Search Mark
หน้าแรก / ข่าวสารการลงทุน

แบงก์ชาติญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้


คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และยังคงกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นเอาในช่วง -0.5% ถึง +0.5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา

การคงนโยบายการเงินดังกล่าวสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่า BOJ จะปรับนโยบายการเงินอีกครั้ง หลังจากที่สร้างความประหลาดใจด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ -0.25% ถึง +0.25% นอกจากนี้ BOJ ยังตัดสินใจคงนโยบายการเงินในวันนี้แม้คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปีงบประมาณ 2565 จะสูงถึง 3% ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% ของ BOJ ก็ตาม

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เงินบาทเปิด 33.08 จับตาผลประชุม BOJ วันนี้ ให้กรอบ 32.90-33.20

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์

วันนี้ตลาดรอปัจจัยสำคัญคือ ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นหลัก ซึ่งตลาดคาดว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนอีกรอบในการประชุมครั้งนี้ หรืออาจจะถึงขั้นยกเลิกนโยบายนี้ไปเลย ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีความ ชัดเจนนี้ ทำให้เงินเยนมีความผันผวน

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ราคาน้ำมันขยับเล็กน้อย ตลาดชั่งใจต่อการกลับมาของจีน 

Investing.com — ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในกรอบแคบในวันพุธ เนื่องจากตลาดยังคงชั่งน้ำหนักกับสัญญาณที่เพิ่มขึ้นของการฟื้นตัวของอุปสงค์ในจีนและความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2023 โดยรายงานประจำเดือนของ IEA กำลังอยู่ในความสนใจ

องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) กล่าวในรายงานประจำเดือนเมื่อวันอังคารว่าการเปิดพรมแดนอีกครั้งของจีนจะกระตุ้นให้อุปสงค์น้ำมันดิบดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ แต่กลุ่มพันธมิตรยังคงคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกไว้เท่าเดิมว่าจะเพิ่มขึ้น 2.22 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อ้างอิง Investing.com

ทองคำปรับตัวลงรอสัญญาณจากเฟด รายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Investing.com — ดูเหมือนว่าราคาทองคำที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วงปีใหม่จะเริ่มลดลง โดยทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่บริเวณที่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในวันพุธ เนื่องจากตลาดต่างย่อตัวลงก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

ในขณะที่ความคาดหวังว่าเฟดจะเข้มงวดน้อยลงและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นได้กระตุ้นให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เทรดเดอร์กำลังรอสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อยืนยันแนวโน้มนี้ มีกำหนดสำหรับการขึ้นกล่าวคำปราศรัยจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนในสัปดาห์นี้ โดยคำปราศรัยที่น่าจับตามองที่สุดคือจาก ลาเอล เบรนาร์ดรองประธานเฟด ที่จะกล่าวในวันพฤหัสบดี

อ้างอิง Investing.com

หุ้นไทยวันนี้ (18 ม.ค. 66) ปิดตลาดภาคเช้า +3.06 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,684 จุด

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 ม.ค. 66) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,684.10 จุด ปรับขึ้น +3.06 จุด หรือคิดเป็น +0.18% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 33,410 ล้านบาท อยู่ในกรอบ 1,679.15-1,689.41 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ AOT DELTA และ KBANK

ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +2.30 จุด คิดเป็น +0.23% อยู่ที่ 1,006.64 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 19,530 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 58.45% ของการซื้อ-ขายทั้งหมด

อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ

แชร์ไปที่

ข่าวสารการลงทุน

รายงานปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ประจำเดือนตุลาคม 2567 

รายงานปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ประจำเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมการซื้อขายที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่มั่นคงบนแพลตฟอร์มของเรา  ภาพรวมปริมาณการซื้อขายเดือนตุลาคม2567    ตามรายงานระบุว่า ปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของ Doo Prime ในเดือนตุลาคม 2567 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 176.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 37.44% จากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวัน (ADV) ในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 5.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 33.01% จากเดือนกันยายน  จากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง และการไม่ชัดเจนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การลงทุนในทองคำพุ่งสูงขึ้นทำลายสถิติในเดือนตุลาคม  นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรปได้ดำเนินรอยตามธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนตุลาคม ส่งผลให้ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้น ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนและผลักดันกิจกรรมการซื้อขายให้ถึงระดับสูงสุดใหม่  เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวัน (ADV) ของ Doo Prime ได้เพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายทั้งหมดเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ปริมาณการซื้อขายรวมของ Doo Prime อยู่ที่ 1,160.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

2024-11-13 | ข่าวสารการลงทุน

Trick or Trade: 3 หุ้นค้าปลีกที่น่าจับตามองในวันฮาโลวีนนี้! 

Trick or Trade วันฮาโลวีนไม่ใช่แค่การสวมชุดแฟนซี รับลูกกวาด และการตกแต่งที่น่าขนลุกเพียงเท่านั้น แต่มันยังเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ในการกอบโกยผลประโยชน์จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในตลาดค้าปลีก  เมื่อวันฮาโลวีนใกล้เข้ามา บริษัทบางแห่งมีความสามารถในการดึงดูดผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งสร้างโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุนในภาคค้าปลีก  บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก 3 หุ้นค้าปลีกที่น่าจับตามอง และจะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายในช่วงฮาโลวีน พร้อมสำรวจโอกาสในการซื้อขายที่น่าสนใจสำหรับแต่ละตัว  การคาดการณ์การใช้จ่ายในวันฮาโลวีน 2567  ตามข้อมูลจากสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (National Retail Federation) การใช้จ่ายในวันฮาโลวีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า ปีนี้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ คาดว่าจะใช้จ่ายอย่างมหาศาลอีกครั้ง โดยมีการคาดการณ์เกินกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากผู้คนลงทุนในชุดแฟนซี ลูกกวาด การตกแต่ง และอุปกรณ์จัดงานปาร์ตี้ ผู้ค้าปลีกที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล สินค้าจัดงานปาร์ตี้ และของตกแต่งในราคาย่อมเยาว์จะได้รับประโยชน์สูงสุด โดยปีนี้มีความสนใจในประสบการณ์วันฮาโลวีนมากยิ่งขึ้น  ดังนั้น มาดูสามหุ้นค้าปลีกที่มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีในช่วงวันฮาโลวีนนี้กันเถอะ  หุ้นค้าปลีก 3 ตัวที่น่าจับตามองในวันฮัลโลวีนนี้  1. Amazon, Inc. (NASDAQ: AMZN)  ทำไมเทรดเดอร์ควรจับตามอง  Amazon กลายเป็นแหล่งที่ผู้บริโภคเลือกใช้สำหรับความต้องการในวันฮาโลวีน เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์หลากหลายและการจัดส่งที่รวดเร็ว ตั้งแต่ชุดแฟนซีไปจนถึงการสั่งซื้อขนมหวานจำนวนมาก โปรแกรม Prime ของ Amazon และตัวเลือกการจัดส่งที่รวดเร็วตอบสนองความต้องการในช่วงปลายฤดูกาล […]

2024-10-31 | ข่าวสารการลงทุน

ปรับพอร์ตการลงทุนอย่างไร เพื่อตั้งรับการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2024

ความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองและตลาดหุ้นเป็นประเด็นที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี นักลงทุน นักวิเคราะห์ และเทรดเดอร์มักคาดเดาว่าผลการเลือกตั้งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างไร เพื่อค้นหาความเป็นไปได้ เราสามารถวิเคราะห์ผลตอบแทนของตลาดหุ้นในช่วงปีการเลือกตั้งล่าสุด และสำรวจว่าปีเหล่านี้เป็นไปตามแนวโน้มที่่เคยเป็นมาหรือไม่ การทำความเข้าใจรูปแบบเหล่านี้สามารถช่วยให้นักลงทุนวางตำแหน่งพอร์ตการลงทุนของตนด้วยกลยุทธ์สำหรับการเลือกตั้งสหรัฐปี 2024  บริบทและพฤติกรรมของตลาด  แนวคิด “presidential cycle” แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามรูปแบบโดยอิงตามวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสี่ปี โดยปกติแล้ว ช่วงครึ่งหลังของวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี มักจะถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับตลาด ทฤษฎีนี้มีพื้นฐานมาจากความเชื่อที่ว่าประธานาธิบดีอยากที่จะเลือกตั้งใหม่หรือมีเป้าหมายที่จะเสริมความแข็งแกร่งของอำนาจพรรค ด้วยการใช้นโยบายเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ  เรามาเจาะลึกถึงข้อมูลเฉพาะของการเลือกตั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อดูว่าสอดคล้องกับวัฏจักรนี้หรือไม่  การเลือกตั้งปี 2016: ทรัมป์กับคลินตัน  การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐประจำปี 2016 ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต จากการเลือกตั้งที่มีความไม่แน่นอนของผู้ชนะทำให้เกิดความผันผวนในตลาด ในคืนวันเลือกตั้ง เราเห็นได้ชัดว่าทรัมป์จะชนะและตลาดฟิวเจอร์สเริ่มดิ่งลง อย่างไรก็ตาม S&P 500 ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันรุ่งขึ้นและพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 40% จนถึงปี 2018  ผลการดำเนินงานของตลาด การเลือกตั้งปี 2020: ไบเดนกับทรัมป์  การเลือกตั้งปี 2020 จัดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การคาดการณ์จากตลาดมีความซับซ้อนมากขึ้น ชัยชนะของ โจ ไบเดน […]

2024-6-20 | ข่าวสารการลงทุน