สรุปข่าวการเงินและการลงทุนประจำวันพุธ ที่ 19 มกราคม 2565

2022-01-20 | Current Affairs , สรุปข่าวสารการลงทุนประจำวัน

สรุปข่าวการเงินและการลงทุน

ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงยับ หลังพันธบัตรพุ่ง และผลประกอบการน่าผิดหวัง

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในวันพุธนี้ ภายหลังการเทขายหุ้นในดัชนีหลัก หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ลดความเชื่อมั่นต่อความเสี่ยง ในขณะที่นักลงทุนต่างเตรียมพร้อมสำหรับผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ในสัปดาห์นี้

ในคืนวันอังคาร ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 543.34 จุดหรือ 1.51% มาที่ 35368.48, S&P 500 ลดลง 85.74 จุดหรือ 1.84% ที่ 4577.1 และ NASDAQ Composite ลดลง 386.86 จุด หรือ 2.6% มาอยู่ที่ 14506.9

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.07%, สัญญาซื้อขายล่วงหน้าS&P 500 เพิ่ม 0.08% และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าNasdaq 100 ได้รับ 0.07%

ในบรรดาหุ้นสหรัฐฯที่น่าจับตา บริษัทการเงินรายใหญ่ได้รับผลกระทบหลังจาก Goldman Sachs (NYSE:GS) รายงานผลประกอบการออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 23% จากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นสำหรับพนักงาน JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) ลดลง 4.19%, Citizens Financial Group Inc (NYSE:CFG) ลดลง 1.21%, Bank of America Corp (NYSE:{{243|BAC:BAC) ) ลดลง 3.44% Citigroup Inc (NYSE:C) ลดลง 2.44% และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) ลดลง 2.36%

หุ้นเทคโนโลยียังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง Block Inc (NYSE:SQ) ลดลง 2.47%, Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) ลดลง 1.99%, Meta Platforms Inc (NASDAQ: FB) ลดลง 4.14%, Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ลดลง 1.89%, Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) ลดลง 2.5%, NVIDIA Corporation (NASDAQ) :NVDA) ลดลง 3.86% และ Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) ลดลง 3.62% Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 2.43% หลังจากประกาศว่ายักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์จะซื้อบริษัทวิดีโอเกม Activision Blizzard (NASDAQ:ATVI) ในราคา 68.7 พันล้านดอลลาร์ ด้านหุ้นของ Activision Blizzard เพิ่มขึ้น 25.88%

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดย Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ลดลง 1.82% ขณะที่ Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) และ Lucid Group Inc (NASDAQ: LCID) ลดลง 8.49% และ 9.13% ตามลำดับ

ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 1.875% หลังนักลงทุนเตรียมรับมือกับการกระชับนโยบายของเฟด

ในด้านข้อมูล ดัชนีภาคการผลิตเขตรัฐนิวยอร์ก นั้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก โดยถือเป็นกิจกรรมที่หดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ท่ามกลางการแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

นักลงทุนจะติดตามรายงานผลประกอบการจำนวนมากอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ โดยมีรายงานรายไตรมาสจากบริษัท 35 แห่ง ซึ่งรวมถึง Bank of America Corp (NYSE:BAC), Morgan Stanley (NYSE:MS ), Procter & Gamble Company (NYSE:PG), US Bancorp (NYSE:USB), United Health Products Inc (OTC:UEEC) และ United Airlines Holdings Inc (NASDAQ:UAL)

ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงยับ หลังพันธบัตรพุ่ง และผลประกอบการน่าผิดหวัง

อ้างอิง: th.investing.com

หุ้นเอเชียปรับตัวลง ตามการเทขายหุ้นทั่วโลก หลังพันธบัตรไต่ระดับขึ้น

หุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวลง ในเช้าวันพุธ โดยพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้การเทขายหุ้นทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป นักลงทุนยังคงชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้ที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐจะเข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

  • นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 1.89% เมื่อเวลา 21:01 น. ET (2:01 น. GMT) และ KOSPI ของเกาหลีใต้ ขยับลง 0.11%
  • S&P/ASX 200 ในออสเตรเลีย ลดลง 0.51% ข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้แสดง
    ให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Westpac หดตัว 2% ในเดือนมกราคม
    เทียบกับการหดตัว 1% จากเดือนก่อนหน้า
  • ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.05% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.15% ในขณะที่ดัชนีองค์ประกอบ SZSE หรือดัชนีเซินเจิ้นเพิ่มขึ้น 0.07%

หุ้นทั่วโลกเริ่มต้นปี 2022 ด้วยความผันผวนจากความท้าทายต่าง ๆ เช่น ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโอมิครอน และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นยังทำให้นักลงทุนต้องประเมินมูลค่าใหม่อีกครั้งในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ

วินนี่ ซีซาร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ CreditSights บอกกับ Bloomberg ว่า “โดยทั่วไป เราคาดว่าจะเห็นว่าตลาดตราสารหนี้จะทำให้เกิดความผันผวนในวงกว้างมากขึ้น ทั้งในตลาดตราสารทุนและตลาดอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ เธอยังกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่แล้วและในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เนื่องจากพวกเขาอาจพลาดเป้า จากความคาดหวังที่สูงเกินไป

ในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลของวันอังคารแสดงให้เห็นว่า ดัชนีภาคการผลิตเขตรัฐนิวยอร์ก ลดลงมาอยู่ที่ 0.70 ในเดือนมกราคม ข้อมูลที่อยู่อาศัย รวมถึงใบอนุญาตก่อสร้างจะครบกำหนดในช่วงบ่ายของวัน

คำถามที่นักลงทุนกำลังเผชิญมากที่สุดคือหากธนาคารกลางสหรัฐจำเป็นต้องกระชับนโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ หรือหากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจะทำให้ธนาคารกลางเข้มงวดน้อยลงหรือไม่ Dennis DeBusschere ผู้ก่อตั้ง 22V Research กล่าวกับ Bloomberg แบบแรกจะ “แย่มาก” สำหรับการหุ้นวัฏจักรและเทคโนโลยี เขากล่าวเสริม

ด้านบริษัท รายได้จากผลประกอบการของ Goldman Sachs Group Inc. (NYSE:GS) สำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2021 นั้นแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ ในทางกลับกัน ก็ส่งผลเสียต่อธนาคารต่างๆ โดยบริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึง Morgan Stanley (NYSE:MS), Bank of America Corp. (NYSE:BAC), UnitedHealth Group Incorporated (NYSE:UNH) และ Netflix Inc. (NASDAQ:NFLX) จะเผยแพร่ผลประกอบการตลอดทั้งสัปดาห์

อ้างอิง: th.investing.com

ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (19/1) ที่ระดับ 33.15/17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (18/1) ที่ระดับ 33.09/11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะเวลา 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบสองปีที่ระดับ 1.87% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะเวลา 2 ปีปรับตัวขึ้นเหนือ 1% ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2564

สะท้อนให้เห็นถึงการคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ โดยตลาดเริ่มมีมุมมองว่าในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในเดือนมีนาคม มีโอกาสที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% จากเดิมที่เคยมองไว้เพียง 0.25% ทั้งนี้นักลงทุนกำลังจับตาการประชุม
ของเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 มกราคมนี้ เพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยต่อไป

ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ตลาดค่อนข้างผันผวนหลังมีข่าวเรื่องการกลับมาเปิดรับ
นักท่องเที่ยวในรูปแบบ Test & Go โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคมนี้ เพื่อขอเปิดให้รับ
นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาในประเทศไทยแบบเทสต์แอนด์โก (Test & Go) ได้อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเป็นการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุด หลังจากรัฐบาลได้ตัดสินใจระงับไปเมื่อปลายปีก่อน เพราะเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทั้งนี้ต้องรอดูการตัดสินใจขั้นสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.06–33.22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.06/08 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (19/1) ที่ระดับ 1.1330/32 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (18/1) ที่ระดับ 1.1392/94 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงตามการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี

อย่างไรก็ตามทางอียูและเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมกราคมจากสถาบัน ZEW ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าจำนวนผู้ติดเชื่อโควิด-19 ในสหภาพยุโรปจะทยอยปรับตัวลดลงภายในกลางปีนี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1318–1.1348 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1341/43 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (19/1) ที่ระดับ 114.70/72 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (18/1) ที่ระดับ 114.52/54 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ต่อไปโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉุดให้ต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับต่ำ เพื่อช่วยเหลือบริษัทเอกชนและภาคครัวเรือน

ทั้งนี้ความแตกต่างในการดำเนินนโยบายทางการเงินระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นนั้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันค่าเงินเยนให้อ่อนค่าต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 114.20-114.78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 114.50/53 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค. (19/1) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย (20/1) สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ 0.5/0.7 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.5/-1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิง: prachachat.net

ทองคำปรับตัวลงต่ำสุดในรอบสัปดาห์ หลังพันธบัตรไต่ระดับขึ้น

ราคาทองคำร่วงลงในเช้าวันพุธในเอเชีย และอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ อัตรา
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี จากการคาดหมายว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.07% สู่ระดับ 1,811.05 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 22:56 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:56 น. GMT) หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันอังคาร

ค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งปกติแล้วจะเคลื่อนไหวผกผันกับทองคำ ย่อตัวลงในวันพุธ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบสองปีในวันอังคาร นักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับ การส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบาย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีกำหนดส่งในวันที่ 26 มกราคม ธนาคารกลางคาดว่าจะใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อควบคุมระดับเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารกลางในอินโดนีเซีย มาเลเซีย นอร์เวย์ ตุรกี และยูเครนจะส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้

สำหรับโลหะมีค่าอื่น ๆ เงินทรงตัวที่ 23.44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินั่มลดลง 0.3% และแพลเลเดียมเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 1,896.83 ดอลลาร์

อ้างอิง: th.investing.com

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-10-30 | สารจาก D Prime

การปรับมาร์จิ้นสำหรับ CFDs หุ้นสหรัฐฯ รอบวันที่ 31 ตุลาคม 2568 

เราขอแจ้งให้คุณทราบว่า จะมีการปรับข้อ กำหนดด้านมาร์จิ้นสำหรับ CFDs หุ้นสหรัฐฯหลายรายการ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการ  เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพของตลาดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประกาศผลประกอบการ อัตราหลักประกันสำหรับหุ้นที่ระบุด้านล่างจะถูกปรับชั่วคราวเป็น 20% (เลเวอเรจ 1:5) โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ก่อนเวลา 20:30 น. (UTC+7)   วิธีการดำเนินการ  การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า คุณจะต้องวางหลักประกันเท่ากับ 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งเทียบเท่ากับการลดเลเวอเรจเป็น 1:5 การปรับนี้มีขึ้นเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเทรดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงจากการประกาศผลประกอบการ  หุ้นที่ได้รับผลกระทบ – รอบปัจจุบัน  ชื่อหุ้น  สัญลักษณ์  วันที่ประกาศผลประกอบการ  Pfizer Inc  PFE  31/10/2568  Uber Technologies Inc  UBER  Robinhood Markets Inc  HOOD  Beyond Meat Inc  BYND  QUALCOMM Inc  QCOM  ConocoPhillips  COP  สิ่งที่คุณควรดำเนินการ  หากคุณถือสถานะใน CFDs หุ้นสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบ:  หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนนี้ หรือหากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ทุกเมื่อ 

article-thumbnail

2025-10-27 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการเทรดของ D Prime เพิ่มขึ้น 37% ในเดือนกันยายน 2025  

เดือนกันยายนถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของ D Prime และเหล่านักเทรดทั่วโลก ท่ามกลางความผันผวนของตลาดและกระแสข่าวระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กิจกรรมการเทรดพุ่งสูงแตะระดับใหม่ D Prime บันทึกปริมาณการเทรดรวม 191.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมในตลาดที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง   สรุปปริมาณการเทรดเดือนกันยายน 2025  ทั้งปริมาณการเทรดรวมและปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนกันยายน แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนของตลาดที่แข็งแกร่งและการมีส่วนร่วมของนักเทรดในผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก  ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดในเดือนกันยายน  ตลาดมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักตลอดเดือนกันยายน โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 จุดเบสิก ยืนยันมุมมองของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น การตัดสินใจดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและหนุนให้ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น  ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง ส่งผลให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น ทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดของเดือน โดยราคาพุ่งทะลุ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดใหม่  คู่สกุลเงิน XAU/USD มีปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นประมาณ 54.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตมากที่สุดในเดือนกันยายน สะท้อนถึงความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมและแนวโน้มตลาด  ทองคำไม่ใช่เพียงสินทรัพย์เดียวที่ได้รับความสนใจจากนักเทรดในเดือนกันยายน นอกจาก XAU/USD แล้ว คู่สกุลเงิน EUR/USD, GBP/USD, US30 และ NAS100 ยังติดอันดับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่มีปริมาณการเทรดสูงสุดด้วย  นอกจากนี้ยังพบการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในพฤติกรรมของนักเทรด โดย NAS100 ได้ก้าวเข้าสู่ 5 อันดับสินค้าที่มีการเทรดมากที่สุด แทนที่ BTC/USD จากเดือนก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่านักเทรดกำลังมองหาการกระจายความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น และเปิดรับโอกาสใหม่ในดัชนีหุ้น  ความแข็งแกร่งและแรงส่งต่อเนื่องในอนาคต  แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่ D Prime ยังคงมุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์การเทรดที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยปริมาณการเทรดรวมของแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น 48.85% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงถึงความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก  ในขณะที่ตลาดยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้นักเทรดสามารถรับมือกับทุกโอกาสได้อย่างมั่นใจ ผ่านการมอบข้อมูลเชิงลึก เครื่องมือ และการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จในระยะยาว 

article-thumbnail

2025-10-15 | กิจกรรม

D Prime สรุปความสำเร็จจากงาน Forex Expo Dubai 2025 

D Prime ปิดฉากการเข้าร่วมงาน Forex Expo Dubai 2025 อย่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม ณ ศูนย์การค้าโลก ดูไบ (World Trade Center Dubai) ในฐานะที่เป็น งานฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง งานนี้ได้รวบรวมโบรกเกอร์ชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทค และเทรดเดอร์ผู้มีแพสชันจากทั่วโลกเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง  ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษสำหรับ D Prime เพราะเราได้แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมการเทรดล่าสุดควบคู่กับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ สะท้อนถึงการพัฒนาและความมุ่งมั่นในการเป็นพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก หลังจากการปรากฏตัวในงานที่อินเดียและประเทศไทย การเข้าร่วมงานที่ดูไบในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ D Prime ในการเชื่อมโยงกับชุมชนเทรดเดอร์ที่หลากหลายจากทั่วโลก  ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องต่อภูมิภาค MENA  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ D Prime เข้าสู่ตลาด MENA และแน่นอนว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ภายในงานที่บูธ #109 D Prime ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงกับเทรดเดอร์ในหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ตลอดสองวันที่เต็มไปด้วยความคึกคัก บูธของเรามีชีวิตชีวาเมื่อผู้เข้าชมได้สัมผัสถึงการขยายเครือข่ายระดับโลกของ D Prime แพลตฟอร์มการเทรดที่ล้ำสมัย และการให้บริการที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง  “น่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่า D Prime สามารถเชื่อมต่อกับเทรดเดอร์จากทั่วโลกได้อย่างไร ผมได้พบผู้คนจากยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสากลของชุมชนนี้ได้อย่างแท้จริง” ผู้เข้าร่วมงานคนหนึ่งกล่าวระหว่างการเข้าชมงาน Expo  ภายในประสบการณ์บูธของ D Prime  เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน D Prime ได้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่ทั้งน่าสนใจ มอบรางวัล และสร้างแรงบันดาลใจ  ตั้งแต่ของที่ระลึกสุดพิเศษสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกคน ไปจนถึงการแข่งขันถ่ายภาพบน Instagram ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเก็บภาพช่วงเวลาที่ดีที่สุดภายในงาน Expo เพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพรีเมียม บรรยากาศภายในบูธเต็มไปด้วยพลังและความสนุกอย่างต่อเนื่อง  กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก กระตุ้นให้เกิดบทสนทนาที่มีคุณค่าเกี่ยวกับวิธีที่ D Prime สามารถ ยกระดับประสบการณ์และองค์ความรู้ของเทรดเดอร์ได้อย่างแท้จริง  เสริมสร้างสายสัมพันธ์และก้าวสู่อนาคต  สำหรับ D Prime งาน Forex Expo Dubai ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่เป็นโอกาสในการสร้างความเชื่อมโยง แบ่งปันมุมมอง และ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการเติบโตและความเป็นเลิศ ภาพลักษณ์ใหม่ของเราไม่ใช่แค่การอัปเดตดีไซน์ แต่คือการประกาศถึงพลัง แรงบันดาลใจ และอนาคตที่เรากำลังร่วมกันสร้างกับลูกค้าทั่วโลก   เราภูมิใจกับความสัมพันธ์และพลังงานที่เกิดขึ้นระหว่างงานอย่างยิ่ง ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมบูธของเรา เข้าร่วมกิจกรรม และพูดคุยกับทีมงานของเรา ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้  นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น D Prime จะยังคงขยายการเติบโตในภูมิภาค MENA และทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม สร้างโอกาส และส่งแรงบันดาลใจให้แก่นักเทรดทั่วโลก  โปรดติดตามกิจกรรมใหญ่ครั้งต่อไปของเรา ที่จะมาพร้อมเซอร์ไพรส์และประสบการณ์สุดพิเศษจาก D Prime