อะไรคือปัจจัยดันราคาทองไปสู่ ATH (All time high)

2024-03-14

ทองคำถือเป็นสินทรัพย์หลบภัยในยามที่เศรษฐกิจโลกปั่นป่วนมาตั้งแต่สมัยอดีต และเทรนของทองคำในปัจจุบันได้ชี้ให้เห็นว่าเสน่ห์ของทองคำนั้นยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

แต่ปัจจัยอะไรกันแน่ที่ผลักดันให้ราคาโลหะมีค่านี้ทำราคาจุดสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังของการดันราคาทองคำในครั้งนี้ 

ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น 

ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยแตะระดับ 2,156.55 ดอลลาร์สหรัฐฯ และทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,161.09 ดอลลาร์เพียงช่วงเวลาสั้นๆ 

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน สะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตของทองคำที่ไม่ได้อยู่เพียงแค่ตลาดอเมริกาเท่านั้น ราคาทองคำในดูไบก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยทั้งทองคำ 24 กะรัตและ 22 กะรัต ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน 

ทำไมราคาทองคำถึงขึ้น? 

การพุ่งขึ้นดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคหลายประการ

ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ 

สถิติล่าสุดบ่งชี้ถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และยังส่งสัญญาณถึงการขาดความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งกระตุ้นให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 

แนวโน้มของพาวเวลล์ที่อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 

การเปิดโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยของประธานธนาคารกลางสหรัฐถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับนักลงทุนทองคำ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้น เนื่องจากทองคำไม่ได้ให้ผลตอบแทน 

ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ 

เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกพิมพ์เงินมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ทองคำถูกมองว่าเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อตั้งแต่ในอดีต และอุปสงค์นี้สะท้อนให้เห็นได้จากการพุ่งขึ้นของราคาในช่วงนี้ 

การซื้อฟิวเจอร์ส 

การเคลื่อนไหวของราคาส่วนใหญ่อาจมีสาเหตุมาจากการซื้อจำนวนมากในตลาดฟิวเจอร์ส ความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องในตลาดทำให้นักลงทุนมองหาทางเลือกโดยการซื้อขายฟิวเจอร์สทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ 

การซื้อทองคำของธนาคารกลาง 

ธนาคารกลางทั่วโลกได้เพิ่มปริมาณสำรองทองคำ โดยมีแรงซื้อแตะระดับสูงสุดในรอบสามปี สิ่งนี้บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นต่อมูลค่าทองคำในระยะยาวและบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ 

ความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้าโลกและความไม่มั่นคงทางการเมืองในภูมิภาคต่างๆ ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น การที่ไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน นักลงทุนจึงหันมาเก็บทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย 

ตลาดในภาพรวม 

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์อนาคตอันสดใสของทองคำ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขายังเตือนด้วยว่าการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคาทองคำ ราคาอาจจะมีการปรับฐานได้ รวมถึงแนวโน้มที่ราคาอาจจะวิ่งอยู่ในกรอบสั้นๆ 
 
การซื้อของธนาคารกลางคาดว่าจะดำเนินต่อไปเพื่อประกันความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และความซบเซาของเศรษฐกิจจีนที่อาจขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับสถาบันการเงิน 

แนวโน้มตลาดโลหะมีค่า 

ในขณะที่ทองคำเปล่งประกาย โลหะมีค่าอื่นๆ จะแสดงประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน โดยที่ราคาของแร่เงินได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาแพลตตินัมและแพลเลเดียมลดลงเล็กน้อย การเคลื่อนไหวเหล่านี้แสดงถึงการตอบสนองของตลาดที่เชื่อมโยงถึงกันและบางครั้งก็ไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งมีผลต่อสภาวะเศรษฐกิจในวงกว้างและกิจกรรมของธนาคารกลาง 

ความแข็งแกร่งของทองคำ 

แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเติบโตอย่างรวดเร็วและ S&P 500 ก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน แต่มูลค่าของทองคำก็ยังเพิ่มขึ้นด้วย สิ่งนี้น่าสังเกตเป็นพิเศษเนื่องจากโดยทั่วไปแล้วทองคำจะเติบโตได้ดีในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งไม่ใช่ในช่วงที่ตลาดหุ้นเฟื่องฟู 
 
เหตุผลคือความแตกต่างระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และของประเทศเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร โดยประเทศเหล่านี้ประสบปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจและประสิทธิภาพของตลาดหุ้นที่ต่ำเกินไป 

อุปสงค์ที่อยู่นอกเหนือจากซีกโลกตะวันตก 

สิ่งที่น่าสนใจคือแรงซื้อของราคาทองคำที่ดูเหมือนจะไม่ได้มาจากนักลงทุนชาวตะวันตกเพียงอย่างเดียว แต่มาจากนักลงทุนชาวจีน ซึ่งมาจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงปัญหาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนอยากป้องกันความเสี่ยงโดยการซื้อทองคำ 

ภายในสหรัฐอเมริกา อุปสงค์ของทองคำอาจเชื่อมโยงกับความกังวลในด้านของเงินเฟ้อ รวมถึงการกระจายพอร์ตการลงทุนหลังจากการขึ้นของตลาดหุ้น และความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เป็นผลมาจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ 

อนาคตของราคาทองคำ 

จากสถานการณ์ของเศรษฐกิจระดับมหภาคในปัจจุบันและความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในกิจการทั่วโลก นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงทรงตัวหรืออาจสูงขึ้นต่อไป แม้ว่าปัจจัยต่างๆ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจทำให้เกิดความผันผวน แต่แนวโน้มโดยรวมดูเหมือนว่าจะมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ในขณะที่ธนาคารกลางยังคงกักตุนทองคำสำรองอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อนาคตของทองคำจึงดูสดใส นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังช่วยให้นักลงทุนทุกระดับเข้าถึงทองคำในพอร์ตการลงทุนได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงได้มากขึ้น

ด้วยชื่อเสียงอันยาวนานในฐานะแหล่งสะสมมูลค่าและผลงานในอดีตของทองคำที่สามารถต่อสู้กับความปั่นป่วนของตลาดได้ ทองคำยังคงเป็นส่วนเสริมาสำหรับพอร์ตการลงทุน ดังสุภาษิตที่ว่า “ในยามวิกฤติ ทองคำจะส่องสว่างที่สุด” และมีแนวโน้มว่าเทรนด์นี้จะคงอยู่ต่อไป 


การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง          

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย          

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง      

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย          

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-10-30 | สารจาก D Prime

การปรับมาร์จิ้นสำหรับ CFDs หุ้นสหรัฐฯ รอบวันที่ 31 ตุลาคม 2568 

เราขอแจ้งให้คุณทราบว่า จะมีการปรับข้อ กำหนดด้านมาร์จิ้นสำหรับ CFDs หุ้นสหรัฐฯหลายรายการ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการ  เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพของตลาดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประกาศผลประกอบการ อัตราหลักประกันสำหรับหุ้นที่ระบุด้านล่างจะถูกปรับชั่วคราวเป็น 20% (เลเวอเรจ 1:5) โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ก่อนเวลา 20:30 น. (UTC+7)   วิธีการดำเนินการ  การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า คุณจะต้องวางหลักประกันเท่ากับ 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งเทียบเท่ากับการลดเลเวอเรจเป็น 1:5 การปรับนี้มีขึ้นเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเทรดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงจากการประกาศผลประกอบการ  หุ้นที่ได้รับผลกระทบ – รอบปัจจุบัน  ชื่อหุ้น  สัญลักษณ์  วันที่ประกาศผลประกอบการ  Pfizer Inc  PFE  31/10/2568  Uber Technologies Inc  UBER  Robinhood Markets Inc  HOOD  Beyond Meat Inc  BYND  QUALCOMM Inc  QCOM  ConocoPhillips  COP  สิ่งที่คุณควรดำเนินการ  หากคุณถือสถานะใน CFDs หุ้นสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบ:  หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนนี้ หรือหากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ทุกเมื่อ 

article-thumbnail

2025-10-27 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการเทรดของ D Prime เพิ่มขึ้น 37% ในเดือนกันยายน 2025  

เดือนกันยายนถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของ D Prime และเหล่านักเทรดทั่วโลก ท่ามกลางความผันผวนของตลาดและกระแสข่าวระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กิจกรรมการเทรดพุ่งสูงแตะระดับใหม่ D Prime บันทึกปริมาณการเทรดรวม 191.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมในตลาดที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง   สรุปปริมาณการเทรดเดือนกันยายน 2025  ทั้งปริมาณการเทรดรวมและปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนกันยายน แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนของตลาดที่แข็งแกร่งและการมีส่วนร่วมของนักเทรดในผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก  ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดในเดือนกันยายน  ตลาดมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักตลอดเดือนกันยายน โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 จุดเบสิก ยืนยันมุมมองของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น การตัดสินใจดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและหนุนให้ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น  ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง ส่งผลให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น ทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดของเดือน โดยราคาพุ่งทะลุ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดใหม่  คู่สกุลเงิน XAU/USD มีปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นประมาณ 54.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตมากที่สุดในเดือนกันยายน สะท้อนถึงความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมและแนวโน้มตลาด  ทองคำไม่ใช่เพียงสินทรัพย์เดียวที่ได้รับความสนใจจากนักเทรดในเดือนกันยายน นอกจาก XAU/USD แล้ว คู่สกุลเงิน EUR/USD, GBP/USD, US30 และ NAS100 ยังติดอันดับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่มีปริมาณการเทรดสูงสุดด้วย  นอกจากนี้ยังพบการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในพฤติกรรมของนักเทรด โดย NAS100 ได้ก้าวเข้าสู่ 5 อันดับสินค้าที่มีการเทรดมากที่สุด แทนที่ BTC/USD จากเดือนก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่านักเทรดกำลังมองหาการกระจายความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น และเปิดรับโอกาสใหม่ในดัชนีหุ้น  ความแข็งแกร่งและแรงส่งต่อเนื่องในอนาคต  แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่ D Prime ยังคงมุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์การเทรดที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยปริมาณการเทรดรวมของแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น 48.85% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงถึงความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก  ในขณะที่ตลาดยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้นักเทรดสามารถรับมือกับทุกโอกาสได้อย่างมั่นใจ ผ่านการมอบข้อมูลเชิงลึก เครื่องมือ และการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จในระยะยาว 

article-thumbnail

2025-10-15 | กิจกรรม

D Prime สรุปความสำเร็จจากงาน Forex Expo Dubai 2025 

D Prime ปิดฉากการเข้าร่วมงาน Forex Expo Dubai 2025 อย่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม ณ ศูนย์การค้าโลก ดูไบ (World Trade Center Dubai) ในฐานะที่เป็น งานฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง งานนี้ได้รวบรวมโบรกเกอร์ชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทค และเทรดเดอร์ผู้มีแพสชันจากทั่วโลกเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง  ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษสำหรับ D Prime เพราะเราได้แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมการเทรดล่าสุดควบคู่กับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ สะท้อนถึงการพัฒนาและความมุ่งมั่นในการเป็นพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก หลังจากการปรากฏตัวในงานที่อินเดียและประเทศไทย การเข้าร่วมงานที่ดูไบในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ D Prime ในการเชื่อมโยงกับชุมชนเทรดเดอร์ที่หลากหลายจากทั่วโลก  ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องต่อภูมิภาค MENA  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ D Prime เข้าสู่ตลาด MENA และแน่นอนว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ภายในงานที่บูธ #109 D Prime ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงกับเทรดเดอร์ในหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ตลอดสองวันที่เต็มไปด้วยความคึกคัก บูธของเรามีชีวิตชีวาเมื่อผู้เข้าชมได้สัมผัสถึงการขยายเครือข่ายระดับโลกของ D Prime แพลตฟอร์มการเทรดที่ล้ำสมัย และการให้บริการที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง  “น่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่า D Prime สามารถเชื่อมต่อกับเทรดเดอร์จากทั่วโลกได้อย่างไร ผมได้พบผู้คนจากยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสากลของชุมชนนี้ได้อย่างแท้จริง” ผู้เข้าร่วมงานคนหนึ่งกล่าวระหว่างการเข้าชมงาน Expo  ภายในประสบการณ์บูธของ D Prime  เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน D Prime ได้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่ทั้งน่าสนใจ มอบรางวัล และสร้างแรงบันดาลใจ  ตั้งแต่ของที่ระลึกสุดพิเศษสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกคน ไปจนถึงการแข่งขันถ่ายภาพบน Instagram ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเก็บภาพช่วงเวลาที่ดีที่สุดภายในงาน Expo เพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพรีเมียม บรรยากาศภายในบูธเต็มไปด้วยพลังและความสนุกอย่างต่อเนื่อง  กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก กระตุ้นให้เกิดบทสนทนาที่มีคุณค่าเกี่ยวกับวิธีที่ D Prime สามารถ ยกระดับประสบการณ์และองค์ความรู้ของเทรดเดอร์ได้อย่างแท้จริง  เสริมสร้างสายสัมพันธ์และก้าวสู่อนาคต  สำหรับ D Prime งาน Forex Expo Dubai ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่เป็นโอกาสในการสร้างความเชื่อมโยง แบ่งปันมุมมอง และ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการเติบโตและความเป็นเลิศ ภาพลักษณ์ใหม่ของเราไม่ใช่แค่การอัปเดตดีไซน์ แต่คือการประกาศถึงพลัง แรงบันดาลใจ และอนาคตที่เรากำลังร่วมกันสร้างกับลูกค้าทั่วโลก   เราภูมิใจกับความสัมพันธ์และพลังงานที่เกิดขึ้นระหว่างงานอย่างยิ่ง ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมบูธของเรา เข้าร่วมกิจกรรม และพูดคุยกับทีมงานของเรา ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้  นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น D Prime จะยังคงขยายการเติบโตในภูมิภาค MENA และทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม สร้างโอกาส และส่งแรงบันดาลใจให้แก่นักเทรดทั่วโลก  โปรดติดตามกิจกรรมใหญ่ครั้งต่อไปของเรา ที่จะมาพร้อมเซอร์ไพรส์และประสบการณ์สุดพิเศษจาก D Prime