สรุปข่าวการเงินและการลงทุนประจำวันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2565

2022-07-20 | Current Affairs , ข่าวสารการลงทุน

This image has an empty alt attribute; its file name is ข่าวอันใหม่.jpg

— บริษัทเน็ตฟลิกซ์เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 พบว่าจำนวนสมาชิกที่จ่ายค่าบริการทั่วโลกปรับตัวลง 970,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงมากถึง 2 ล้านราย ส่วนรายได้อยู่ที่ 7.97 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.035 พันล้านดอลลาร์

— ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์คาดว่าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านรายในไตรมาส 3 และได้เริ่มวางแผนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มสำหรับสมาชิกที่แบ่งปันรหัสเข้าชมสตรีมมิงให้กับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน โดยขณะนี้บริษัทเริ่มทำการทดสอบกรณีดังกล่าวในภูมิภาคลาตินอเมริกา

— หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีแผนจะเดินทางเยือนไต้หวันในเดือนหน้า ด้านรัฐบาลจีนเตือนว่า หากนางเพโลซีไปเยือนไต้หวันจริง ก็พร้อมตอบโต้ด้วย “มาตรการรุนแรง”

— แหล่งข่าวระบุว่า รัสเซียจะกลับมาส่งก๊าซธรรมชาติไปยังสหภาพยุโรป (EU) ผ่านทางท่อส่ง Nord Stream 1 ตามปกติหลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงในวันที่ 21 ก.ค.นี้ แต่ต่ำกว่าระดับ 160 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งเป็นระดับการส่งก๊าซเต็มศักยภาพของท่อส่งดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความวิตกกังวลว่ารัสเซียจะไม่ส่งก๊าซให้ยุโรป แม้เสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงในวันดังกล่าว

— Rospotrebnadzor ซึ่งเป็นองค์กรดูแลสุขภาพและสิทธิของผู้บริโภคของรัสเซียรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2.75 หรือ “เซนทอรัส” จำนวน 5 รายที่กรุงมอสโกในเดือนก.ค. โดยผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง

— พรรคอนุรักษ์นิยมได้เสร็จสิ้นการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร 3 คนสุดท้ายที่จะเข้าสู่การแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้ว โดยนายริชิ ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ได้คะแนนเสียงสูงสุด (118) ตามมาด้วยนางเพนนี มอร์ดอนท์ รัฐมนตรีการค้า (92) นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศ (86) และนางเคมิ เบดนอซ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความเสมอภาค (59)

พรรคอนุรักษ์นิยมจัดการลงคะแนนเสียงเมื่อคืนนี้ โดยผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวน 358 คน ซึ่งผลการลงคะแนนดังกล่าวส่งผลให้นางเบดนอซถูกคัดออกจากการแข่งขัน

— กรมอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษรายงานว่า อังกฤษเผชิญอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ โดยสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส หรือ 104 องศาฟาเรนไฮต์ โดยได้รับอิทธิพลจากคลื่นความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วอังกฤษ ส่งผลให้รถไฟหลายเที่ยวถูกยกเลิกเนื่องจากรางรถไฟร้อนจนงอตัว และเกิดเหตุไฟไหม้ทั่วกรุงลอนดอน

— ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย., สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

อ้างอิง อินโฟเควสท์

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป