ราคาน้ำมันปรับตัวลง คาดปิดสัปดาห์นี้ในแดนลบ

2023-02-17 | commodities , Current Affairs , Forex , Securities

Investing.com — ราคาน้ำมันปรับตัวลงเล็กน้อยในวันศุกร์ และถูกกำหนดให้ปิดตลาดในสัปดาห์ที่ต่ำกว่าเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ชดเชยการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอุปสงค์ของจีนที่อาจฟื้นตัว

อัตราเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับเดือนมกราคม และรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ที่ร้อนแรงซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ ในระดับสูงต่อไปในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อ้างอิง Investing.com

ทองคำร่วงลงจากความกังวลจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งหน้า

Investing.com — ราคาทองคำร่วงลงในวันศุกร์ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดและความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่การมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับจีนทำให้ราคาทองแดงขึ้นแซงหน้าตลาดโลหะในสัปดาห์นี้

อัตราเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมกราคม ข้อมูลแสดงให้เห็นในวันพฤหัสบดี และรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค ที่ออกมาร้อนแรงเกินไป และบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังคงเหนียวแน่น

อ้างอิง Investing.com

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติออสซี่ยืนยันยังจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อคุมเงินเฟ้อ

นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้ออกมาย้ำจุดยืนในวันนี้ (17 ก.พ.) ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกหลายเดือนข้างหน้านั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2-3%

ส่วนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกมากน้อยเพียงใดนั้น นายโลว์กล่าวต่อฝ่ายนิติบัญญัติว่า ขึ้นอยู่กับความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก พัฒนาการของการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ตลอดจนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ปธ.เฟดเซนต์หลุยส์หนุนขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. หวังสกัดเงินเฟ้อ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงสนับสนุนให้คณะกรรมการเฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เขาไม่ปฏิเสธว่าเขาจะสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ แทนที่จะเป็นการปรับขึ้น 0.25% ตามที่เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสม

“ในภาพรวมนั้น ผมมองว่าการต่อสู้กับเงินเฟ้อจะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน และมีความเป็นไปได้ว่าตลอดปี 2566 นี้ เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง” นายบูลลาร์ดกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) หลังจากเข้าร่วมงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่หอการค้าเกรทเทอร์ แจ็กสัน ในรัฐเทนเนสซี พร้อมกับกล่าวว่า เขาต้องการให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดปรับตัวขึ้นจนถึงระดับ 5.375% โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เงินบาทเปิด 34.47 อ่อนค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.47 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.30 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าตามแรงซื้อ หลังได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต ของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาว่าขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.0% ซึ่งสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 5.4% ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) อาจยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราสูง ประกอบกับมีเจ้าหน้าที่เฟดออกมาแสดงความเห็นถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้น ดอกเบี้ยในระดับ 0.5%

อ้างอิง อินโฟเควสท์

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป