นักบริหารเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.08 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.11 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย เนื่องจากเมื่อคืนนี้ดอลลาร์อ่อนค่าตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ย่อลง ในภาพรวมยังคงไร้ปัจจัยใหม่ ด้านสกุลเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.90 – 36.20 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
อ้างอิง อินโฟเควสท์
หุ้นไทยวันนี้ (23 พ.ย. 65) ปิดตลาดภาคเช้า +8.15 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,623 จุด
การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 พ.ย. 65) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,623.48 จุด ปรับขึ้น +8.15 จุด หรือคิดเป็น +0.50% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 30,172 ล้านบาท เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,617.56-1,624.99 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ PTTEP PTT และ AOT
ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +6.92 จุด หรือ +0.70% อยู่ที่ 988.89 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขายรวม 16,671 ล้านบาท เทียบเป็นราว 55.25% ของ SET ทั้งหมด
อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ
แบงก์ชาตินิวซีแลนด์ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด หลังเงินเฟ้อพุ่งแรง
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 14 ปี ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงมาก
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 9 นับตั้งแต่ได้เริ่มใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในเดือนต.ค. 2564
อ้างอิง อินโฟเควสท์
น้ำมันปรับตัวขึ้น เนื่องจากสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง
Investing.com– ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีกในวันพุธ หลังจากข้อมูลระบุว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ หดตัวลงอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่ามาตรการควบคุมโควิด19 ใหม่ในเมืองใหญ่ของจีนจะส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นมากแล้วก็ตาม
ข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน API แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะลดลงเช่นเดียวกันใน ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล ที่จะเผยแพร่ภายในวันนี้ นอกจากนี้จุดสนใจจะอยู่ที่จำนวนที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เบิกจ่ายน้ำมันจากคลังปิโตรเลียมสำรองเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี
อ้างอิง Investing.com
OECD คาดเศรษฐกิจโลกปีหน้าชะลอตัว โตแค่ 2.2% หนุนแบงก์ชาติสกัดเงินเฟ้อ
OECD คาดการณ์ว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลกในปี 2566 จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.2% จากระดับ 3.1% ในปี 2565 เนื่องจากผลกระทบของการที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลกในปี 2566 จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.2% จากระดับ 3.1% ในปี 2565 เนื่องจากผลกระทบของการที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยระบุว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นนั้น มาจากผลกระทบของการที่รัสเซียทำสงครามกับยูเครน
อ้างอิง กรุงเทพธุรกิจ