Search Mark
หน้าแรก / คลังความรู้

การปฏิวัติชิป AI: เจาะลึกข้อมูลชิป AI ในตลาด


ความสำเร็จของ ChatGPT ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ตลาดหันไปรุมสนใจภาคปัญญาประดิษฐ์กัน ส่งผลให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI พุ่งขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากความผันผวนของอารมณ์ตลาด (Market Sentiment) 

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ในบทความของเรา “ความสำเร็จของ ChatGPT แชตบอตอัจฉริยะอันโด่งดัง และมุมมองของนักลงทุน” อุตสาหกรรม AI ที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ตอนนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะตกลงมาอีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของเทคโนโลยีนี้ ก็ได้รับการเตรียมความพร้อมให้มีแรงต้านทานวัฏจักรความผันผวนได้ 

ในขณะที่บริษัท AI ยังไม่มีความสำเร็จขั้นสูงสุดที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม อีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบ AI คือ อุตสาหกรรมชิป ซึ่งบริษัทในภาคส่วนนี้ยังมีแนวโน้มจะได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงด้วย 

ด้วยเหตุนี้ ความเฟื่องฟูของอุตสาหกรรม AI ทำให้อุตสาหกรรมชิปได้รับความสนใจจากตลาดเพิ่มขึ้น 

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมชิปก็มีความซับซ้อนในตัวมันเอง และมีนักลงทุนเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่มีความรู้และความเข้าใจต่ออุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของชิปที่เหมาะกับความต้องการของอุตสาหกรรม AI โดยเฉพาะ 

นอกจากนี้ ไม่ใช่ชิปทั้งหมดที่เหมาะกับการใช้งาน AI เนื่องจากตัว AI เองต้องการชิปที่มีความเฉพาะเจาะจง ในบทความนี้ เราจะทำความเข้าใจกับอุตสาหกรรมชิป AI รวมถึงการเตรียมความรู้ที่จำเป็นให้กับนักลงทุนในการใช้ประโยชน์จากโอกาสครั้งนี้ 

บทบาทของชิปในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ 

ในอดีต อุตสาหกรรมชิป Semiconductor ได้อยู่เห็นความสำเร็จในอดีตในยุคที่เกิดการสร้างโปรดักส์เทคโนโลยีล้ำสมัยที่นำไปสู่ยุคทองแห่งการเติบโต ยกตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ Personal Computer ซึ่งเป็นที่นิยมในปี ค.ศ. 1990 เป็นหัวหอกในการพัฒนาอุตสาหกรรมชิปคอมพิวเตอร์ 

ในศตวรรษที่ 21 สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทสำคัญและกลายเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมในขณะนี้ การเกิดขึ้นของ ChatGPT บ่งชี้ว่าปัญญาประดิษฐ์พร้อมเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟนและก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาในอุตสาหกรรมชิป Semiconductor 

เพื่อให้เข้าใจถึงประเภทของชิปที่จำเป็นสำหรับ AI เราจำเป็นต้องเข้าใจบทบาทของชิปก่อน 
ปัญญาประดิษฐ์เกี่ยวข้องกับการจำลองสมองของมนุษย์ผ่านโครงข่ายประสาทเทียม ซึ่งต้องอาศัย Machine Learning ประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ ชิป Training และ ชิป Inference ซึ่งเป็นสองหน้าที่ของชิป AI  

ชิป Training: 

ในระหว่างเซสชันเทรนนิ่ง ในโมเดลโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึกที่ซับซ้อน ข้อมูลจำนวนมหาศาลจะถูกป้อนเข้าในชิป และมีการดำเนินการหลายอย่างพร้อมๆ กัน กระบวนการนี้ต้องการพลังมหาศาลในการประมวลผล และมีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพและความคืบหน้าของชิปที่สูงเพื่อให้การเรียนรู้สิ่งต่างๆ เสร็จสมบูรณ์ 

ชิป Inference

อินเฟอร์เรนซ์เกี่ยวข้องกับการใช้แบบจำลองโครงข่ายประสาทที่ผ่านการเทรนเพื่อหาข้อสรุปใหม่ตามข้อมูลที่เพิ่งใส่เข้ามาใหม่ เหมือนกับการทำแบบทดสอบหลังการเรียนรู้ในห้องเรียน โมเดลที่มีอยู่จะถูกใช้เพื่อการดึงอนุมานใหม่จากข้อมูลใหม่ 

โดยสรุป ชิป Training ให้ความสำคัญกับ Arithmetic Power จึงหมายความว่าบริษัทที่มีชิปทรงพลังที่สุดมีแนวโน้มที่จะครองตลาดได้มากที่สุด 

ในทางกลับกัน ชิป Inference จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ รวมถึง Arithmetic Power เวลาในการประมวลผล (latency) และต้นทุน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจาก Raw Computational Power ด้วย 

ชิป Training จะเน้นการทำงานไปที่ Arithmetic Power จึงหมายความว่าบริษัทที่มีชิปที่มี Arithmetic Power ที่ทรงพลังกว่า ก็จะมีแนวโน้มที่จะครองตลาดมากกว่า  

NVIDIA คิดค้น GPU ในปี ค.ศ. 1999 และในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา Arithmetic Power ของชิป GPU ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ปัจจุบัน GPU ของ NVIDIA เป็นผู้นำในการสร้างชิป Training นอกจากนี้ ราคาหุ้นของบริษัทรายปียังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 50% เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์มีความนิยมเพิ่มขึ้น 

ตรงกันข้ามกับฝั่งชิป Training พื้นที่ของชิป Inference นั้นหนาแน่นกว่า ชิปเหล่านี้จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ นอกเหนือจาก raw computing power ดังนั้นความเป็นผู้นำในด้านชิป Inference จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครมีชิปที่ทรงพลังที่สุดเท่านั้น 

แม้ว่า NVIDIA จะถือหุ้นที่สำคัญในด้านชิป Inference แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับในฝั่งของชิป Training ซึ่งผู้ผลิตรายใหญ่อื่น ๆ เช่น Google, Microsoft, Amazon, Baidu, Ali และ Tencent ก็มีบทบาทในตลาดชิป Inference เช่นกัน 

ทำความรู้จักกับชิป AI เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด 

จากข้อมูลข้างต้น ชิป AI จำเป็นที่ต้องทำงานทั้ง Training และ Inference ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า ชิปประเภทใดที่สามารถดำเนินการได้ ในการตอบคำถามนี้ จำเป็นต้องจำแนกประเภทของชิป AI ต่างๆ และพิจารณาว่าชิปประเภทใดเหมาะสมที่สุด

1)GPU: 

การกำเนิดของ GPU หรือหน่วยประมวลผลกราฟิกมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการพัฒนาคอมพิวเตอร์สมัยใหม่และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ CPU ทำหน้าที่เป็นสมองของคอมพิวเตอร์ มันยังทำหน้าที่อื่นๆ ด้วย เช่น การอ่านหน่วยเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ตามคำสั่ง และการเปลี่ยนหน้าที่ 

เมื่อการคำนวณข้อมูลเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องมียูนิตเฉพาะเพื่อดำเนินการคำนวณพิเศษสำหรับการแสดงผลกราฟิก การแสดงภาพ และงานที่ต้องใช้การคำนวณอย่างสูง 

ดังนั้น GPU จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มพลังการประมวลผลและลดแรงให้ CPU พลังการประมวลผลอันทรงพลังของ GPU จึงกลายเป็นสิ่งที่คู่ควรกับ AI ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้การคำนวณอย่างมาก 

GPU เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่แล้วในด้านการ Training เชิงลึกของ AI และ NVIDIA มีความโดดเด่นในตลาดกราฟิกโดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 70% 

2)FPGA: 

FPGA (Field Programmable Gate Array) เป็นอุปกรณ์ลอจิกที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการวิเคราะห์คำสั่งหลายคำสั่ง ทำให้เหมาะสำหรับเซสชันอินเฟอร์เรนซ์ของ AI เนื่องจากความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ FPGA จึงมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลงในระหว่างเฟสอินเฟอร์เรนซ์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จึงปรับใช้ FPGA บนระบบคลาวด์ 

3)ASIC: 

ASIC (Application Specific Integrated Circuits) เป็นชิปแบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดยเฉพาะ โดยนำเสนอประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ขนาดที่เล็กลง การใช้พลังงานที่ลดลง ต้นทุนที่ต่ำลง และความน่าเชื่อถือที่สูงกว่าในการผลิตจำนวนมาก 

แม้จะมีความได้เปรียบในด้านการใช้พลังงาน ความน่าเชื่อถือ และการผสานรวม แต่การออกแบบวงจรก็จำเป็นต้องปรับแต่งเป็นพิเศษ ซึ่งวงจรการพัฒนาจะยาวนาน และขยายฟังก์ชันได้ยาก ชิป ASIC เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันมือถือที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานต่ำ 

ในระยะสั้น GPU จะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำของอุตสาหกรรมชิป AI และราคาหุ้นของ Nvidia จะยังได้รับการสนับสนุนที่ดีอยู่ ตราบใดที่ AI ในปัจจุบันยังคงเฟื่องฟู ก็ยากที่จะโค่นตำแหน่ง Nvidia ได้ เนื่องจากบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับ AI มากขึ้น  

FPGA ยังมีศักยภาพในการเติบโตเนื่องจากความยืดหยุ่นในการกำหนดค่า การใช้งานจริงในการทำซ้ำแอปพลิเคชันอย่างรวดเร็ว และการใช้พลังงานที่ต่ำกว่า GPU ช่วยให้บริษัทต่างๆ ลดต้นทุนของกระบวนการวิจัยและพัฒนาผ่าน FPGA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเปลี่ยนผ่านผลิตภัณฑ์ได้อย่างราบรื่น ปัจจุบัน Intel และ Ceres ได้ปรับใช้ FPGA สำหรับชิป Training ในขณะที่ Amazon, Microsoft, Baidu, Ali และ Tencent ได้ปรับใช้ FPGA เพื่อชิป Inference 

ในระยะยาว แต่ละเส้นทางของเทคโนโลยีทั้ง 3 เส้นทาง ซึ่งก็คือ GPU, FPGA และ ASIC มีจุดแข็งของตัวเอง และในอนาคต GPU จะมีความสามารถในการประมวลผลที่ทรงพลังและซับซ้อนมากขึ้น 

ด้วยความยืดหยุ่นของ FPGA จึงเหมาะในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรม 

แม้ว่าปัจจุบัน ASICs จะถูกใช้น้อยลง แต่ชิปนี้เหมาะสมอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ในระยะยาว เนื่องจากประสิทธิภาพที่สูงและใช้พลังงานต่ำ ASIC จึงสามารถปรับแต่งเพื่อปรับอัลกอริทึม AI หลายตัวให้เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ 

ด้วยความก้าวหน้าในอนาคต คาดว่า ASIC จะครองตำแหน่งสำคัญในตลาด ทั้งในขั้นตอนการชิป Training และชิป Inference 

อนาคตของชิป AI: บริษัทที่อยู่ในระดับแนวหน้า 

ตอนนี้เราได้เรียนรู้ประเภทของชิปที่จำเป็นในอุตสาหกรรม AI แล้ว มาดูบริษัทที่ควรได้รับความสนใจจากตลาดกันบ้าง 

ปัจจุบัน Nvidia ครองตลาด GPU เนื่องจากมีข้อได้เปรียบด้านเลขคณิตที่แข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง ข้อได้เปรียบนี้สร้างอุปสรรคให้กับบริษัทอื่น ทำให้พวกเขาแข่งขันในระยะสั้นกับ Nvidia ได้ยาก 

ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีคู่แข่งรายใหม่ออกมาแข่งกับ Nvidia ในอนาคตอันใกล้นี้ 

ในทางตรงกันข้าม AMD อยู่ตำแหน่งที่สองในตลาด แต่ประสิทธิภาพกราฟิกแยกของ Nvidia ไม่สามารถเทียบได้ แต่ AMD อาศัยราคาที่คุ้มค่าของตนเป็นจุดแข็ง 

อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามไต่อันดับ แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ AMD จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญต่อส่วนแบ่งการตลาดของ Nvidia ในระยะสั้น โดยรวมแล้ว การครองตลาด GPU ของ Nvidia ทั่วโลกมีส่วนทำให้ราคาหุ้นของบริษัทประสบความสำเร็จในระยะยาว 

อีกทั้ง NVIDIA ที่ครองตลาด GPU ยังสะท้อนถึงผลประกอบการบริษัทล่าสุดที่โดดเด่นอีกด้วย จากรายงานผลประกอบการล่าสุด ธุรกิจ Data center ของบริษัทเติบโตในรายปีถึง 41%  สร้างรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 15.01 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากผลิตภัณฑ์ H100  

แม้ชิป A100 ของ Nvidia จะมีความสามารถที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นชิปที่ขับเคลื่อน ChatGPT และเป็นที่ทราบกันดีว่าเร็วกว่า H100 ถึง 9 เท่าในแง่ของความเร็ว Training และเร็วกว่า 30 เท่าในแง่ของความเร็ว Inference แต่ H100 ก็แซงหน้ารายได้ของชิป A100 ได้ 

สิ่งนี้ตอกย้ำตำแหน่งของ Nvidia ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีล้ำสมัย และแสดงให้เห็นว่า Nvida มีแนวโน้มที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมในอุตสาหกรรม AI ต่อไป แม้ว่าชิปรุ่นใหม่จะได้รับการพัฒนา แต่ก็มีแนวโน้มว่า Nvidia จะยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าอยู่ 

บริษัท Xilinx ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทที่ครองตลาด FPGA ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เรื่องการเข้าซื้อกิจการ Xilinx ของ AMD ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และความเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับสองในแง่ของ GPU รองจาก Nvidia ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนี้น่าติดตามยิ่งนัก นี่อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงศักยภาพการเติบโตในตลาด FPGA และประสิทธิภาพในอนาคตของ AMD 

ในรายงานผลประกอบการล่าสุด AMD ประกาศรายได้ทั้งปีที่ 23.601 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี ค.ศ. 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้น 44%  

Lisa Su ซีอีโอของ AMD กล่าวว่า “ปี 2022 เป็นปีแห่งการเติบโตที่แข็งแกร่งสำหรับ AMD โดยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อกิจการ Xilinx ธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น และมีรูปแบบทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น 

แม้จะมีความซับซ้อนของด้านอุปสงค์ แต่ AMD ก็มั่นใจในความสามารถในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและุร้างการเติบโตในระยะยาวในปีค.ศ. 2023 จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง” 

สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า AMD พร้อมที่จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและอาจเป็นคู่แข่งกับ Xilinx และบริษัทอื่นๆ ในตลาด FPGA 

ในขณะที่ตลาด GPU และ FPGA ได้สร้างผู้เล่นที่โดดเด่น แต่ตลาด ASIC สำหรับ AI ยังไม่ได้สร้างรูปแบบที่เป็นหนึ่งเดียว บริษัทต่างๆ เช่น Google, Amazon และ Qualcomm ได้เริ่มออกแบบ ASIC เฉพาะสำหรับแอปพลิเคชัน AI ของตนเอง 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google กำลังมุ่งหน้าทำโครงการ Bard ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบ ChatGPT ซึ่งหากเปิดตัว Bard ได้สำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดี ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ TPU (Tensor Processing Unit) ของ Google และอาจทำให้ราคาหุ้นของ Google เพิ่มขึ้นได้ 

สิ่งนี้เน้นย้ำถึงศักยภาพในการเติบโตและนวัตกรรมในตลาด ASIC เนื่องจากบริษัทต่างๆ ยังคงค้นหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ AI อยู่ 

ในปัจจุบัน หุ้นบริษัทชิป AI ที่เพิ่มขึ้นระยะสั้นนั้น ขึ้นอยู่กับเรื่องการเปิดตัวแอปพลิเคชันว่ามีความน่าทึ่งเพียงใด รวมถึงข้อมูลของชิปที่ใช้ในการสร้างแอปฯ นั้นๆ 

Nvidia เป็นผู้นำกระแสแห่งความสำเร็จของ ChatGPT และมีตัวตนที่แข็งแกร่งในภาคส่วนชิป GPU อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาดูว่าชิปของบริษัทใดที่จะใช้ในการขับเคลื่อนแอปฯ ที่คล้าย ChatGPT รุ่นถัดไป 

ในการกระจายพอร์ตการลงทุน นักลงทุนควรเน้นไปที่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับภาคชิป ASIC และรอการเปิดตัวของเทคโนโลยีสุดล้ำตัวถัดไป เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสำหรับการเติบโตของวัตกรรมในอุตสาหกรรมชิป AI 

| เกี่ยวกับ Doo Prime       

เครื่องมือการซื้อขายของเรา     

หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น    

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน    

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก     

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 10 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ     

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก     

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ     

โทรศัพท์     
ยุโรป : +44 11 3733 5199       
เอเชีย : +852 3704 4241        
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415       
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539         

อีเมล   
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค [email protected]       
ฝ่ายขาย [email protected]      

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)        

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)      

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต       

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้      

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้  

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง     

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย     

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง 

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย     

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

แชร์ไปที่

คลังความรู้

11.11 ที่นานที่สุดในประวัติศาสตร์ได้เริ่มขึ้นแล้ว: หุ้นตัวไหนที่น่าจับตามอง? 

เทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 ในปี 2567 เริ่มเร็วขึ้นกว่าที่เคย!  Douyin ได้เริ่มโปรโมชั่น 11.11 ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม ตามมาด้วย JD และ Tmall ที่ได้เริ่มในวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งเร็วกว่าปีที่แล้วถึงสิบวัน ระยะเวลาที่ขยายเพิ่มขึ้นนี้ทำให้ 11.11 ปี 2567 กลายเป็นเทศกาลช้อปปิ้งที่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา  นอกเหนือจากการขยายระยะเวลาแล้ว แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยังหันมาเน้นช่วยลดภาระให้กับผู้ค้า แทนที่จะเน้นการลดราคาจนเกิด “สงครามราคา” อย่างที่เคยเป็น ในส่วนของข้อมูลยอดขายรอบแรกของเทศกาล 11.11 ได้เผยออกมา ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้เริ่มได้รับความสนใจในตลาด  ในโอกาสครบรอบ 16 ปีของเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 ฟีเจอร์และแนวโน้มใหม่ ๆ กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับงานในปีนี้ หุ้นตัวไหนบ้างที่มีโอกาสได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการพัฒนานี้? และนักลงทุนจะสามารถวางแผนให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุดจากกระแสของเทศกาลนี้ได้อย่างไร? มาร่วมศึกษาไปพร้อมกัน  การไร้ซึ่งสงครามราคา: มีอะไรใหม่สำหรับ 11.11 ในปีนี้?  การเปลี่ยนแปลงสำคัญปีนี้คือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ร่วมมือกันเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการชำระเงินมากขึ้นกว่าเดิม Wu Jia รองประธานของ Alibaba และหัวหน้าฝ่าย […]

2024-11-7 | คลังความรู้

Trick or Trade: 3 หุ้นค้าปลีกที่น่าจับตามองในวันฮาโลวีนนี้! 

Trick or Trade วันฮาโลวีนไม่ใช่แค่การสวมชุดแฟนซี รับลูกกวาด และการตกแต่งที่น่าขนลุกเพียงเท่านั้น แต่มันยังเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ในการกอบโกยผลประโยชน์จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในตลาดค้าปลีก  เมื่อวันฮาโลวีนใกล้เข้ามา บริษัทบางแห่งมีความสามารถในการดึงดูดผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งสร้างโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุนในภาคค้าปลีก  บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก 3 หุ้นค้าปลีกที่น่าจับตามอง และจะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายในช่วงฮาโลวีน พร้อมสำรวจโอกาสในการซื้อขายที่น่าสนใจสำหรับแต่ละตัว  การคาดการณ์การใช้จ่ายในวันฮาโลวีน 2567  ตามข้อมูลจากสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (National Retail Federation) การใช้จ่ายในวันฮาโลวีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า ปีนี้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ คาดว่าจะใช้จ่ายอย่างมหาศาลอีกครั้ง โดยมีการคาดการณ์เกินกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากผู้คนลงทุนในชุดแฟนซี ลูกกวาด การตกแต่ง และอุปกรณ์จัดงานปาร์ตี้ ผู้ค้าปลีกที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล สินค้าจัดงานปาร์ตี้ และของตกแต่งในราคาย่อมเยาว์จะได้รับประโยชน์สูงสุด โดยปีนี้มีความสนใจในประสบการณ์วันฮาโลวีนมากยิ่งขึ้น  ดังนั้น มาดูสามหุ้นค้าปลีกที่มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีในช่วงวันฮาโลวีนนี้กันเถอะ  หุ้นค้าปลีก 3 ตัวที่น่าจับตามองในวันฮัลโลวีนนี้  1. Amazon, Inc. (NASDAQ: AMZN)  ทำไมเทรดเดอร์ควรจับตามอง  Amazon กลายเป็นแหล่งที่ผู้บริโภคเลือกใช้สำหรับความต้องการในวันฮาโลวีน เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์หลากหลายและการจัดส่งที่รวดเร็ว ตั้งแต่ชุดแฟนซีไปจนถึงการสั่งซื้อขนมหวานจำนวนมาก โปรแกรม Prime ของ Amazon และตัวเลือกการจัดส่งที่รวดเร็วตอบสนองความต้องการในช่วงปลายฤดูกาล […]

2024-10-31 | คลังความรู้

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับ รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2567 

ในบทความนี้ เราจะมาพิจารณาถึงผลกระทบที่เป็นไปได้ของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2567 ในภาคส่วนต่างๆ เช่น พลังงาน แนวโน้มการพัฒนาที่ยั่งยืน และมุมมองต่อเศรษฐกิจเกิดใหม่

2024-10-24 | คลังความรู้