Ascend 910C ตัวใหม่: Nvidia จะถูกแทนที่ด้วย Huawei หรือไม่?

2024-08-23 | Huawei

Ascend 910C ตัวใหม่: Nvidia จะถูกแทนที่ด้วย Huawei หรือไม่?

มีรายงานว่า Huawei กำลังพัฒนา AI ชิปตัวใหม่ชื่อ Ascend 910C ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันโดยตรงกับ GPU ประสิทธิภาพสูงของ Nvidia ในตลาดจีน การพัฒนานี้เป็นการตอบโต้ทางยุทธศาสตร์ต่อความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นและข้อจำกัดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน 

เมื่อ Huawei พยายามเติมเต็มช่องว่างที่ Nvidia ทิ้งไว้เนื่องจากการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ Ascend 910C อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของการแข่งขันในอุตสาหกรรมชิป AI อย่างมีนัยสำคัญ และอาจส่งผลกว้างขวางต่อตลาดเทคโนโลยีและการเงินทั่วโลก 

เบื้องหลัง: ผลกระทบของการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ 

ความขัดแย้งในเรื่องเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อสหรัฐฯ บังคับใช้การควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดกับเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึง GPU AI ของ Nvidia ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้เกิดช่องว่างในตลาดจีนที่ Huawei ตั้งเป้าที่จะเติมเต็มด้วยชิป Ascend 910C ตัวใหม่ 

ตามที่ Huawei ระบุ Ascend 910C มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Nvidia H100 แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรฐานการทดสอบที่ใช้ในการเปรียบเทียบนี้คืออะไร รายงานจาก Wall Street Journal ระบุว่า Huawei ได้ทดสอบชิปร่วมกับบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งในจีน รวมถึง ByteDance, Baidu และ China Mobile ทำให้ Huawei กลายเป็นคู่แข่งที่น่าเชื่อถือในตลาดฮาร์ดแวร์ AI 

เปรียบเทียบ Huawei’s Ascend 910C กับ ผู้นำตลาดอย่าง Nvidia 

Ascend 910C ของ Huawei ถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความเป็นผู้นำของ Nvidia ในตลาด AI โดยเฉพาะในจีน การตอบสนองของ Nvidia ต่อการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ คือการเปิดตัวชิปรุ่นต่ำกว่าสำหรับตลาดจีน อย่างไรก็ตามข้อเสนอนี้ยังไม่เป็นไปตามความคาดหวังของอุตสาหกรรม 

Dylan Patel นักวิเคราะห์จาก SemiAnalysis ระบุว่า Ascend 910C ของ Huawei เป็นการก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมีนัยสำคัญ และอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่าโปรเซสเซอร์ B20 ที่กำลังจะออกมาของ Nvidia ถึงแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลการเปรียบเทียบเชิงลึกใด ๆ โปรเซสเซอร์ B20 ซึ่งก็ถูกตั้งเป้าไว้สำหรับตลาดจีน ยังต้องได้รับการอนุมัติจากกฎหมายของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มเติมในยุทธศาสตร์ของ Nvidia 

เพื่อเข้าใจว่า Ascend 910C ของ Huawei เปรียบเทียบกับ H100 ของ Nvidia อย่างไร นี่คือการเปรียบเทียบคุณลักษณะสำคัญ:

เปรียบเทียบ Huawei Ascend 910C กับ NVIDIA H100   

คุณลักษณะ Huawei Ascend 910C NVIDIA H100 
สถาปัตยกรรม Da Vinci Hopper 
วันวางจำหน่าย October 2024 Q4 2022 
ประสิทธิภาพ (FP32) ~9.7 PetaFLOPS ~19.5 PetaFLOPS 
การใช้พลังงาน 310W (per 8 cards) 700W 
หน่วยความจำ HBM (Details TBD) 80 GB HBM2e 
ซอฟต์แวร์ที่รองรับ CANN (Huawei’s AI framework) CUDA, TensorRT, cuDNN 
การเปรียบเทียบคุณสมบัติของ Huawei Ascend 910C กับ NVIDIA H100 

มีการคาดการณ์ว่าความต้องการสำหรับ Ascend 910C จะสูง โดยข้อมูลในเบื้องต้นแสดงถึงคำสั่งซื้อมากกว่า 70,000 หน่วย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14.3 พันล้านหยวน) Huawei มีแผนที่จะเริ่มการจัดส่งภายในเดือนตุลาคม 2024 แต่บริษัทอาจเผชิญกับความท้าทายในการผลิตและความเสี่ยงจากการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ 

แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ หุ้นของ Nvidia ก็ยังคงมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปิดที่สูงขึ้น 6.5% ที่ 116.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันอังคารหลังจากเพิ่มขึ้น 4.1% ในวันจันทร์ แนวโน้มขาขึ้นนี้เกิดจากความคาดหวังของนักวิเคราะห์ว่า Nvidia จะเกินการคาดการณ์รายได้ในไตรมาสถัดไป ซึ่งมีการคาดการณ์รายได้ไว้ที่ 29.9 พันล้านดอลลาร์ ความต้องการชิป AI ที่แข็งแกร่งทั่วโลกแม้จะมีความล่าช้าในตลาดจีนได้เสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน 

การที่ Nvidia สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด โดยเฉพาะในพื้นที่นอกประเทศจีน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจาก Huawei ผลประกอบการของหุ้น Nvidia ในช่วงนี้บ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงมีความมั่นใจในอนาคตของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการเติบโตของความต้องการ AI ที่คาดว่าจะช่วยสนับสนุนความสำเร็จของบริษัทในระยะยาว 

ผลกระทบในตลาดและระดับโลก 

การขยายตัวของ Huawei ในตลาดชิป AI เป็นสัญญาณของแนวโน้มที่กว้างขึ้นของบริษัทเทคโนโลยีจีนที่มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองมากขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง ความสำเร็จของ Ascend 910C อาจส่งผลให้ตลาดชิป AI ของโลกมีการกระจายตัวมากขึ้น เนื่องจากบริษัทจีนหันมาใช้เทคโนโลยีภายในประเทศมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานที่มีอยู่ถูกรบกวนและสร้างทั้งโอกาสและความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนทั่วโลก 

Ascend 910C ตัวใหม่: Nvidia จะถูกแทนที่ด้วย Huawei หรือไม่?
การคาดการณ์ตลาดชิป AI ระดับโลกในช่วงปี 2023 ถึง 2033 

ตลาดชิป AI ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยขยายจาก 23.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 เป็นประมาณ 341 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 31.2% จากปี 2024 ถึง 2033 

การขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการแข่งขันระหว่าง Huawei และ Nvidia ขณะที่ตลาดพัฒนาขึ้น ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทนี้จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของเทคโนโลยี AI และอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่กว้างขึ้น 

สำหรับนักลงทุน การเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้นำมาซึ่งทั้งความท้าทายและโอกาส การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนของ Nvidia อาจนำไปสู่การประเมินแนวโน้มการเติบโตใหม่ ในขณะที่การเติบโตของ Huawei ในตลาดชิป AI อาจดึงดูดการลงทุนใหม่เข้าสู่ภาคเทคโนโลยีของจีน ผลกระทบที่กว้างขึ้นต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลวัตของห่วงโซ่อุปทานและการกระจายตลาดโลก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องคอยจับตามอง 

ข้อพิจารณาทางจริยธรรมและการเมืองระดับโลก 

ขณะที่ Huawei และบริษัทจีนอื่น ๆ ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI ที่ล้ำหน้า ข้อพิจารณาทางจริยธรรมและการเมืองโลกกำลังมีความสำคัญมากขึ้น ศักยภาพที่เทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกใช้ในการสอดแนมหรือการทหารสร้างความกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะในบริบทของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ในขณะที่ประเมินผลกระทบระยะยาวของการพัฒนาในอุตสาหกรรม AI และเซมิคอนดักเตอร์ 

บทสรุป 

Huawei Ascend 910C ไม่ใช่เพียงแค่คู่แข่งใหม่ในตลาดชิป AI เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองเชิงกลยุทธ์ต่อความขัดแย้งทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ Huawei ท้าทายความเป็นผู้นำของ Nvidia ในจีน ภูมิทัศน์ของฮาร์ดแวร์ AI ทั่วโลกจึงเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สำหรับนักลงทุนและผู้ค้าหุ้น การเข้าใจถึงผลกระทบที่กว้างขึ้นของการเคลื่อนไหวล่าสุดของ Huawei ร่วมกับการแสดงผลของ Nvidia ในตลาดอื่น ๆ จะเป็นสิ่งสำคัญในการนำทางความซับซ้อนของตลาดโลกและอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว 


การเปิดเผยความเสี่ยง: 
การซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFDs และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของตราสารทางการเงินที่เกี่ยวข้อง อาจเกิดการสูญเสียอย่างมากเกินกว่าการลงทุนเริ่มต้นภายในระยะเวลาสั้น ๆ กรุณาแน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงของการซื้อขายตราสารทางการเงินดังกล่าวอย่างครบถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมใด ๆ กับเรา หากคุณไม่เข้าใจถึงความเสี่ยง โปรดขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: 
ข้อมูลที่มีอยู่ในบทความนี้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำในการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือการเชิญชวนในการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใด ๆ ข้อมูลนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินของผู้รับเฉพาะรายใด ๆ การอ้างอิงถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime และบริษัทในเครือไม่มีการรับรองหรือรับผิดชอบใด ๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานหรือการลงทุนที่ทำขึ้นจากข้อมูลนี้ 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-09-17 | กิจกรรม

D Prime Conecta LATAM 2025 กำลังจะมาถึงเมเดยิน 

เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า D Prime Conecta LATAM 2025 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 ตุลาคม 2025 ที่โรงแรมหรู Dann Carlton ที่เมเดยิน งานสัมมนาที่ทุกคนรอคอยนี้จะรวบรวมพาร์ทเนอร์ ลูกค้า และผู้นำในอุตสาหกรรมจากทั่วลาตินอเมริกา เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโต ความร่วมมือ และโอกาสใหม่ๆ  สำรวจโอกาสด้านพาร์ทเนอร์ชิปและโซลูชันการลงทุน  ที่งาน Conecta LATAM 2025 ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีสร้างธุรกิจ Introducing Broker (IB) ที่ยั่งยืนและสร้างรายได้ระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอศักยภาพของโซลูชันการลงทุนแบบ PAMM และวิธีที่สามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทั้งนักเทรดและพาร์ทเนอร์   เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ  งานนี้จะมอบมุมมองล้ำค่าจากวิทยากรที่มีชื่อเสียง รวมถึง Juan de Dios และ Johanna Serna ด้วยประสบการณ์อันลึกซึ้งและผลงานที่พิสูจน์แล้ว พวกเขาพร้อมที่จะถ่ายทอดกลยุทธ์เชิงปฏิบัติและองค์ความรู้จริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับการเติบโตของชุมชนนักเทรดในระลอกถัดไป   สร้างเครือข่ายกับผู้นำอุตสาหกรรม  นอกเหนือจากการเรียนรู้ Conecta LATAM 2025 ยังถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผู้เข้าร่วมจะได้พบปะและสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมวงการ ผู้นำธุรกิจ และนักนวัตกรรมจากทั่วลาตินอเมริกา […]

article-thumbnail

2025-08-29 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ติดอันดับ 3 ของโลกด้านผู้ใช้งานแอคทีฟ

รายงาน Finance Magnates Q2 ปี 2568 จัดอันดับ D Prime ติดท็อป 3 ของโลก พร้อมปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้น 20% สู่ระดับ 174 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

article-thumbnail

2025-08-14 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการซื้อขายของ D Prime ในเดือนกรกฎาคม 2568 พุ่งแตะ 144 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เดือนกรกฎาคม 2568 ถือเป็นเดือนสำคัญของ D Prime โดยมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ลูกค้าปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่ผันผวนและนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์หลักหลายประเภท  ภาพรวมปริมาณการซื้อขายเดือนกรกฎาคม 2568  จากข้อมูลพบว่าปริมาณการซื้อขายรวมของ D Prime ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 144.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.07% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน และปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันก็เพิ่มขึ้น 8.45% แสดงถึงการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่มากขึ้น  ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด: ความไม่แน่นอนและความผันผวน  ตลาดในเดือนกรกฎาคมได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านการเจรจาการค้าและนโยบายภาษีศุลกากร รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่กระทบต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) การคาดการณ์เกี่ยวกับเส้นตายการขึ้นภาษีและข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน Fed ได้เพิ่มความระมัดระวังต่อความเสี่ยงในตลาด  ภาวะนี้ทำให้ราคาทองคำแท่งในตลาดสปอตพุ่งขึ้นแตะ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ กระตุ้นการซื้อขายทองคำอย่างคึกคักท่ามกลางความผันผวน  ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเก็บภาษีศุลกากร 50% สำหรับผลิตภัณฑ์ทองแดง (ยกเว้นวัตถุดิบ) ทำให้ราคาทองแดงผันผวนอย่างรุนแรง ส่งผลให้การซื้อขายฟิวเจอร์สทองแดงพุ่งขึ้นอย่างมาก  ความยืดหยุ่นและโอกาสท่ามกลางความซับซ้อน  แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดได้อย่างเต็มที่  ปริมาณการซื้อขายในเดือนกรกฎาคมยังเพิ่มขึ้น 12.61% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของเราในสภาพแวดล้อมตลาดโลกที่ซับซ้อน  สินค้ายอดนิยมของนักลงทุนในเดือนกรกฎาคม  ความนิยมของนักลงทุนยังคงแข็งแกร่ง โดย XAU/USD, EUR/USD, […]