ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ นักลงทุนวิตกเศรษฐกิจถดถอย

2022-10-17 | commodities , Current Affairs , Forex , Securities

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งการคาดการณ์เรื่องการเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,785.02 จุด ร่วงลง 305.74 จุด หรือ -1.13%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 16,479.74 จุด ลดลง 107.95 จุด หรือ -0.65% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,060.52 จุด ลดลง 11.47 จุด หรือ -0.37%

 หลายประเทศมีกำหนดรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ ขณะที่ ออสเตรเลียจะเปิดเผยข้อมูลการว่างงานและจีนจะประกาศการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 โดยเตือนเรื่องการแทรกแซงจากกองกำลังภายนอกในไต้หวัน โดยเน้นย้ำว่า จีนจะไม่ปฏิเสธเรื่องการใช้กำลังในการรวมชาติ

หุ้นสหรัฐปิดลบในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนแสดงให้เห็นว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

อ้างอิง กรุงเทพธุรกิจ

ธปท. ย้ำดำเนินนโยบายการเงินแบบยืดหยุ่น ทยอยขึ้นดอกเบี้ย ไม่ทำเศรษฐกิจสะดุด

นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานประชุมนักวิเคราะห์ (Analyst Meeting) ครั้งที่ 3/2565 ถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกว่า ในการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง และมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยมี 3 ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ 1. เงินเฟ้อของทั่วโลกที่อยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 8.8% 2. เศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่จะชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในช่วงปลายปีนี้-ปีหน้า โดยคาดว่าจะมีจำนวนประเทศ 1 ใน 3 ของโลกที่เศรษฐกิจอาจเติบโตต่ำกว่า 2% และ 3. ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และจีน-สหรัฐ ที่สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก

ในขณะที่ธนาคารกลางของทั่วโลก กำลังมุ่งดำเนินนโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างรวดเร็ว และสูงสุดในรอบ 20 ปี ซึ่งมีผลกระทบส่งต่อมายังเศรษฐกิจของทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทยเอง นอกจากนี้สถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเปราะบางต่อเสถียรภาพและระบบการเงินโลก ทำให้เห็นสัญญาณความอ่อนไหวของหลายตลาด เช่น ตลาดพันธบัตรในอังกฤษ ตลาดพันธบัตรในสหรฐที่มีความไม่ปกติ จึงนับเป็นความเสี่ยงที่ธนาคารกลางของทุกประเทศต้องดูแลให้เศรษฐกิจของประเทศตัวเองผ่านพ้นความเสี่ยงนี้ไปให้ได้

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ปอนด์แข็งค่า 0.8% จับตาขุนคลังอังกฤษคนใหม่เผยแผนการคลังวันนี้

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะที่ระดับ 1.1254 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของอังกฤษประกาศว่า เขาจะเปิดเผยแผนด้านการคลังระยะกลางในวันนี้

คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากอังกฤษเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองครั้งใหญ่เมื่อวันศุกร์ (14 ต.ค.) ซึ่งรวมถึงการที่นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สั่งปลดนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ และแต่งตั้งนายเจเรมี ฮันท์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศขึ้นดำรงตำแหน่งแทนนายควาร์เต็ง

นอกจากนี้ นางทรัสส์ยังได้ประกาศยกเลิกแผนการปรับลดภาษีซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ภาษีนิติบุคคลจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 25% หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายควาร์เต็งเปิดเผยว่า ภาษีดังกล่าวจะถูกตรึงไว้ที่ระดับ 19%

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ผู้ว่าแบงก์ชาติญี่ปุ่นยันเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อหนุนเศรษฐกิจ

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นกำลังเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น และ BOJ จำเป็นต้องคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ (Ultralow Interest Rate Policy) ต่อไป เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง

นายคุโรดะแสดงความเห็นดังกล่าวในระหว่างการแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยยืนยันถึงใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำแม้ว่านโยบายดังกล่าวถูกมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ตลาคาดการณ์ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐจะปรับตัวกว้างขึ้นเนื่องจากธนาคารกลางของทั้งสองประเทศดำเนินนโยบายที่สวนทางกัน โดยธนาคารกลางสหรัฐเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ BOJ ยึงคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน

ทางด้านนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาว่า เขาสนับสนุนให้ BOJ ดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างมั่นคงและยั่งยืน

อ้างอิง อินโฟเควสท์

น้ำมัน WTI ฟื้นตัวเกือบ 1% รับแรงหนุนดอลล์อ่อนค่า ตลาดจับตาข้อมูลศก.จีน

ราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้น 85 เซนต์ หรือ +0.99% แตะที่ 86.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.22% แตะที่ 113.03 ในช่วงเช้านี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

อ้างอิง อินโฟเควสท์

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-09-17 | กิจกรรม

D Prime Conecta LATAM 2025 กำลังจะมาถึงเมเดยิน 

เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า D Prime Conecta LATAM 2025 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 ตุลาคม 2025 ที่โรงแรมหรู Dann Carlton ที่เมเดยิน งานสัมมนาที่ทุกคนรอคอยนี้จะรวบรวมพาร์ทเนอร์ ลูกค้า และผู้นำในอุตสาหกรรมจากทั่วลาตินอเมริกา เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโต ความร่วมมือ และโอกาสใหม่ๆ  สำรวจโอกาสด้านพาร์ทเนอร์ชิปและโซลูชันการลงทุน  ที่งาน Conecta LATAM 2025 ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีสร้างธุรกิจ Introducing Broker (IB) ที่ยั่งยืนและสร้างรายได้ระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอศักยภาพของโซลูชันการลงทุนแบบ PAMM และวิธีที่สามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทั้งนักเทรดและพาร์ทเนอร์   เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ  งานนี้จะมอบมุมมองล้ำค่าจากวิทยากรที่มีชื่อเสียง รวมถึง Juan de Dios และ Johanna Serna ด้วยประสบการณ์อันลึกซึ้งและผลงานที่พิสูจน์แล้ว พวกเขาพร้อมที่จะถ่ายทอดกลยุทธ์เชิงปฏิบัติและองค์ความรู้จริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับการเติบโตของชุมชนนักเทรดในระลอกถัดไป   สร้างเครือข่ายกับผู้นำอุตสาหกรรม  นอกเหนือจากการเรียนรู้ Conecta LATAM 2025 ยังถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผู้เข้าร่วมจะได้พบปะและสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมวงการ ผู้นำธุรกิจ และนักนวัตกรรมจากทั่วลาตินอเมริกา […]

article-thumbnail

2025-08-29 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ติดอันดับ 3 ของโลกด้านผู้ใช้งานแอคทีฟ

รายงาน Finance Magnates Q2 ปี 2568 จัดอันดับ D Prime ติดท็อป 3 ของโลก พร้อมปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้น 20% สู่ระดับ 174 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

article-thumbnail

2025-08-14 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการซื้อขายของ D Prime ในเดือนกรกฎาคม 2568 พุ่งแตะ 144 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เดือนกรกฎาคม 2568 ถือเป็นเดือนสำคัญของ D Prime โดยมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ลูกค้าปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่ผันผวนและนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์หลักหลายประเภท  ภาพรวมปริมาณการซื้อขายเดือนกรกฎาคม 2568  จากข้อมูลพบว่าปริมาณการซื้อขายรวมของ D Prime ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 144.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.07% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน และปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันก็เพิ่มขึ้น 8.45% แสดงถึงการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่มากขึ้น  ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด: ความไม่แน่นอนและความผันผวน  ตลาดในเดือนกรกฎาคมได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านการเจรจาการค้าและนโยบายภาษีศุลกากร รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่กระทบต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) การคาดการณ์เกี่ยวกับเส้นตายการขึ้นภาษีและข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน Fed ได้เพิ่มความระมัดระวังต่อความเสี่ยงในตลาด  ภาวะนี้ทำให้ราคาทองคำแท่งในตลาดสปอตพุ่งขึ้นแตะ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ กระตุ้นการซื้อขายทองคำอย่างคึกคักท่ามกลางความผันผวน  ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเก็บภาษีศุลกากร 50% สำหรับผลิตภัณฑ์ทองแดง (ยกเว้นวัตถุดิบ) ทำให้ราคาทองแดงผันผวนอย่างรุนแรง ส่งผลให้การซื้อขายฟิวเจอร์สทองแดงพุ่งขึ้นอย่างมาก  ความยืดหยุ่นและโอกาสท่ามกลางความซับซ้อน  แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดได้อย่างเต็มที่  ปริมาณการซื้อขายในเดือนกรกฎาคมยังเพิ่มขึ้น 12.61% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของเราในสภาพแวดล้อมตลาดโลกที่ซับซ้อน  สินค้ายอดนิยมของนักลงทุนในเดือนกรกฎาคม  ความนิยมของนักลงทุนยังคงแข็งแกร่ง โดย XAU/USD, EUR/USD, […]