญญาฟิวเจอร์สที่ได้รับผลกระทบจะเข้าสู่โหมดปิดสถานะเท่านั้น โดยท่านจะสามารถทำได้เพียงการปิดสถานะที่มีอยู่เดิม แต่จะไม่สามารถเปิดสถานะใหม่หรือวางคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าได้  วันที่ 24 ธันวาคม 2025 เวลา 14:00 น. เป็นต้นไป: สัญญาฟิวเจอร์สที่ได้รับผลกระทบจะถูกถอดถอนและนำออกจากแพลตฟอร์มการซื้อขายอย่างสมบูรณ์  บริษัทขอแนะนำให้ท่านปิดสถานะและยกเลิกคำสั่งซื้อขายที่ค้างอยู่ทั้งหมดก่อนเวลาที่กำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบหรือการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นจากการถอดถอนสัญญา  รายชื่อสัญญาฟิวเจอร์สที่ได้รับผลกระทบ  ผลิตภัณฑ์  สัญลักษณ์  รายละเอียด  XC  XC_2603  Mini Corn Futures  XK  XK_2601  Mini Soybean Futures  XW  XW_2603  Mini Wheat Futures  M2K  M2K_2603  Micro E-mini Russell 2000 Index Futures  MYM  MYM_2603  Micro E-mini Dow Jones Industrial […]