Search Mark
หน้าแรก / บทความวิเคราะห์ตลาด

ธนาคาร SVB ล่มทำหุ้นสหรัฐปั่นป่วน นักลงทุนวิ่งเข้าหา Safe Haven


หุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2023 ปิดฉากสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดของปีหลังจากปิดลบติดต่อกันมา 4 วัน 

ในวันเดียวกันนั้นเอง หน่วยงานรัฐบาลกลางสั่งปิดธนาคารซิลิคอนแวลลีย์ (SVB: Silicon Valley bank) ซึ่งเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้แก่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยี การปิดธนาคาร SVB เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของธนาคารนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและทองคำได้กลับมาเป็น Safe Haven ของนักลงทุนอีกครั้ง เมื่อหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคดิ่งลงอย่างหนัก 

ปัญหาธนาคารล้ม ทำให้ตลาดมองข้ามรายงานการจ้างงานประจำเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตัวเลขออกมาแบบผสม โดยตัวเลขการจ้างงานทั่วไปสูงกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินจ้างเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% จากที่คาดไว้ 0.3% และอัตราการว่างงานสูงกว่าเดือนก่อนหน้า ซึ่งโดยรวมแล้ว ตัวเลข payroll มีความเฟ้อน้อยกว่าที่คาดไว้  

การขึ้นของตลาดหลังจากการแถลงตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ที่เกิดจากความกลัวความตึงเครียดในภาคการธนาคาร และทำให้ตลาดเข้าสู่โหมด Risk off ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าไปหาสินทรัพย์ Safe Haven 

ขณะนี้ตลาดสวอปกำหนดราคาไว้ที่ 25 bps ในการประชุมครั้งต่อไป ความคาดหมายที่ 50 bps ถูกตัดทิ้งไป อีกทั้ง พวกเขายังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงตอนสิ้นปี 

สำหรับสัปดาห์นี้ ค่าเฉลี่ยดาวโจนส์ลดลง 4.4%, S&P 500 ลดลง 4.5% และ Nasdaq Composite ลดลง 4.7% 

และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2023         

 ราคาปิดตลาด     ราคาที่เปลี่ยน     %ที่เปลี่ยน      
Dow Jones 31,909.64. -345.22. -1.07% 
S&P 500 3,861.59. -56.73. -1.45% 
Nasdaq Comp 11,138.89. -199.46. -1.76% 
U.S. 10Y 3.7%   
VIX 24.8 +2.19 +9.69% 

เป็นสัปดาห์ที่ยากลำบากสำหรับนักเทรดในตลาดกระทิงเป็นอย่างยิ่ง  

หากมองกลับไปแล้ว มันอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ ผมยังสงสัยว่านักเทรดในตลาดกระทิงหลายคนยังเต็มใจที่จะเชื่ออยู่ว่าตลาดจะพุ่งขึ้นในไม่ช้า 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความเสี่ยงหนึ่ง หากความล้มเหลวของ SVB เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาและความตึงเครียดในภาคธนาคาร ตลาดหุ้นก็อาจจะแย่ลงได้ 

อีกทั้ง มีรายงานอยู่แล้วว่าธนาคารกำลังแข่งขันกันโดยการเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่น่าสนใจ โดยใช้กำไรที่มีอยู่ 

เราจะเห็นความตึงเครียดในภาคส่วนอื่นๆ หรือไม่ บริษัทต่างๆ จะเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดของอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นล่าสุดของเฟดหรือเปล่า 

อาจเกิดความสับสนกับพันธบัตรที่พุ่งขึ้นอย่างหนัก โดยเฉพาะพันธบัตรประเภท 2 ปี 

พันธบัตรลดลง จากที่สูงกว่า 5% มาปิดในวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 4.59% อัตราผลตอบแทนบ่งชี้ว่าเฟดจะถอยกลับหลังจากการปรับขึ้นครั้งต่อไป อัตราดอกเบี้ยปลายทางอาจถูกปรับให้ต่ำลง 

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการตอบสนองแบบเกินเหตุ ในการหันไปหาสินทรัพย์ Safe Haven ซึ่งมักจะเกิดขึ้นหลังเกิดความตึงเครียดในตลาดการเงิน กรณีนี้คือเรื่องการล่มสลายของธนาคาร SVB และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับธนาคารขนาดเล็ก/ระดับภูมิภาคอื่นๆ  

นักลงทุนหันไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล แม้ว่าจะราคาสูงเกินไปก็ตาม เหตุเพราะเป็นสินค้าที่มีความปลอดภัยมากกว่า 

รายงาน CPI ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นตัวสำคัญในการกำหนดว่าอัตราผลตอบแทนจะตอบสนองอย่างไร หากตัวเลขรายงานออกมาสูงกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ อัตราผลตอบแทนจะต้องปรับราคาให้เข้ากับนโยบาย Hawkish ของเฟดด้วย 

อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะตอบสนองด้วยการผ่อนปรนนโยบาย hawkish ลง และอาจจะเปลี่ยนเป็น dovish หากความตึงเครียดของภาคการธนาคารแย่ลง 

สำหรับตลาดหุ้น S&P เกือบจะคืนกำไรทั้งหมดของปี 2023 แล้ว แต่ Nasdaq ยังคงเพิ่มขึ้นเกือบ 8% YTD 

หุ้น S&P จำเป็นต้องปีนขึ้นไปอยู่เหนือระดับต่ำสุดของเดือนมกราคม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ meltdown ขึ้น 

บทความนี้เขียนโดย James Gomes      

เจมส์อยู่ในวงการการเงินมากว่า 30 ปี และล่าสุดเขาทำงานให้กับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปีแล้ว     

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ   

ในขณะที่ Doo Group พยายามเพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารนี้ ทางบริษัทไม่รับประกันหรือรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ Doo Group ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการใช้เอกสารนี้ เนื้อหาที่อยู่ในเอกสารนี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปและเพื่อการศึกษาเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเสนอซื้อหรือขาย หรือเป็นการชักชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น พันธบัตรหรือเครื่องมือทางการเงินหรือการลงทุนอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ไม่มีข้อความใดในเอกสารนี้ที่ถือเป็นคำแนะนำหรือให้คำแนะนำด้านการลงทุนหรือคำแนะนำอื่นๆ เกี่ยวกับการซื้อ การขาย หรือการจำหน่ายเครื่องมือทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องใดๆ หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่นใด การตัดสินใจลงทุนในตราสารทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่น ๆ ไม่ควรขึ้นอยู่กับข้อความใด ๆ ในเอกสารนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินของตนเอง คำนึงถึงความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน และพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบ   

โดยไม่จำกัดเพียงแค่สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Doo Group หรือบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจหรือการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยอาศัยข้อมูลในเอกสารนี้ และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Doo Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยกรณีพิเศษ ในเชิงลงโทษ โดยบังเอิญ หรือทางอ้อม หรือสิ่งที่คล้ายกันซึ่งเกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับเอกสารนี้ แม้ว่าจะมีการแจ้งให้ทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวแล้ว   

เอกสารนี้มีข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในเอกสารนี้อ้างอิงจากการคาดการณ์ในปัจจุบันซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์ของ Doo Group จากสถิติที่มีอยู่ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้านั้นเกี่ยวข้องกับการตัดสินเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การแข่งขัน และตลาดในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้มีความยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายได้อย่างแม่นยำ ในแง่ของความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญซึ่งแฝงอยู่ในข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต การรวมข้อมูลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นการแสดงโดย Doo Group ว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าจะบรรลุผลสำเร็จ Doo Group เตือนว่าอย่าเชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป และเราไม่มีส่วนรับผิดชอบในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ การแสดงความคิดเห็นเป็นของผู้เขียนและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า   

เอกสารนี้เป็นความลับของผู้รับอย่างเคร่งครัด ถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณเพื่อเป็นข้อมูลของคุณเท่านั้น และไม่สามารถทำซ้ำ แจกจ่ายซ้ำ หรือส่งต่อไปยังบุคคลอื่นโดยตรงหรือโดยอ้อมหรือเผยแพร่ทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์ใด ห้ามมิให้นำหรือส่งเอกสารนี้หรือสำเนาใดๆ ของเอกสารนี้ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือแจกจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมในสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายเอกสารนี้ในเขตอำนาจศาลอื่นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมาย และผู้ที่มีเอกสารนี้อยู่ในครอบครองควรแจ้งให้ทราบด้วยตนเอง และปฏิบัติตามข้อจำกัดดังกล่าว การยอมรับรายงานนี้แสดงว่าคุณตกลงที่จะผูกพันตามคำแนะนำข้างต้น 

แชร์ไปที่

บทความวิเคราะห์ตลาด

ตลาดพุ่ง นักลงทุนมองภาคเทคในแง่ดี ความกลัวขึ้นดอกเบี้ยคลายลง

ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยถือเป็นผลการดำเนินงานรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้ การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้รับแรงผลักดันมาจากคำพูดเชิงบวกจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ซึ่งให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่าการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของพวกเขามีมุมมองเป็นบวก  ข้อมูลเงินเฟ้อที่นักลงทุนมองข้าม  แม้จะเผชิญกับข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด แต่นักลงทุนก็ดูเหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อมูลนั้น เทรดเดอร์บางรายเตรียมพร้อมสำหรับตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยมีข้อบ่งชี้ล่าสุดว่า Federal Reserve กำลังพยายามที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดจึงไม่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ  พันธบัตรรัฐบาล ความผันผวนของค่าเงิน และราคาทองคำ  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแสดงผลการดำเนินงานแบบผสมผสาน โดยพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวทำได้ดีกว่าระยะสั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงประมาณ 3 จุดมาอยู่ที่ 4.663%  ดัชนี Bloomberg Dollar Spot แข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง 1.4% ใกล้ระดับ 158 เยนต่อดอลลาร์ การอ่อนค่าของเยนในครั้งนี้ทำให้นักลงทุนจับตาดูการแทรกแซงที่อาจเกิดขึ้นจากทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด  นอกเหนือจากนี้ ราคาทองคำก็ขยับสูงขึ้น สะท้อนถึงความสนใจอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน    สรุปการเคลื่อนไหวตลาดรายสัปดาห์  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.7% ดัชนี Nasdaq Composite […]

2024-4-29 | บทความวิเคราะห์ตลาด

S&P 500 ร่วง ท่ามกลางการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาคเทคอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

ตลาดหุ้นต้องเผชิญกับสัปดาห์ที่โหดร้าย โดย S&P 500 ประสบพบกับผลการดำเนินงานที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 การลงครั้งนี้ได้รับแรงหนุนมาจากความวิตกกังวลในตลาด  ผลกระทบทางเศรษฐกิจและธนาคารกลางสหรัฐ  ประการแรก ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินความคาดหมาย บวกกับแถลงการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักจากธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้เกิดความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยอาจยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปเป็นระยะเวลานานขึ้น  สิ่งนี้ได้บั่นทอนแรงซื้อของนักลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีการเติบโต ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย  ประการที่สอง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านได้เพิ่มความไม่แน่นอนอีกชั้นหนึ่งให้กับตลาด  ปัจจัยลบในภาคเทคโนโลยี  การขายออกที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคเทคโนโลยี ที่ได้รับแรงกดดันมาจากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น ASML และ TSM  รายงานเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงฤดูกาลประกาศรายได้ที่กำลังจะมาถึงสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Amazon นักลงทุนต่างคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งแต่ยังคงกังวลเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทเหล่านี้ในการตอบสนองความคาดหวังสำหรับโครงการด้านปัญญาประดิษฐ์ของพวกเขา  ภาพรวมผลประกอบการรายสัปดาห์  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ลดลง -3.1% ดัชนี Nasdaq Composite ที่เน้นด้านเทคโนโลยีลดลง -5.5% และดัชนีบลูชิป Dow ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ +0.01%  และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 Index  Last  Change  %Change  DOW […]

2024-4-22 | บทความวิเคราะห์ตลาด

ตลาดหุ้นปิดบวกท่ามกลางการมองในแง่ดีด้านเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นได้ปิดทำการในสัปดาห์นี้ด้วยสัญญาณเชิงบวกหลังจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นก็ตาม  S&P 500 เติบโตมากกว่า 1% Wall Street ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยแนะนำว่า Federal Reserve อาจไม่จำเป็นต้องปรับนโยบายแบบเร่งด่วน สิ่งนี้นำไปสู่การปรับราคาในตลาดตราสารหนี้โดยที่อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังเพิ่มขึ้น การคาดการณ์การเติบโตของงานและอัตราดอกเบี้ย  ตัวเลขเงินเดือนสหรัฐเพิ่มขึ้น 303,000 ในเดือนมีนาคม โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.8% และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ในช่วงนี้นักลงทุนยังเห็นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.40% ในขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ราคาน้ำมันเบรนท์อยู่เหนือระดับ 90 ดอลลาร์   แม้ว่าผลการดำเนินงานของตลาดงานจะแข็งแกร่ง แต่ Mohamed El-Erian หัวหน้าที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของ Allianz คาดการณ์ว่า Federal Reserve อาจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้  สัญญา Swap ซึ่งเป็นมาตรวัดสำหรับคาดการณ์การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเป็นประมาณ 52% โดยความน่าจะเป็นในเดือนกรกฎาคมจะลดลงต่ำกว่า 100%  ภาพรวมผลการดำเนินงานของตลาด  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ร่วงลง -1.0% ดัชนี Nasdaq […]

2024-4-9 | บทความวิเคราะห์ตลาด