หุ้นสหรัฐปิดสูงขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2023 โดยขณะนี้ S&P เข้าสู่แดนกระทิง นำโดยหุ้นเทคโนโลยี
ในช่วงต้นของสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดถูกทดสอบจากการที่แคนาดาและออสเตรเลียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้พลิกผันไปในวันพฤหัสบดี เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (jobless claims) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ประกอบกับข้อมูล ISM ที่อ่อนแอและยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน (Factory Orders) ที่ต่ำกว่าคาด ปัจจัยเหล่านี้บ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจขัดขวางไม่ให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ขณะนี้ตลาดกำลังกำหนดราคาอยู่ โดยมีโอกาส 33% ที่จะเกิดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า และมีโอกาส 90% ที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม
ในระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา S&P 500 ออกจากจุดต่ำสุดของตลาดหมี ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้น 0.4% เป็นบวกสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน Nasdaq พุ่งขึ้นถึง 0.1% นับเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการขึ้นต่อเนื่องที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 อีกทั้ง Dow Jones ปิดสัปดาห์ด้วยการเพิ่มขึ้น 0.3%
นักลงทุนได้รับแรงหนุนจากการขึ้นครั้งล่าสุด รวมถึงราคาที่เพิ่มขึ้นของหุ้นขนาดเล็ก เนื่องจาก Russell 2000 ได้เพิ่มขึ้น 1.9% อีกด้วยในสัปดาห์นี้
และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2023
ราคาปิดตลาด | ราคาที่เปลี่ยน | % ที่เปลี่ยน | |
Dow Jones | 33,876.78 | +43.17. | +0.13% |
S&P 500 | 4,298.86 | +4.93. | +0.11% |
Nasdaq Comp | 13,259.14 | +20.62. | +0.16% |
U.S. 10Y | 3.74% | ||
VIX | 13.83 | 0.00. | 0.00% |
ดังที่ได้กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดเริ่มแสดงอาการอ่อนล้าออกมาให้เห็นแล้ว
เราเห็นได้ว่าสัปดาห์ที่แล้วก็เป็นบวกอีกสัปดาห์หนึ่ง ทำให้ S&P เข้าสู่ตลาดกระทิงตามทฤษฎี แต่การขึ้นครั้งนี้น้อยลงเทียบกับอาทิตย์ที่แล้ว
ปกติแล้ว หลังจากผลกำไรที่ออกมาน่าประทับใจเช่นนี้ ก็จะเกิดการคาดการณ์ว่าอัตราการเพิ่มขึ้นจะชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม เพื่อการเข้าสู่ตลาดกระทิงอย่างชัดเจน ตลาดจำเป็นต้องก้าวข้ามจุดสูงสุดที่ทำได้ในปี 2021 เสียก่อน
เป็นอีกครั้งที่ตลาดสวนทางกับความคาดหวัง เพิกเฉยกับการคาดการณ์ว่าเฟดจะดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งยังไม่คำนึงถึงตัวบ่งชี้เศรษฐกิจ (Economic Indicators) ที่ยังส่งสัญญาณของการชะลอตัวหรือแม้แต่ภาวะถดถอย
ตลอดปีที่ผ่านมา ผมว่ามันเป็นเรื่องงงงวยเป็นอย่างมากว่าตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นได้อย่างไรในตอนที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ เหตุผลที่ได้กลับมาคือเฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเหตุผลนี้จะมองข้ามปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นอยู่
ขณะนี้นักลงทุนกำลังประสบกับความรู้สึก FOMO หรือความกลัวที่จะพลาดบางสิ่งบางอย่างไปท่ามกลางตลาด AI ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ตลาดดูเหมือนจะอยู่ในสถานะซื้อ (Long Position) และมีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดจะขยายต่อไป ทำนักขายชอร์ตผิดหวังทุกครั้งที่เกิดการรีบาวน์
ในท้ายที่สุดแล้ว ผู้ขายชอร์ตอาจทำถูกต้องแล้ว หากพิจารณาถึงปัจจัยเรื่อง Inverted Yield Curve และวิธีการของเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่เป็นระยะเวลานาน คำถามก็คือ พวกเขาจะทนต่อความเจ็บปวดได้นานมากเท่าใดก่อนจะเกิดการเทขายขึ้น
สำหรับตอนนี้แล้ว ผู้ขายชอร์ตก็ได้เห็นแล้วว่าการต่อต้านตลาดขาขึ้นที่เกิดจาก FOMO เป็นอะไรที่ท้าทายเป็นอย่างมาก และดูมีแนวโน้มที่จะอยู่เป็นเวลานานเช่นกัน
อ้างอิง CBOE, Bloomberg
บทความนี้เขียนโดย James Gomes
เจมส์อยู่ในวงการการเงินมากว่า 30 ปี และเขาทำงานให้กับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปีแล้ว
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ในขณะที่ Doo Group พยายามเพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารนี้ ทางบริษัทไม่รับประกันหรือรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ Doo Group ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการใช้เอกสารนี้ เนื้อหาที่อยู่ในเอกสารนี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปและเพื่อการศึกษาเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเสนอซื้อหรือขาย หรือเป็นการชักชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น พันธบัตรหรือเครื่องมือทางการเงินหรือการลงทุนอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ไม่มีข้อความใดในเอกสารนี้ที่ถือเป็นคำแนะนำหรือให้คำแนะนำด้านการลงทุนหรือคำแนะนำอื่นๆ เกี่ยวกับการซื้อ การขาย หรือการจำหน่ายเครื่องมือทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องใดๆ หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่นใด การตัดสินใจลงทุนในตราสารทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่น ๆ ไม่ควรขึ้นอยู่กับข้อความใด ๆ ในเอกสารนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินของตนเอง คำนึงถึงความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน และพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบ
โดยไม่จำกัดเพียงแค่สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Doo Group หรือบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจหรือการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยอาศัยข้อมูลในเอกสารนี้ และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Doo Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยกรณีพิเศษ ในเชิงลงโทษ โดยบังเอิญ หรือทางอ้อม หรือสิ่งที่คล้ายกันซึ่งเกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับเอกสารนี้ แม้ว่าจะมีการแจ้งให้ทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวแล้ว
เอกสารนี้มีข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในเอกสารนี้อ้างอิงจากการคาดการณ์ในปัจจุบันซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์ของ Doo Group จากสถิติที่มีอยู่ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้านั้นเกี่ยวข้องกับการตัดสินเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การแข่งขัน และตลาดในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้มีความยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายได้อย่างแม่นยำ ในแง่ของความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญซึ่งแฝงอยู่ในข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต การรวมข้อมูลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นการแสดงโดย Doo Group ว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าจะบรรลุผลสำเร็จ Doo Group เตือนว่าอย่าเชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป และเราไม่มีส่วนรับผิดชอบในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ การแสดงความคิดเห็นเป็นของผู้เขียนและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เอกสารนี้เป็นความลับของผู้รับอย่างเคร่งครัด ถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณเพื่อเป็นข้อมูลของคุณเท่านั้น และไม่สามารถทำซ้ำ แจกจ่ายซ้ำ หรือส่งต่อไปยังบุคคลอื่นโดยตรงหรือโดยอ้อมหรือเผยแพร่ทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์ใด ห้ามมิให้นำหรือส่งเอกสารนี้หรือสำเนาใดๆ ของเอกสารนี้ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือแจกจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมในสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายเอกสารนี้ในเขตอำนาจศาลอื่นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมาย และผู้ที่มีเอกสารนี้อยู่ในครอบครองควรแจ้งให้ทราบด้วยตนเอง และปฏิบัติตามข้อจำกัดดังกล่าว การยอมรับรายงานนี้แสดงว่าคุณตกลงที่จะผูกพันตามคำแนะนำข้างต้น