สรุปข่าวการเงินและการลงทุนประจำวันอังคาร ที่ 14 ธันวาคม 2564

2021-12-15

สรุปข่าวการเงินและการลงทุน

ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเช้าวันอังคารที่ฝั่งเอเชีย โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น

  • ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ได้จากการเทียบค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ขยับขึ้น 0.12% เป็น 96,390 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:05 น. ET (5:05 น. GMT)
  • ค่าเงินเยน ขยับขึ้น 0.02% เป็น 113.59 เยนต่อดอลลาร์
  • ดอลลาร์ออสเตรเลีย ลดลง 0.34% เป็น 0.7104 และคู่ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขยับขึ้น 0.14% เป็น 0.6744
  • ค่าเงินหยวน ขยับลง 0.04% เป็น 6.3653 หยวนต่อดอลลาร์ และ ค่าเงินปอนด์ ขยับลง 0.11% เป็น 1.3202 ปอนด์ต่อดอลลาร์

ธนาคารกลางสหรัฐ, ธนาคารกลางยุโรป, ธนาคารกลางอังกฤษ และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในธนาคารกลาง 20 แห่งที่จัดการประชุมและส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบายของตนในสัปดาห์นี้ เฟดจะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินสองวันในช่วงบ่ายของวันนี้ และมอบการตัดสินใจด้านนโยบายในวันพุธ ธนาคารกลางคาดว่าจะเร่งโครงการลดสินทรัพย์ และนักลงทุนจะมองหาเบาะแสเกี่ยวกับระยะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565

ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนมิถุนายน 2565 โดยจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น นักวิเคราะห์ของ Westpac ระบุในหมายเหตุว่า “นั่นทำให้เฟดอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากที่จะดำเนินนโยบายอย่างแข็งกร้าว “แม้ว่าเฟดจะดำเนินการตรงกับความคาดหวังมากขึ้น แต่พวกเขาก็ยังนำหน้า ECB อยู่” หลังจากที่โครงการจัดซื้อพันธบัตรฉุกเฉินสำหรับโรคระบาด (PEPP) จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2565

ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะส่งมอบการตัดสินใจในหนึ่งวันต่อมา ธนาคารกลางยุโรปคาดว่าจะยืนยันยุติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฉุกเฉินจากการระบาดใหญ่ทั่วโลกที่ 1.85 ล้านล้านยูโร (2.08 ล้านล้านดอลลาร์) ในเดือนมีนาคม 2565 ระหว่างการประชุม

ในขณะเดียวกันกับ สหราชอาณาจักรการเสียชีวิตครั้งแรกที่เชื่อมโยงกับสายพันธุ์โอมิครอนตามที่บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีกล่าว ความน่าจะเป็นที่ธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นกำลังลดลง ส่วนเอเชียแปซิฟิก จีนรายงานผู้ป่วยติดเชื้อโอมิครอนเป็นครั้งแรก

ด้านสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin เพิ่มขึ้นประมาณ 1% เพื่อไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในวันจันทร์ที่ 45,750 ดอลลาร์ และค่าเงินบาทอ่อนค่าลง แต่ยังอยู่ในกรอบ วันนี้ซื้อขายที่ 33.430 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิง: th.investing.com/

น้ำมันปรับตัวลง หลายประเทศกระชับมาตรการรับมือโอมิครอน

ราคาน้ำมันร่วงลงในเช้าวันอังคารในเอเชีย เนื่องจากความกังวลเรื่องความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นหลังจากหลายประเทศออกมาตรการเข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.52% สู่ระดับ 74 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 22:49 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:49 น. GMT)
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.56% สู่ 70.89 ดอลลาร์

OPEC เผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันของโลกสำหรับไตรมาสแรกของปี 2565 และจะยึดตามไทม์ไลน์เดิมในระดับก่อนเกิดโควิด-19 กลุ่มพันธมิตรยังคาดว่าโอมิครอนจะมีผลกระทบเล็กน้อยและชั่วคราว

“ผู้ค้าพลังงานไม่ต้องการเดิมพันกับองค์กรของประเทศและพันธมิตรผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) แต่ความเสี่ยงในระยะสั้นทั้งหมดตั้งแต่ระดับโอมิครอนไปจนถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่เข้มงวด พิสูจน์ให้เห็นว่าจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อแนวโน้มระยะสั้นสำหรับราคาน้ำมัน” เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA กล่าวกับรอยเตอร์ส

“ไวรัสที่แพร่กระจายไปทั่วยุโรปกำลังส่งผลกระทบมากกว่าที่คาดไว้ และเมื่อคำนวณการรวมตัวของครอบครัวในช่วงวันหยุด แนวโน้มระยะสั้นอาจลดลงในเดือนหน้า”

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรรายงานการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโอมิครอนเป็นครั้งแรก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งนอร์เวย์ กำลังออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสดังกล่าว ส่วนด้านเอเชียแปซิฟิก จีนยังรายงานพบผู้ป่วยโอมิครอนเป็นครั้งแรก และมณฑลเจ้อเจียงกำลังต่อสู้กับคลัสเตอร์โควิด-19 แห่งแรกในปี 2564

ในขณะเดียวกัน ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเอเชียในวันอังคารสำหรับปี 2564 และ 2565 ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่เกิดจากโอมิครอนอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการเชื้อเพลิงเช่นกัน

ด้านอุปทาน ผลผลิตของอ่างหินดินดานที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ คาดว่าจะพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมกราคม 2565 ตามการคาดการณ์รายเดือนในวันจันทร์ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐจากสถาบัน API ซึ่งจะครบกำหนดประกาศในช่วงถัดไป

อ้างอิง: th.investing.com/

Tether ถูกฟ้องร้องคดีเรื่อง USDT ไม่มีเงินมาค้ำไว้อีกรอบหนึ่ง

Holdings ผู้ออก USDT stablecoin ต้องเผชิญหน้ากับการถูกฟ้องร้องจากนักลงทุนชาวสหรัฐฯ ที่ไม่พอใจข้ออ้างของบริษัทในศาลนิวยอร์ก โดย Matthew Anderson และ Shawn Dolifka จะเป็นโจทก์ตัวแทนของสมาชิกกลุ่มที่ซื้อ USDT ซึ่งถือเป็นการฟ้องร้องครั้งที่สองในระยะเวลาสี่เดือน ในเอกสารที่ยื่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โจทก์ได้กล่าวหาบริษัท Tether Holdings ผู้ออก USDT ว่า Tether ไม่ได้มีเงินดอลลาร์สนับสนุน USDT จำนวน 100% อย่างแท้จริง

โดยระบุว่า Tether ได้ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณลักษณะของโทเคน Tether และอ้างถึงการขายโทเคนของ Tether ว่าเป็นการละเมิดสัญญา ทั้งนี้พวกเขาอ้างว่าเขามีสิทธิได้รับค่าชดเชยและค่าเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องที่จำถูกกำหนดในระหว่างการพิจารณาของคณะลูกขุน Tether ได้ตอบโต้อย่างเป็นทางการ

โดยอธิบายว่าการยื่นฟ้องดังกล่าวเป็น “คดีลอกเลียนแบบที่ไร้สาระ” ในบล็อกโพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทกล่าวว่าโจทก์กำลังมองหาวิธีการหาเงินก้อนโตจากการฟ้องร้องที่ไร้สาระ โดยบริษัทเสริมว่าจะดำเนินคดีเชิงรุกกับโจทก์ในการฟ้องร้องที่จะถึงนี้ นี่เป็นครั้งที่สองที่ Tether ถูกฟ้องร้องในระยะเวลาสี่เดือน โดยในเดือนกันยายน Tether ชนะคดีทางกฎหมายที่คล้ายกันหลังจากกลุ่มนักลงทุนอ้างว่าผู้ออก USDT ได้ควบคุมตลาด crypto และส่งผลให้นักลงทุนสูญเสียเงินจากการซื้อสินทรัพย์ crypto ในราคาที่สูงเกินจริง

อย่างไรก็ตามในเดือนกุมภาพันธ์ Letitia James อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์กปรับบริษัท Tether ด้วยมูลค่ากว่า 18.5 ล้านดอลลาร์เนื่องจากดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในนิวยอร์ก โดยได้ประกาศต่อสาธารณะว่าบริษัทหลอกลวงลูกค้าและการตลาดด้วยเงินสำรองที่เกินจริง อีกทั้ง Tether ยังถูกปรับอีกกว่า 41 ล้านดอลลาร์จาก Commodity Futures Trading Commission ในเดือนตุลาคมเนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐกล่าวว่าบริษัทได้บิดเบือนข้อมูลการสำรองเงินดอลลาร์ของ USDT

อ้างอิง: siamblockchain.com/

ราคาทองวันนี้ 14 พฤศจิกายน 2564

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 16.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากวานนี้สหรัฐเผยดัชนี PPI ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.6% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือน พ.ย. 2010 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.2% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าข้อจำกัดด้านอุปทานยังคงดำเนินต่อไป

ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งชี้อัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับสูงอีกสักระยะหนึ่ง สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เฟดจะประกาศ “เร่ง” ปรับลด QE ในการประชุมนโยบายการเงินที่กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางดึกของคืนนี้วันนี้ เพื่อเปิดทางสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และร่วงลงต่อทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,766.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.04 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) จากเฟดนิวยอร์ก, สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ธ.ค. โดย NAHB พร้อมจับตาผลการประชุมเฟด คาด “คง” ดอกเบี้ยและประกาศปรับ “เพิ่ม” วงเงินในการ Taper QE และแนะนำรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐผ่านทางแถลงการณ์ของประธานเฟด, Economic Projections (คาดการณ์ GDP, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ) และ Dot Plot (คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งมีแนวโน้มจะส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนได้

อ้างอิง: prachachat.net/

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-10-30 | สารจาก D Prime

การปรับมาร์จิ้นสำหรับ CFDs หุ้นสหรัฐฯ รอบวันที่ 31 ตุลาคม 2568 

เราขอแจ้งให้คุณทราบว่า จะมีการปรับข้อ กำหนดด้านมาร์จิ้นสำหรับ CFDs หุ้นสหรัฐฯหลายรายการ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการ  เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพของตลาดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประกาศผลประกอบการ อัตราหลักประกันสำหรับหุ้นที่ระบุด้านล่างจะถูกปรับชั่วคราวเป็น 20% (เลเวอเรจ 1:5) โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ก่อนเวลา 20:30 น. (UTC+7)   วิธีการดำเนินการ  การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า คุณจะต้องวางหลักประกันเท่ากับ 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งเทียบเท่ากับการลดเลเวอเรจเป็น 1:5 การปรับนี้มีขึ้นเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเทรดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงจากการประกาศผลประกอบการ  หุ้นที่ได้รับผลกระทบ – รอบปัจจุบัน  ชื่อหุ้น  สัญลักษณ์  วันที่ประกาศผลประกอบการ  Pfizer Inc  PFE  31/10/2568  Uber Technologies Inc  UBER  Robinhood Markets Inc  HOOD  Beyond Meat Inc  BYND  QUALCOMM Inc  QCOM  ConocoPhillips  COP  สิ่งที่คุณควรดำเนินการ  หากคุณถือสถานะใน CFDs หุ้นสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบ:  หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนนี้ หรือหากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ทุกเมื่อ 

article-thumbnail

2025-10-27 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการเทรดของ D Prime เพิ่มขึ้น 37% ในเดือนกันยายน 2025  

เดือนกันยายนถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของ D Prime และเหล่านักเทรดทั่วโลก ท่ามกลางความผันผวนของตลาดและกระแสข่าวระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กิจกรรมการเทรดพุ่งสูงแตะระดับใหม่ D Prime บันทึกปริมาณการเทรดรวม 191.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมในตลาดที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง   สรุปปริมาณการเทรดเดือนกันยายน 2025  ทั้งปริมาณการเทรดรวมและปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนกันยายน แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนของตลาดที่แข็งแกร่งและการมีส่วนร่วมของนักเทรดในผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก  ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดในเดือนกันยายน  ตลาดมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักตลอดเดือนกันยายน โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 จุดเบสิก ยืนยันมุมมองของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น การตัดสินใจดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและหนุนให้ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น  ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง ส่งผลให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น ทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดของเดือน โดยราคาพุ่งทะลุ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดใหม่  คู่สกุลเงิน XAU/USD มีปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นประมาณ 54.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตมากที่สุดในเดือนกันยายน สะท้อนถึงความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมและแนวโน้มตลาด  ทองคำไม่ใช่เพียงสินทรัพย์เดียวที่ได้รับความสนใจจากนักเทรดในเดือนกันยายน นอกจาก XAU/USD แล้ว คู่สกุลเงิน EUR/USD, GBP/USD, US30 และ NAS100 ยังติดอันดับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่มีปริมาณการเทรดสูงสุดด้วย  นอกจากนี้ยังพบการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในพฤติกรรมของนักเทรด โดย NAS100 ได้ก้าวเข้าสู่ 5 อันดับสินค้าที่มีการเทรดมากที่สุด แทนที่ BTC/USD จากเดือนก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่านักเทรดกำลังมองหาการกระจายความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น และเปิดรับโอกาสใหม่ในดัชนีหุ้น  ความแข็งแกร่งและแรงส่งต่อเนื่องในอนาคต  แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่ D Prime ยังคงมุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์การเทรดที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยปริมาณการเทรดรวมของแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น 48.85% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงถึงความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก  ในขณะที่ตลาดยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้นักเทรดสามารถรับมือกับทุกโอกาสได้อย่างมั่นใจ ผ่านการมอบข้อมูลเชิงลึก เครื่องมือ และการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จในระยะยาว 

article-thumbnail

2025-10-15 | กิจกรรม

D Prime สรุปความสำเร็จจากงาน Forex Expo Dubai 2025 

D Prime ปิดฉากการเข้าร่วมงาน Forex Expo Dubai 2025 อย่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม ณ ศูนย์การค้าโลก ดูไบ (World Trade Center Dubai) ในฐานะที่เป็น งานฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง งานนี้ได้รวบรวมโบรกเกอร์ชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทค และเทรดเดอร์ผู้มีแพสชันจากทั่วโลกเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง  ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษสำหรับ D Prime เพราะเราได้แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมการเทรดล่าสุดควบคู่กับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ สะท้อนถึงการพัฒนาและความมุ่งมั่นในการเป็นพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก หลังจากการปรากฏตัวในงานที่อินเดียและประเทศไทย การเข้าร่วมงานที่ดูไบในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ D Prime ในการเชื่อมโยงกับชุมชนเทรดเดอร์ที่หลากหลายจากทั่วโลก  ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องต่อภูมิภาค MENA  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ D Prime เข้าสู่ตลาด MENA และแน่นอนว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ภายในงานที่บูธ #109 D Prime ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงกับเทรดเดอร์ในหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ตลอดสองวันที่เต็มไปด้วยความคึกคัก บูธของเรามีชีวิตชีวาเมื่อผู้เข้าชมได้สัมผัสถึงการขยายเครือข่ายระดับโลกของ D Prime แพลตฟอร์มการเทรดที่ล้ำสมัย และการให้บริการที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง  “น่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่า D Prime สามารถเชื่อมต่อกับเทรดเดอร์จากทั่วโลกได้อย่างไร ผมได้พบผู้คนจากยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสากลของชุมชนนี้ได้อย่างแท้จริง” ผู้เข้าร่วมงานคนหนึ่งกล่าวระหว่างการเข้าชมงาน Expo  ภายในประสบการณ์บูธของ D Prime  เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน D Prime ได้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่ทั้งน่าสนใจ มอบรางวัล และสร้างแรงบันดาลใจ  ตั้งแต่ของที่ระลึกสุดพิเศษสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกคน ไปจนถึงการแข่งขันถ่ายภาพบน Instagram ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเก็บภาพช่วงเวลาที่ดีที่สุดภายในงาน Expo เพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพรีเมียม บรรยากาศภายในบูธเต็มไปด้วยพลังและความสนุกอย่างต่อเนื่อง  กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก กระตุ้นให้เกิดบทสนทนาที่มีคุณค่าเกี่ยวกับวิธีที่ D Prime สามารถ ยกระดับประสบการณ์และองค์ความรู้ของเทรดเดอร์ได้อย่างแท้จริง  เสริมสร้างสายสัมพันธ์และก้าวสู่อนาคต  สำหรับ D Prime งาน Forex Expo Dubai ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่เป็นโอกาสในการสร้างความเชื่อมโยง แบ่งปันมุมมอง และ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการเติบโตและความเป็นเลิศ ภาพลักษณ์ใหม่ของเราไม่ใช่แค่การอัปเดตดีไซน์ แต่คือการประกาศถึงพลัง แรงบันดาลใจ และอนาคตที่เรากำลังร่วมกันสร้างกับลูกค้าทั่วโลก   เราภูมิใจกับความสัมพันธ์และพลังงานที่เกิดขึ้นระหว่างงานอย่างยิ่ง ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมบูธของเรา เข้าร่วมกิจกรรม และพูดคุยกับทีมงานของเรา ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้  นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น D Prime จะยังคงขยายการเติบโตในภูมิภาค MENA และทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม สร้างโอกาส และส่งแรงบันดาลใจให้แก่นักเทรดทั่วโลก  โปรดติดตามกิจกรรมใหญ่ครั้งต่อไปของเรา ที่จะมาพร้อมเซอร์ไพรส์และประสบการณ์สุดพิเศษจาก D Prime