เงินบาทจ่อชะงัก หลังพุ่ง 6% เหตุขาดนักท่องเที่ยวจีน

2022-11-21 | commodities , Current Affairs , Forex , Securities

การพุ่งขึ้นของค่าเงินบาทไทยอาจมาถึงจุดสิ้นสุด หากไร้ปัจจัยหนุนใหม่ ๆ เช่น การหวนคืนมาของนักท่องเที่ยวจีน หลังจากเครื่องบ่งชี้ทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่า เงินบาทถูกเทขายมากจนเกินไป

ทั้งนี้ เงินบาทพุ่ง 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เงินบาทกลายเป็นสกุลเงินที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชีย หลังจีนผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า GDP ไตรมาส 3/2565 ของไทยขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 4 ปี

อ้างอิง อินโฟเควสท์

แบงก์ชาติจีนคงดอกเบี้ย LPR ติดต่อกันเดือนที่ 3 หลังตรึงดอกเบี้ยนโยบาย

ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ระดับ 4.30% ในวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง

อ้างอิง อินโฟเควสท์

“เจฟฟ์ เบซอส” ประสานเสียงมหาเศรษฐีโลกออกโรงเตือนเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงถดถอย

นายเจฟฟ์ เบซอส เจ้าของบริษัทแอมะซอน รวมถึง นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลา และนายเคน กริฟฟิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทซิทาเดล แอลแอลซี ต่างออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยในไม่ช้า เช่นเดียวกับบรรดาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นักลงทุน และสถาบันวิชาการต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันคาดการณ์ถึงภาวะขาลงทางเศรษฐกิจที่ยาวนาน

นอกจากนี้ นายคาร์ล ไอคาห์น นักการเงินผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทไอคาห์น เอนเตอร์ไพรเซส รวมถึง นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส และนายชาร์ลี มังเกอร์ รองประธานบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ อิงค์ก็คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวและอัตราว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้น โดยถูกดดันจากปัจจัยลบหลายประการ รวมถึง การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อชะลอเงินเฟ้อ สงครามในยูเครน และการล็อกดาวน์ของจีนส่งผลกระทบต่อการค้าโลก

อ้างอิง อินโฟเควสท์

หุ้นไทยวันนี้ (21 พ.ย. 65) ปิดตลาดภาคเช้า +5.15 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,623 จุด

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 พ.ย. 65) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,622.53 จุด ปรับขึ้น +5.15 จุด หรือคิดเป็น +0.32% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 31,392 ล้านบาท เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,611.45-1,623.30 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ PTTEP AAI และ PTT

ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +3.94 จุด คิดเป็น +0.40% อยู่ที่ 985.56 จุด มูลค่าซื้อ-ขายรวม อยู่ที่ 15,131 ล้านบาท เทียบเป็นราว 48.20% ของมูลค่าซื้อ-ขายในตลาด SET

อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ

ราคาน้ำมันดิบ (21 พ.ย. 65) ปรับลด ผ่อนคลายจากความกังวลอุปทานตึงตัว

ราคาน้ำมันดิบปรับลด สะท้อนถึงความผ่อนคลายของตลาดจากความกังวลอุปทานตึงตัว

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัวลดน้อยลง ในขณะที่ตลาดยังคงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศจีน ซึ่งจะกดดันอุปสงค์น้ำมัน โดยแหล่งข่าวระบุว่า จีนต้องการชะลอการนำเข้าน้ำมันดิบ เนื่องจากพบว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ

อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-08-29 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ติดอันดับ 3 ของโลกด้านผู้ใช้งานแอคทีฟ

รายงาน Finance Magnates Q2 ปี 2568 จัดอันดับ D Prime ติดท็อป 3 ของโลก พร้อมปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้น 20% สู่ระดับ 174 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

article-thumbnail

2025-08-14 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการซื้อขายของ D Prime ในเดือนกรกฎาคม 2568 พุ่งแตะ 144 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เดือนกรกฎาคม 2568 ถือเป็นเดือนสำคัญของ D Prime โดยมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ลูกค้าปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่ผันผวนและนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์หลักหลายประเภท  ภาพรวมปริมาณการซื้อขายเดือนกรกฎาคม 2568  จากข้อมูลพบว่าปริมาณการซื้อขายรวมของ D Prime ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 144.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.07% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน และปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันก็เพิ่มขึ้น 8.45% แสดงถึงการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่มากขึ้น  ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด: ความไม่แน่นอนและความผันผวน  ตลาดในเดือนกรกฎาคมได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านการเจรจาการค้าและนโยบายภาษีศุลกากร รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่กระทบต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) การคาดการณ์เกี่ยวกับเส้นตายการขึ้นภาษีและข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน Fed ได้เพิ่มความระมัดระวังต่อความเสี่ยงในตลาด  ภาวะนี้ทำให้ราคาทองคำแท่งในตลาดสปอตพุ่งขึ้นแตะ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ กระตุ้นการซื้อขายทองคำอย่างคึกคักท่ามกลางความผันผวน  ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเก็บภาษีศุลกากร 50% สำหรับผลิตภัณฑ์ทองแดง (ยกเว้นวัตถุดิบ) ทำให้ราคาทองแดงผันผวนอย่างรุนแรง ส่งผลให้การซื้อขายฟิวเจอร์สทองแดงพุ่งขึ้นอย่างมาก  ความยืดหยุ่นและโอกาสท่ามกลางความซับซ้อน  แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดได้อย่างเต็มที่  ปริมาณการซื้อขายในเดือนกรกฎาคมยังเพิ่มขึ้น 12.61% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของเราในสภาพแวดล้อมตลาดโลกที่ซับซ้อน  สินค้ายอดนิยมของนักลงทุนในเดือนกรกฎาคม  ความนิยมของนักลงทุนยังคงแข็งแกร่ง โดย XAU/USD, EUR/USD, […]

article-thumbnail

2025-08-11 | ข่าวสาร D Prime

บทใหม่เริ่มต้นแล้ว: ยินดีต้อนรับสู่ D Prime โฉมใหม่ 

หลังจากกว่าทศวรรษแห่งการเติบโต การเปลี่ยนแปลง และนวัตกรรม Doo Prime ได้ก้าวเข้าสู่บทใหม่ที่น่าตื่นเต้น เปิดตัว D Prime