คุ้มยิ่งกว่า สบายใจกว่าที่เคย กับบัญชี Swap-Free ที่ Doo Prime

2021-10-18 | บทความการเงิน

เทรดแบบไร้กังวลกับบัญชี Swap-Free เทรดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมแบบไม่จำกัดวัน

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าชาวไทยที่เปิดบัญชีใหม่กับ  Doo Prime Thailand รับสิทธิ์บัญชี Swap – Free เทรดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมแบบไม่จำกัดวัน ในทุกประเภทบัญชีของ Doo Prime ไม่ว่าจะเป็น STP, ECN หรือ CENT ที่สามารถดำเนินการบนทุกแพลตฟอร์มการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคุณ 

ลงทุนง่าย สบายใจกับบัญชี Swap-Free ที่ Doo Prime 

Swap หรือ อัตราดอกเบี้ยจากการได้รับหรือจ่าย ในการถือสถานะข้ามคืนในการซื้อขาย Forex หรือ ที่บางครั้งเรียก Rollover นั่นเอง Doo Prime จึงขอเสนอบัญชี Swap-Free เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินการได้อย่างไม่ต้องกังวลในเรื่องค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย นอกจากความพิเศษของค่าธรรมเนียมแล้ว ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้ 

1. อัตรา Swap ที่ลดลง
อย่างที่ทราบกันดีว่า swap-free คือการเทรดแบบไม่มีค่าดอกเบี้ยในการถือออดอร์ข้ามคืน ทำให้เทรดเดอร์สามารถจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ ของต้นทุนที่อาจเพิ่มมากขึ้นได้ง่าย เรียกได้ว่าเป็นการเทรดแบบเรียบง่ายที่ไม่ต้องกังวลกับค่าธรรมเนียมในการถือออดอร์ข้ามคืน โดยเฉพาะในสภาวะตลาดที่ไม่อาจคาดเดาได้ เช่น มีการซื้อขายทองคำเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และเงินดอลลาร์ก็มาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ หากดำเนินการซื้อขายโดยบัญชีทั่วไปเทรดเดอร์ที่ซื้อขายทองคำจะต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยตามจำนวนออเดอร์และขนาดสัญญาที่ซื้อขายนั่นเอง 

2. กลยุทธ์การเทรดแบบต้นต่ำ
บัญชี Swap-Free จะช่วยให้เทรดเดอร์ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงของดอกเบี้ยข้ามคืน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงขึ้น ทุกการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นการซื้อ – ขายหรือแม้แต่การถือไว้ก็ล้วนแต่ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในการถือออดอร์ข้ามคืนนั้นสูงขึ้นและทำให้ต้นทุนในการลงทุนนั้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงความเสี่ยงนี้รวมทั้งวางแผนเพื่อการจัดการความเสี่ยงต่างๆ เพื่อลดต้นทุนในการเทรดนั่นเอง 

3. สร้างผลตอบแทนสูงสุดด้วยการประหยัดต้นทุน 
อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการถือครองอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากผลกระทบของสภาวะตลาด ดังนั้นการคำนวณอัตราดอกเบี้ยจึงอาจแตกต่างกันไปตามรายการคำสั่งซื้อ และแน่นอนว่าในทุกการซื้อหรือขายก็ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยข้ามคืน นั้นแตกต่างกัน ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงและเป็นภาระในต้นทุนการซื้อขาย เช่น ในเดือนมีนาคม 2564  ฟิวเจอร์สน้ำมันมีมูลค่าติดลบ และสปอตน้ำมันลดลงเป็น 14 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 ตัน ซึ่งในเวลานั้น เทรดเดอร์จำนวนมากเข้าซื้อในตลาดในราคาเสนอขาย แต่ดอกเบี้ย Swap ต่อวันอยู่ที่ประมาณ 200 – 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อล็อต/ต่อวัน จึงต้องพิจารณามูลค่าเหล่านี้อย่างถี่ถ้วนหากต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเหล่านี้เพิ่มเติม 

4. เทรดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม 
Doo Prime คือแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณลงทุนได้แบบไร้กังวลกับค่าธรรมเนียมหรือต้นทุนที่อาจเกิดจากความเสี่ยงในการลงทุนเพิ่มเติม ด้วยบัญชี Swap – Free ที่นำเสนอสำหรับชาวไทยโดยเฉพาะ! 

สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าในการเทรดกับ Doo Prime 

Doo Prime นำเสนอผลิตภัณฑ์การซื้อขายที่หลากหลายกว่า 10,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส Forex โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี เพื่อโอกาสที่มากกว่าในการลงทุนในตลาดโลกสำหรับคุณ

นอกจากนี้เรายังนำเสนอการสรุปข้อมูลเชิงลึกของตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิค และแนวคิดในการเทรดทุกวัน เพื่อช่วยลูกค้ามีข้อมูลในการตัดสินใจ และสำคัญที่สุดคือเรายังเสนอให้ลูกค้าได้รับต้นทุนการซื้อขายที่ต่ำที่สุดในตลาด ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถทำกำไรได้มากกว่าจากการเทรดด้วยบัญชี STP ซึ่งลูกค้าของเราจะสามารถสร้างสรรค์การลงทุนได้อย่างเหมาะสมและยืดหยุ่นด้วยค่าสเปรดที่ต่ำที่สุดที่มาพร้อมกับตัวเลือกเลเวอเรจที่สูงถึง 500 เท่า 

 
ห้ามพลาด! กับโอกาสใหม่ในการลงทุนในระดับโลกของคุณ! ติดต่อเจ้าหน้าที่ชาวไทยทางไลน์ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา : 09.00-18.30 น. เพื่อสอบถามข้อมูลหรือเปิดบัญชี Swap-Free กับ Doo Prime Thailand หรือติดต่อเราได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทาง LIVE CHAT บนเว็บไซต์ dooprime.com 
 

* Doo Prime ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการสนับสนุนการขายโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 
Email :  [email protected]
Line Official : https://bit.ly/3vd0zuM

คำสงวนสิทธิ์ 
ข้อมูลนี้จัดส่งถึงบุคคลทั่วไป เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการนำเสนอข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรนํามาเป็นคําแนะนําการลงทุนหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายการลงทุนทางการเงินใดๆ ข้อมูลที่แสดงในที่นี้ได้จัดทําขึ้นโดยไม่มีการอ้างอิงหรือการพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ของเทรดเดอร์ใดโดยเฉพาะ การอ้างอิงใดๆ ถึงผลการดําเนินงานที่ผ่านมาการลงทุนทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นดัชนีหุ้นหรือผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ จะไม่ถูกนํามาเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต ซึ่ง Doo Prime จะไม่รับรองหรือรับประกันข้อมูลที่แสดง และจะไม่รับผิดชอบต่อการขาดทุนทั้งทางตรงหรือทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องและความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ และจะไม่รับผิดชอบต่อผลกําไรหรือการขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของบุคคลหนึ่งบุคคลใด 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป