ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวน์ หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอตัวลง
ฟิวเจอร์สของหุ้นสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงต้นของวันพฤหัสบดี หลังจากดัชนีหลักดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอตัวลง
ในช่วงการซื้อขายปกติของวันพุธ
- ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 653.61 จุดหรือ 2% S&P 500 ไต่ขึ้น 2.6% ทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020
- NASDAQ Composite เพิ่มขึ้น 3.6% ทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020
ในบรรดาหุ้นในตลาด หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดย Block Inc (NYSE:SQ) ดีดตัวขึ้น 11.23%, Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) เพิ่มขึ้น 4.59%, Meta Platforms Inc ( NASDAQ:FB) เพิ่มขึ้น 4.31%, Apple Inc (NASDAQ:AAPL) เพิ่ม 3.5%, Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) เพิ่มขึ้น 4.97% และ Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) เพิ่มขึ้น 6.97%
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยมี Tesla Inc (NASDAQ:TSLA), Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) และ Lucid Group Inc (NASDAQ:LCID) เพิ่มขึ้น 4.19%, 4.12% และ 4.21% ตามลำดับ
ภาคการเงิน ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) เพิ่มขึ้น 4.01%, Citizens Financial Group Inc (NYSE:CFG) เพิ่มขึ้น 4.87%, Bank of America Corp (NYSE: BAC) เพิ่มขึ้น 6.35%, Citigroup Inc (NYSE:C) เพิ่มขึ้น 1.97%, Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) เพิ่มขึ้น 5.81%, Goldman Sachs Group Inc (NYSE:GS) เพิ่มขึ้น 3.8% และ Morgan Stanley (NYSE:MS) เพิ่มขึ้น 4.91%
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสายการบิน ดีดตัวขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบ ถอยกลับ Boeing Co (NYSE:BA) เพิ่มขึ้น 2.74%, Southwest Airlines Company (NYSE:LUV) เพิ่มขึ้น 3.83%, JetBlue Airways Corp (NASDAQ:JBLU) เพิ่มขึ้น 6.44%, Delta Air Lines Inc (NYSE:DAL) เพิ่มขึ้น 4.93%, American Airlines Group (NASDAQ:AAL) เพิ่มขึ้น 5.85% และ United Airlines Holdings Inc (NASDAQ:UAL) เพิ่มขึ้น 8.27%
ในข้อตกลงเพิ่มเติม Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) พุ่งขึ้น 6.8% หลังจากการประกาศการแบ่งหุ้น 20 ต่อ 1 และการซื้อหุ้นคืน 1 หมื่นล้านดอลลาร์
Crowdstrike Holdings Inc (NASDAQ:CRWD) เพิ่มขึ้น 12.49% หลังจาก รายงาน รายรับและรายรับที่เหนือความคาดหมายของตลาดในขณะที่ออกคำแนะนำที่แข็งแกร่งสำหรับปีงบประมาณ 2023 กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 30 เซ็นต์ เทียบกับคาดการณ์ที่ 20 เซนต์ ในขณะที่รายรับเข้ามาที่ 431 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดไว้ 411 ล้านดอลลาร์
Marqeta Inc (NASDAQ:MQ) เพิ่มขึ้น 14.85% หลังจาก รายงาน รายรับ 155.4 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดไว้ 137.7 ล้านดอลลาร์ บริษัทยังได้ออกการคาดการณ์การเติบโตของรายได้ในไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง
Asana Inc (NYSE:ASAN) พุ่งขึ้น 19.69% ทำผลงานได้ดีเกินคาด แม้รายงานผลประกอบการ จากบริษัทขาดทุน 25 เซนต์ต่อหุ้นเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 28 เซนต์ จากรายรับ 111.9 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดไว้ 105.2 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนกำลังจับตา ดัชนีราคาผู้บริโภค ของเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ การยื่นของรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ก็จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีเช่นกัน ด้านรายได้ บริษัทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Oracle Corporation (NYSE:ORCL), Ulta Beauty Inc (NASDAQ:ULTA) และ Rivian จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในวันพฤหัสบดี
อ้างอิง: th.investing.com/
หุ้นเอเชียรีบาวด์พร้อมตลาดทั่วโลก นักลงทุนประเมินความผันผวนของยูเครนอีกครั้ง
หุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดีและสอดคล้องกับการฟื้นตัวของหุ้นทั่วโลก ความเชื่อมั่นในความเสี่ยงดีขึ้น โดยผู้ซื้อขาย่อเพิ่มเดิมพันว่าสัปดาห์ของความผันผวนของตลาดอาจทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งในยูเครน
- นิคเคอิ 225 เพิ่มขึ้น 3.71% โดย 21:42 น. ET (2:42 AM GMT)
- KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 2.15% โดยตลาดเปิดใหม่หลังจาก ยุน ซุกยอล ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศ ยุนคาดว่าจะมีท่าทีแข็งกร้าวในความสัมพันธ์กับจีนและเกาหลีเหนือ
- ASX 200 ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 1.51%
- ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง เพิ่มขึ้น 2.12%
- เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนเพิ่มขึ้น 1.76%
- ดัชนีส่วนประกอบ SZSE เพิ่มขึ้น 2.09%
ในสหรัฐอเมริกา สัญญาเปิดกว้างเพียงเล็กน้อยหลังจาก S&P 500 บันทึกการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 Amazon.com Inc. (NASDAQ:AMZN) หุ้นพุ่งขึ้นมากกว่า 10% ในช่วงปลายปี ซื้อขายหลังจากที่บริษัทประกาศแบ่งหุ้นและแผนซื้อคืน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ผู้ค้าปลีกออนไลน์อยู่ในขั้นตอนสำคัญที่ใกล้จะถูกรวมอยู่ใน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ แล้ว
ในขณะเดียวกัน ขาขึ้นในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์หลายแห่งหยุดชะงัก แม้ว่าน้ำมันจะฟื้นตัวจากการขาดทุนอย่างรุนแรงในชั่วข้ามคืนซึ่งเห็นว่าราคาตกลงต่ำกว่าระดับ 110 ดอลลาร์ นักลงทุนยังเข้าใจถึงข้อเรียกร้องของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ถึงองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) เพื่อเร่งการผลิตน้ำมัน นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากกลยุทธ์ของกลุ่มพันธมิตรจนถึงตอนนี้ และอาจทำให้ UAE แข่งขันกับสมาชิกคนอื่น ๆ ได้
ความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. นำไปสู่การเตือนถึงภาวะเศรษฐกิจซบเซาที่อาจเกิดขึ้น ความไม่แน่นอนก็ยังคงมีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นในวันพุธหลังจาก Ihor Zhovkva รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ระบุว่ายูเครนเปิดกว้างเพื่อหารือเกี่ยวกับความต้องการความเป็นกลางของรัสเซีย แต่ต้องมีการค้ำประกันความปลอดภัย
รูเบิลรัสเซียร่วงลงเมื่อการซื้อขายสกุลเงินกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง โดยผลกระทบของการคว่ำบาตรยังคงแข็งแกร่ง นักลงทุนยังรอ การตัดสินใจด้านนโยบาย ล่าสุดของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งจะส่งมอบภายหลังวันนี้ และ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ จะครบกำหนดในวันศุกร์
การพิจารณาการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิตอลที่ใกล้จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกานั้นคาดว่าจะให้ความชัดเจนด้านกฎระเบียบสำหรับนักลงทุน สิ่งนี้จุดชนวนให้เกิดการซื้ออย่างรวดเร็วในโทเค็นดิจิทัลด้วยบิตคอยน์ที่อยู่ใกล้ระดับ 42,000 ดอลลาร์
อ้างอิง: th.investing.com/
ทองลง ความคิดเห็นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ชะลอราคาน้ำมัน
ทองคำร่วงลงในเช้าวันพฤหัสบดีในตลาดเอเชีย นักลงทุนถอยห่างจากทองคำเนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและน้ำมันลดลงหลังจากที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้แสดงความคิดเห็น
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ปรับตัวลง 0.11% มาอยู่ที่ 1,986.10 ดอลลาร์ ภายในเวลา 23:42 น. ET (4:42 น. GMT) หลังจากร่วงลง 1% ก่อนหน้านี้ในช่วงดังกล่าว
- แพลเลเดียม ลดลง 1.1% เป็น 2,904.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- เงิน ลดลง 0.9%
- แพลตทินัม ลดลง 1.1% มาอยู่ที่ 1,065.14 ดอลลาร์
ทองคำร่วงลงประมาณ 3% ในช่วงก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงรายวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่มกราคม 2021 และหยุดการชุมนุมที่ทำสถิติใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนสิงหาคม 2020 เกณฑ์มาตรฐาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพุธ โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงน่าเป็นห่วงแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลง
ด้วยข้อมูลก่อนหน้านี้ ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ จะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคภายในวันนี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังต้องตัดสินใจในนโยบายล่าสุดในวันที่ 16 มี.ค. อีปฝากหนึ่งธนาคารกลางยุโรปจะส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบายในวันนี้เช่นกัน
ราคาซื้อขาขึ้นของตลาดสินค้าโภคภัณฑเริ่มชะลอตัวลง์ในวันพุธ โดยราคาขึ้นครั้งนี้ทําสถิติสูงสุดในรอบหลายปีเนื่องจากตลาดได้วิเคราะห์ถึงการที่อุปทานจากรัสเซียและยูเครนซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานโลหะและพืชผลรายใหญ่สองรายได้เกิดการชะงักตัว อย่างไรก็ตามความขัดแย้งที่เกิดจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ยังคงดําเนินต่อไป
สหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้ผู้ผลิตน้ํามันเพิ่มการผลิตหากเป็นไปได้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบียเป็นสองในไม่กี่องค์กรของประเทศผู้ส่งออกปิโตรเลียมและพันธมิตร (OPEC +) ที่มีความสามารถในการทําเช่นนั้น
ด้านโลหะมีค่าอื่นๆ โลหะที่ใช้ในการแปลงตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อลดการปล่อยมลพิษไต่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,440.76 ดอลลาร์ในวันจันทร์ สิ่งนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัวของการหยุดชะงักของอุปทานจากรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตชั้นนํา
อ้างอิง: th.investing.com/
น้ำมันขึ้น แรงหนุนจากความมุ่งมั่นของUAEต่อแผนอุปทาน OPEC+
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดีในตลาดเอเชีย โดยรีบาวด์ขึ้นจากความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่จะเพิ่มอุปทานอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ กล่าวว่าประเทศของเขาสนับสนุนให้มีการเพิ่มอุปทานในวงกว้างมากขึ้น
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 2.92% เป็น 114.39 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:06 น. ET (4:06 น. GMT)
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.66% เป็น 110.50 ดอลลาร์
Suhail al-Mazrouei รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ล่าวใน Twitter เมื่อวันพุธว่าประเทศของเขาให้คำมั่นต่อแผนขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ที่จะเพิ่มอุปทาน 400,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากการลดลงอย่างมากในอุปทานรายเดือนปี 2020 “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เชื่อมั่นในคุณค่าของ OPEC+ ที่มีต่อตลาดน้ำมัน” al-Mazrouei ทวีต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก Yousef Al Otaiba เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำสหรัฐฯ กล่าวว่าประเทศของเขาจะสนับสนุนให้กลุ่มพันธมิตรพิจารณาผลผลิตที่สูงขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านอุปทานอันเนื่องมาจากการคว่ำบาตรรัสเซียภายหลังบุกยูเครน
ในบรรดาสมาชิก OPEC+ ทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบียต่างก็มีกำลังการผลิตสำรอง อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรายอื่นๆ พบว่าการบรรลุเป้าหมายการส่งออกมีความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“เราคิดว่ามันจะเป็นความท้าทายสำหรับกลุ่ม OPEC+ สำหรับการเพิ่มการผลิตในสภาพแวดล้อมนี้” วิเวก ดาร์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ ธนาคาร Commonwealth ของออสเตรเลีย กล่าวกับรอยเตอร์ส
จากรายงานในวันพุธ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จากสำนักงานข้อมูลด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ามีการดึงน้ำมันออกมา 1.863 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 657,000 บาร์เรล คาดการณ์โดย Investing.com แต่ต่ำกว่าที่วาดไว้ 2.597 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ก่อน
ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ที่เผยแพร่เมื่อวันก่อน แสดงให้เห็นว่ามีการเพิ่มผลผลิต2.811 ล้านบาร์เรล
อ้างอิง: th.investing.com/
สหรัฐฯ เดินหน้าหารือกฎข้อบังคับสกุลเงินดิจิทัล ก้าวใหญ่ของบิทคอยน์
ราคาบิทคอยน์เพิ่มขึ้นในวันพุธหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในคำสั่งสุดยอดเพื่อตรวจสอบแนวทางของสหรัฐฯ ต่อสกุลเงินดิจิตอล ซึ่งบางคนกล่าวว่าสามารถทำให้เกิดการยอมรับได้โดยการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเป็นประเภทสินทรัพย์และให้นักลงทุนมีกรอบการทำงานหลังจากรอคอยมานานในการประเมินสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยม
บิทคอยน์ พุ่งขึ้น 8% เป็น $41,956
คำสั่งดังกล่าวพยายามพัฒนานโยบายระดับชาติสำหรับสินทรัพย์สกุลเงินดิจิตอล และมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางหลายแห่งตรวจสอบความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดจากสกุลเงินดิจิตอลและสำรวจวิธีการควบคุมพวกมัน
“ความจริงที่ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นถูกต้องตามกฎหมาย บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อันเป็นผลมาจากบิทคอยน์” Dan Weiskopf – ผู้จัดการร่วมของ Blok กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Investing.com เมื่อวันพุธ
จุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับหนทางสู่การควบคุมคือการให้คำจำกัดความ ความคลุมเครือของการไม่รู้ว่าคุณเป็นเจ้าของอะไร ไม่ว่าจะเป็นโทเค็นการรักษาความปลอดภัยหรือโทเค็นยูทิลิตี้ ได้สร้างปัญหาให้กับนักลงทุนมาอย่างยาวนาน
“แนวคิดทั้งหมดของสกุลเงินดิจิตอลเป็นคำจำกัดความกว้างๆ ในหลายสิ่งหลายอย่างทำให้เกิดความสับสน” Weiskopf กล่าว
ความคิดที่ว่ารัฐบาลขนาดใหญ่ได้มุ่งโจมตีกฎระเบียบของคริปโตไม่น่าจะได้รับการต้อนรับจากนักปรัชญาบิทคอยน์หรือที่เรียกว่า maximalist พวกเขาโต้แย้งว่าการแทรกแซงของรัฐบาลขัดต่อหลักการของบิทคอยน์ในฐานะระบบการชำระเงินทางเลือกที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
แต่นักปรัชญาอาจต้องยอมรับว่าเพื่อให้บิทคอยน์เติมเต็มศักยภาพของระบบการชำระเงินทางเลือก เพราะการยอมรับของผู้ใช้ยังคงมีอิทธิพล ความชัดเจนหรือคำแนะนำในการประเมินบิทคอยน์และ สกุลเงินดิจิตอล อื่น ๆ จะช่วยในเรื่องนี้และในที่สุดก็ผลักดันให้เกิดการยอมรับ
“ความหวังของผมก็คือว่าคนเหล่านี้บางคนที่เรียกตัวเองว่า maximalists จะจริงจังกับกฎข้อบังคับ เพราะสำหรับมูลค่ายูทิลิตี้ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับบิทคอยน์ อีเธอเรียม หรือกลุ่มสินทรัพย์โดยทั่วไป โดยหากมีการยอมรับมากขึ้นมันก็จะดีขึ้น” Weiskopf กล่าวเสริม
อ้างอิง: th.investing.com/
