
ตลาดคริปโตเพิ่งเตือนทุกคนอีกครั้งว่า “ความผันผวน” ไม่เคยจากไปไหนจริงๆ มูลค่ากว่า 19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหายไปภายในไม่กี่วัน เมื่อบิตคอยน์ อีเธอเรียม และอัลท์คอยน์ร่วงลงพร้อมกัน เกิดเป็น “การเทขายครั้งใหญ่” ที่ทำให้นักเทรดตื่นตระหนกและความเชื่อมั่นในตลาดดิ่งลง
แต่ที่น่าสนใจคือ ท่ามกลางความตื่นกลัวทั้งหมดนี้ มีสัญญาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่านี่อาจไม่ใช่จุดจบของตลาด แต่อาจเป็นการปูทางไปสู่การกลับตัวครั้งใหญ่รอบใหม่
อะไรเป็นชนวนให้ตลาดคริปโตดิ่งหนัก
การเทขายเริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวแบบ “ลดความเสี่ยง” คลาสสิก ผสมกับความกังวลทางเศรษฐกิจมหภาค ข่าวลือเรื่องสภาพคล่องตึงตัว และการปิดสถานะเกินเลเวอเรจอย่างเร่งด่วน
ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐยังคงเผชิญภาวะชัตดาวน์ และตลาดเตรียมรับมือกับการลดดอกเบี้ยจากเฟด นักลงทุนเริ่มเร่งลดความเสี่ยงออกจากพอร์ต เมื่อราคาบิตคอยน์หลุดแนวรับสำคัญ จึงเกิดการขายทำลายพอร์ตตามมาอย่างต่อเนื่อง มูลค่ากว่า 19 พันล้านดอลลาร์ในสถานะเลเวอเรจ ถูกล้างออกภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง
ฝั่งอัลท์คอยน์ได้รับผลกระทบหนักที่สุด หลายเหรียญร่วงกว่า 30–40% ภายในชั่วข้ามคืน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นักลงทุนรายย่อยตื่นตระหนก ข้อมูลบนเชนกลับสะท้อนภาพที่ต่างออกไป กลุ่มวาฬหรือผู้ถือรายใหญ่กำลังทยอย “เก็บเหรียญ” เข้าพอร์ตในราคาที่ลดลง
มาโครพบกับโมเมนตัม: ทำไมสิ่งนี้ถึงสมเหตุสมผล
สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคในตอนนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อน และนั่นแหละคือช่วงเวลาที่คริปโตมักจะแสดงปฏิกิริยารุนแรงเกินจริง
เงินเฟ้อที่ดื้อรั้น ความคาดหวังอัตราดอกเบี้ยที่หลากหลาย และความตึงเครียดด้านสภาพคล่องทั่วโลก ทำให้นักเทรดยังไม่แน่ใจว่าควรวางกลยุทธ์เพื่อการฟื้นตัว หรือเน้นการป้องกันความเสี่ยงดี โดยทั่วไป นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย มักจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดคริปโตฟื้นตัว แต่ตลาดก็มักจะย่อตัวลงก่อนเสมอ ก่อนที่สภาพคล่องใหม่จะเริ่มเข้ามา
การร่วงครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานของคริปโตที่พังทลาย แต่เกิดจาก ความเชื่อมั่นของตลาดที่สั่นคลอน
นี่คือรูปแบบเดิมที่เราเคยเห็นในวัฏจักรก่อนหน้า: การเทขายอย่างฉับพลัน ปฏิกิริยาที่เกินจริง และการทรงตัวในภายหลัง
สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ อาจเป็นเพียงบทเดิมที่ถูกเขียนขึ้นใหม่สำหรับปี 2025
ตรวจเช็กมุมมองตลาด: ความกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้ง
จิตวิทยาของนักลงทุน เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดนี้มากกว่ารูปแบบกราฟใดๆ และข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าความกลัวกำลังกลับมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีอยู่ในระดับสบายๆ ที่ 61 (ความโลภ)
แต่วันนี้ลดลงมาอยู่ที่ 40 (ความกลัว) ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดอย่างรุนแรง หลังการร่วงลงครั้งล่าสุด
อย่างไรก็ตาม ความกลัวไม่ได้เป็นข่าวร้ายเสมอไป เพราะในอดีต ระดับความกลัวที่รุนแรงมักเกิดขึ้นพร้อมกับจุดต่ำสุดของตลาด
หากย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2023 และกลางปี 2024 เราจะเห็นว่าการอ่านค่าความกลัวในระดับใกล้เคียงกัน มักนำไปสู่การฟื้นตัวครั้งใหญ่ของตลาด
หากรูปแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง คลื่นความกลัวรอบใหม่นี้อาจกลายเป็นรากฐานของการฟื้นตัวครั้งต่อไปก็ได้
ตลาดคริปโตล่ม หรือแค่รีเซ็ตครั้งใหม่?
ทุกวัฏจักรของคริปโตย่อมมีช่วง “ชำระล้าง” ของมันเอง
นักลงทุนที่ขาดความมั่นใจจะถูกกลืนออกจากตลาด การเทรดด้วยเลเวอเรจจะถูกเผาผลาญ และตลาดก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
การร่วงครั้งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนช่วงเวลาการปรับฐานเพื่อชำระล้างตลาด
ดัชนีความกลัวและความโลภ พลิกกลับอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์หลายรายเริ่มยอมแพ้ แต่กระแสเงินไหลเข้าของสเตเบิลคอยน์กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่ายังมีเงินทุนรอจังหวะกลับเข้าสู่ตลาด
เมื่ออารมณ์ตลาดพลิกจาก “โลภ” ไปสู่ “กลัว” อย่างรวดเร็วเช่นนี้ มักเป็นสัญญาณว่าฝั่งขาล่างเริ่มอ่อนแรง
และระยะของความตื่นตระหนกอาจผ่านพ้นไปแล้วก็ได้
สัญญาณแรกของการกลับตัวในตลาดคริปโต
การกลับตัวของตลาดไม่ได้เริ่มจากพาดหัวข่าวใหญ่ แต่มักเริ่มจาก “สัญญาณเงียบๆ” ที่เกิดขึ้นก่อนใครจะทันสังเกต
- การสะสมของวาฬ – กระเป๋าขนาดใหญ่เริ่มทยอยซื้อบิตคอยน์และอีเธอเรียมเพิ่มขึ้น แม้ราคาจะยังปรับตัวลง
- ปริมาณการซื้อขายพุ่งในช่วงราคาย่อตัว – ปริมาณการซื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีแรงขาย แสดงถึงการเข้าซื้อของนักลงทุนรายใหญ่
- อัตรา Funding Rate กลับติดลบ – บ่งชี้ถึงมุมมองที่เป็นขาลงมากเกินไป ซึ่งมักจะเกิดขึ้นก่อนการฟื้นตัวของตลาด
- อัลท์คอยน์รักษาระดับแนวรับสำคัญ – เหรียญใหญ่บางเหรียญยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณของการเริ่มสร้างฐานราคา
เมื่อผนวกเข้ากับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและความคาดหวังเรื่องสภาพคล่องที่เริ่มกลับมา เรากำลังเห็นภาพที่คุ้นเคย ความสงบก่อนพายุฟื้นตัวที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
จิตวิทยาที่ซ่อนอยู่ในทุกครั้งที่ตลาดคริปโตล่ม
การล่มของตลาดคริปโตครั้งใหญ่ทุกครั้ง มักดูเหมือนจุดจบ จนกระทั่งมันไม่ใช่เช่นนั้นอีกต่อไป
ในปี 2018 บิตคอยน์ร่วงลงกว่า 80% ก่อนจะดีดกลับขึ้นกว่า 1,200%
ในปี 2020 ราคาดิ่งลงถึง 50% ภายในสองวัน ก่อนจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่ทำผลงานดีที่สุดในรอบทศวรรษ
วัฏจักรในครั้งนี้อาจกำลังเดินตามเส้นทางเดิม ความเจ็บปวดในระยะสั้น แต่เป็นโอกาสในระยะยาว
เมื่อความกลัวพุ่งสูงขึ้น Smart Money ก็เริ่มทยอยเข้าซื้อ นี่คือจังหวะของโลกคริปโต ความตื่นตระหนก ความอดทน และผลกำไร
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการฟื้นตัวอย่างแท้จริง
เพื่อให้การฟื้นตัวรอบใหม่นี้เกิดขึ้นจริง ปัจจัยสำคัญบางอย่างต้องมาพร้อมกัน
- การปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้รับการยืนยัน เพิ่มสภาพคล่องและแรงจูงใจในการรับความเสี่ยง
- อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว สร้างความมั่นใจให้กับกองทุนมหภาคและสถาบันการเงิน
- ความชัดเจนด้านกฎระเบียบเพิ่มขึ้น ลดความไม่แน่นอนและปลดล็อกเงินทุนที่รอจังหวะอยู่ข้างสนาม
- เสถียรภาพของบิตคอยน์ การรักษาระดับเหนือโซนสำคัญอย่าง 100,000 ดอลลาร์ จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นได้อย่างรวดเร็ว

หากเงื่อนไขเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกัน การกลับตัวของตลาดคริปโตอาจมาถึงเร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้ และเมื่อโมเมนตัมเริ่มพลิก มันแทบไม่เคยเคลื่อนไหวช้าเลย
ความกลัวเป็นเพียงชั่วคราว แต่วัฏจักรไม่ได้เป็นเช่นนั้น
การร่วงลงในครั้งนี้สร้างความเจ็บปวดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คริปโตเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วทุกครั้ง และในทุกการร่วงลงใหญ่ ก็มักจะตามมาด้วยการเริ่มต้นของรอบขาขึ้นครั้งใหม่
ตอนนี้ความกลัวเพิ่มขึ้น แต่โอกาสก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ตามประวัติที่ผ่านมา เมื่อดัชนีความกลัวเปลี่ยนเป็นสีส้ม นั่นมักเป็นช่วงเวลาที่ Smart Money เริ่มเข้าจัดพอร์ตฝั่งซื้อ
ดังนั้น การฟื้นตัวครั้งใหญ่รอบต่อไปอาจเริ่มต้นขึ้นแล้วก็ได้
ไม่มีใครบอกได้แน่ชัด แต่เมื่อความกลัวถึงจุดสูงสุด พื้นฐานของการฟื้นตัวครั้งใหม่ก็มักจะเริ่มก่อตัวอยู่ใต้ผิวน้ำแล้ว
การเปิดเผยความเสี่ยง
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต D Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ D Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง