Search Mark
หน้าแรก / คลังความรู้

อะไรคือปัจจัยดันราคาทองไปสู่ ATH (All time high)


ทองคำถือเป็นสินทรัพย์หลบภัยในยามที่เศรษฐกิจโลกปั่นป่วนมาตั้งแต่สมัยอดีต และเทรนของทองคำในปัจจุบันได้ชี้ให้เห็นว่าเสน่ห์ของทองคำนั้นยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

แต่ปัจจัยอะไรกันแน่ที่ผลักดันให้ราคาโลหะมีค่านี้ทำราคาจุดสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังของการดันราคาทองคำในครั้งนี้ 

ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น 

ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยแตะระดับ 2,156.55 ดอลลาร์สหรัฐฯ และทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,161.09 ดอลลาร์เพียงช่วงเวลาสั้นๆ 

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน สะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตของทองคำที่ไม่ได้อยู่เพียงแค่ตลาดอเมริกาเท่านั้น ราคาทองคำในดูไบก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยทั้งทองคำ 24 กะรัตและ 22 กะรัต ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน 

ทำไมราคาทองคำถึงขึ้น? 

การพุ่งขึ้นดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคหลายประการ

ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ 

สถิติล่าสุดบ่งชี้ถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และยังส่งสัญญาณถึงการขาดความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งกระตุ้นให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 

แนวโน้มของพาวเวลล์ที่อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 

การเปิดโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยของประธานธนาคารกลางสหรัฐถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับนักลงทุนทองคำ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้น เนื่องจากทองคำไม่ได้ให้ผลตอบแทน 

ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ 

เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกพิมพ์เงินมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ทองคำถูกมองว่าเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อตั้งแต่ในอดีต และอุปสงค์นี้สะท้อนให้เห็นได้จากการพุ่งขึ้นของราคาในช่วงนี้ 

การซื้อฟิวเจอร์ส 

การเคลื่อนไหวของราคาส่วนใหญ่อาจมีสาเหตุมาจากการซื้อจำนวนมากในตลาดฟิวเจอร์ส ความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องในตลาดทำให้นักลงทุนมองหาทางเลือกโดยการซื้อขายฟิวเจอร์สทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ 

การซื้อทองคำของธนาคารกลาง 

ธนาคารกลางทั่วโลกได้เพิ่มปริมาณสำรองทองคำ โดยมีแรงซื้อแตะระดับสูงสุดในรอบสามปี สิ่งนี้บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นต่อมูลค่าทองคำในระยะยาวและบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ 

ความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้าโลกและความไม่มั่นคงทางการเมืองในภูมิภาคต่างๆ ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น การที่ไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน นักลงทุนจึงหันมาเก็บทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย 

ตลาดในภาพรวม 

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์อนาคตอันสดใสของทองคำ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขายังเตือนด้วยว่าการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคาทองคำ ราคาอาจจะมีการปรับฐานได้ รวมถึงแนวโน้มที่ราคาอาจจะวิ่งอยู่ในกรอบสั้นๆ 
 
การซื้อของธนาคารกลางคาดว่าจะดำเนินต่อไปเพื่อประกันความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และความซบเซาของเศรษฐกิจจีนที่อาจขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับสถาบันการเงิน 

แนวโน้มตลาดโลหะมีค่า 

ในขณะที่ทองคำเปล่งประกาย โลหะมีค่าอื่นๆ จะแสดงประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน โดยที่ราคาของแร่เงินได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาแพลตตินัมและแพลเลเดียมลดลงเล็กน้อย การเคลื่อนไหวเหล่านี้แสดงถึงการตอบสนองของตลาดที่เชื่อมโยงถึงกันและบางครั้งก็ไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งมีผลต่อสภาวะเศรษฐกิจในวงกว้างและกิจกรรมของธนาคารกลาง 

ความแข็งแกร่งของทองคำ 

แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเติบโตอย่างรวดเร็วและ S&P 500 ก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน แต่มูลค่าของทองคำก็ยังเพิ่มขึ้นด้วย สิ่งนี้น่าสังเกตเป็นพิเศษเนื่องจากโดยทั่วไปแล้วทองคำจะเติบโตได้ดีในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งไม่ใช่ในช่วงที่ตลาดหุ้นเฟื่องฟู 
 
เหตุผลคือความแตกต่างระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และของประเทศเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร โดยประเทศเหล่านี้ประสบปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจและประสิทธิภาพของตลาดหุ้นที่ต่ำเกินไป 

อุปสงค์ที่อยู่นอกเหนือจากซีกโลกตะวันตก 

สิ่งที่น่าสนใจคือแรงซื้อของราคาทองคำที่ดูเหมือนจะไม่ได้มาจากนักลงทุนชาวตะวันตกเพียงอย่างเดียว แต่มาจากนักลงทุนชาวจีน ซึ่งมาจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงปัญหาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนอยากป้องกันความเสี่ยงโดยการซื้อทองคำ 

ภายในสหรัฐอเมริกา อุปสงค์ของทองคำอาจเชื่อมโยงกับความกังวลในด้านของเงินเฟ้อ รวมถึงการกระจายพอร์ตการลงทุนหลังจากการขึ้นของตลาดหุ้น และความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เป็นผลมาจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ 

อนาคตของราคาทองคำ 

จากสถานการณ์ของเศรษฐกิจระดับมหภาคในปัจจุบันและความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในกิจการทั่วโลก นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงทรงตัวหรืออาจสูงขึ้นต่อไป แม้ว่าปัจจัยต่างๆ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจทำให้เกิดความผันผวน แต่แนวโน้มโดยรวมดูเหมือนว่าจะมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ในขณะที่ธนาคารกลางยังคงกักตุนทองคำสำรองอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อนาคตของทองคำจึงดูสดใส นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังช่วยให้นักลงทุนทุกระดับเข้าถึงทองคำในพอร์ตการลงทุนได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงได้มากขึ้น

ด้วยชื่อเสียงอันยาวนานในฐานะแหล่งสะสมมูลค่าและผลงานในอดีตของทองคำที่สามารถต่อสู้กับความปั่นป่วนของตลาดได้ ทองคำยังคงเป็นส่วนเสริมาสำหรับพอร์ตการลงทุน ดังสุภาษิตที่ว่า “ในยามวิกฤติ ทองคำจะส่องสว่างที่สุด” และมีแนวโน้มว่าเทรนด์นี้จะคงอยู่ต่อไป 


การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง          

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย          

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง      

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย          

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

แชร์ไปที่

คลังความรู้

Bitcoin Halving 2024: สิ่งที่คุณควรรู้ 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Bitcoin Halving ที่ทุกคนจับตามองได้จบลงแล้ว เป็นประเด็นร้อนแรงของนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลกับการคาดการณ์และการเก็งกำไร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน โดยถือเป็นการ Halving ครั้งที่สี่ของ Bitcoin เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ “Halving” ที่จะเกิดขึ้นประมาณทุกๆ 4 ปี เนื่องจากอุปทานของ Bitcoin เกิดการเปลี่ยนแปลง  เมื่อปรากฏการณ์นี้สิ้นสุดลง ตลาดและนักลงทุนจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงความซับซ้อนของ Bitcoin Halving และผลกระทบต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการลดลงของ Bitcoin  Bitcoin Halving คืออะไร?  Bitcoin Halving หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “การลดจำนวนรางวัลครึ่งหนึ่ง” เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในโลกของ Bitcoin โดยเป็นกลไกพื้นฐานในการจัดการภาวะเงินเฟ้อและรักษาความขาดแคลน (scarcity) ปรากฏการณ์นี้เป็นการลดจำนวนรางวัลสกุลเงินดิจิตอลจากการขุดลงครึ่งหนึ่ง กระบวนการนี้ช่วยเพิ่มต้นทุนในการสร้าง bitcoins ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความขาดแคลนนี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าของ Bitcoin ในฐานะที่จัดเก็บมูลค่าในรูปแบบดิจิทัลแบบไม่รวมศูนย์  เหตุการณ์ Bitcoin Halving นี้ตั้งโปรแกรมโดย Satoshi Nakamoto โดยจะเกิดขึ้นทุกๆ […]

2024-4-25 | คลังความรู้

เปิดตัว Truth Social หุ้นจะรักษาโมเมนตัมได้หรือไม่

.  ในวันแรกของการซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ใหม่ DJT หุ้นของ Trump Media & Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยเพิ่มขึ้นถึง 16% การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วประกอบกับราคาก่อนหน้านี้ที่ทำจุดสูงสุดที่ 50% ในช่วงเซสชั่นของวันอังคาร ตอกย้ำถึงความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นต่อการเปิดตัวของแพลตฟอร์ม  การก้าวขึ้นของ DJT เกิดขึ้นภายหลังการควบรวมกิจการกับ Digital World Acquisition Corp. (DWAC) ซึ่งเป็นเครื่องมือเฉพาะกิจที่มีการดำเนินงานในตลาดมาตั้งแต่ปี 2564 การอนุมัติการควบรวมกิจการครั้งนี้โดยผู้ถือหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ปูทางให้ Truth Social เข้าสู่อาณาจักรตลาดหลักทรัพย์  Wall Street Journal รายงานว่าราคาปิดที่ 57.99 ดอลลาร์สหรัฐในวันอังคารที่ผ่านมามีการประเมินมูลค่า Truth Social ของ Donald Trump จะมีมูลค่าเกือบเท่ากับของ U.S. Steel มูลค่าหลักทรัพย์ของ DJT เพิ่มขึ้นประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความกระตือรือร้นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข่าวลือนี้ […]

2024-4-5 | คลังความรู้

วิเคราะห์ที่มาและผลกระทบ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 17 ปี

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่งส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในนโยบายการเงิน การตัดสินใจครั้งนี้มีผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตลาดหุ้น Nikkei ของญี่ปุ่น และมูลค่าของเงินเยน  ตามที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น คาซูโอะ อูเอดะระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แนวโน้มเศรษฐกิจเชิงบวกกำลังเกิดขึ้น พร้อมกับสัญญาณการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและราคา  การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ยุติยุคของอัตราดอกเบี้ยติดลบและนโยบาย Yield Curve Control ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2007 เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% อีกด้วย  บทความนี้จะเจาะลึกความเป็นมาของนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของญี่ปุ่น รวมถึงวิเคราะห์แนวโน้มที่ผิดปกติในตลาดหุ้นและตลาดสกุลเงินของญี่ปุ่นหลังจากที่ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยติดลบ และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นไปได้หลังจากนี้  ทำความเข้าใจนโยบายการเงิน: จากอัตราดอกเบี้ยติดลบไปเป็นบวก  การตัดสินใจของญี่ปุ่นในการดำเนินการและยุติอัตราดอกเบี้ยติดลบเกิดจากความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อมานาน โดยมีลักษณะการเติบโตที่ซบเซา การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และความกดดันจากภาวะเงินฝืด  เพื่อกระตุ้นการเติบโต ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในปี 2016 โดยลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงเหลือ -0.1%    อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคมของปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 10 จุด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 0-0.1% และยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ ธนาคารได้ละทิ้งนโยบาย Yield Curve Control (YCC) ซึ่งมุ่งหวังให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 0% และลดการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง […]

2024-3-29 | คลังความรู้