DeepSeek AI: ผู้มาใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการ 

2025-02-14 | AI , DeepSeek

DeepSeek AI: ผู้มาใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการ 
DeepSeek AI: ผู้มาใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการ 

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นหนึ่งในสาขาที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ในขณะที่บริษัทอย่าง OpenAI (ChatGPT) และ Google DeepMind (Gemini) ครองตลาด AI ในฝั่งตะวันตก DeepSeek AI จากจีนก็กำลังเริ่มต้นสร้างคลื่นลูกใหม่ โดยมีศักยภาพที่จะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามอง 

ด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีต้นทุนต่ำ รวมถึงกลยุทธ์การขยายตัวอย่างรวดเร็ว DeepSeek ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจจากวงการเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักลงทุนและรัฐบาลอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของตลาด AI ทั่วโลก  

DeepSeek AI เป็นบริษัท AI ของจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2566 โดย เหลียง เหวินเฟิง ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่มีประสบการณ์หลายปีจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 

บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เทียบเท่ากับ GPT-4 แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ 

เกณฑ์การเปรียบเทียบDeepSeek AIChatGPT-4 (OpenAI)Gemini 2.0 (Google)
ราคา ใช้งานได้ฟรี; การเข้าถึง API ที่มีราคาไม่แพง ไม่มีค่าใช้จ่าย; บริการ ChatGPT Plus ในราคา $20/เดือน ใช้งานได้ฟรี; Gemini Advanced มีค่าใช้จ่าย $19.99/เดือน (ฟรีสองเดือนแรก) 
ประสิทธิภาพการประมวลผล เหมาะกับงานด้านคณิตศาสตร์และการเขียนโปรแกรม แม้ว่าจะมีความล่าช้าในการตอบสนอง การประมวลผลเร็วสำหรับงานที่มีความซับซ้อน การรวมเข้ากับ Google Search อย่างเต็มที่ 
DeepSeek AI: ผู้มาใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการ 
ผลกระทบของ DeepSeek AI ต่อตลาด

การปรากฏตัวของโมเดล AI ที่มีต้นทุนต่ำจากสตาร์ทอัพจีนอย่าง DeepSeek ได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับตลาดการเงินโลก ด้วยต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำกว่าโมเดลที่มีอยู่อย่างมาก DeepSeek นำเสนอเทคโนโลยีที่อาจเป็นภัยคุกคามอย่างมากต่อบริษัทเทคโนโลยีฝั่งตะวันตกที่ได้ลงทุนหลายพันล้านเข้าไปใน AI ตั้งแต่การผลิตชิปไปจนถึงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ 

ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ได้ถูกขายออกอย่างมากในวันที่ 27 มกราคม โดยหุ้นของ Nvidia ดิ่งลงเกือบ 17% นำไปสู่การลดลงของมูลค่าตลาดถึง $600 พันล้าน นับเป็นการลดลงของมูลค่าตลาดมากที่สุดในวันเดียวของหุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ตลอดประวัติการณ์ 

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น จากกราฟด้านล่างแสดงผลการดำเนินงานของ “Magnificent 7” เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นอื่นๆ ใน S&P 500 โดยเน้นถึงแรงกดดันอย่างมหาศาลที่มีต่อภาคเทคโนโลยี 

DeepSeek AI: ผู้มาใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการ 
7 กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่กับตลาด

DeepSeek AI กำลังกลายเป็นหนึ่งในแรงกระทบสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรม AI อย่างรวดเร็ว แต่จะมีศักยภาพพอที่จะกลายเป็น “TikTok ของ AI” ตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้หรือไม่ 

ในขณะที่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศและความกังวลด้านการค้าและความปลอดภัยของข้อมูลกำลังเพิ่มสูงขึ้น การปรากฏตัวของโมเดล AI จากจีนที่กำลังทำให้ตลาดสั่นคลอนได้เรียกความสนใจจากหน่วยงานกำกับดูแล เจ้าหน้าที่ของบางประเทศจึงได้เริ่มตอบโต้ด้วยมาตรการจำกัดหรือแม้กระทั่งการแบนเพื่อควบคุมความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ DeepSeek 

  • เกาหลีใต้: เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ได้ประกาศการปิดกั้นการใช้งาน DeepSeek บนคอมพิวเตอร์ของกองทัพที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล 
  • สหรัฐอเมริกา: สำนักงานบริหารหลักของสภาผู้แทนราษฎร์ (CAO) ได้สั่งห้ามการติดตั้งและการใช้งาน DeepSeek บนอุปกรณ์ของรัฐบาล เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากมัลแวร์และความปลอดภัยด้านข้อมูล 
  • อิตาลี: วันที่ 28 มกราคม 2568 รัฐบาลอิตาลีได้ถอด DeepSeek ออกจาก App Store และ Google Play พร้อมกับกล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามของการรั่วไหลของข้อมูลที่อาจกระทบต่อประชาชนนับล้าน 

ในการตอบสนองต่อการจำกัดเหล่านี้ ประเทศจีนได้แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงต่อการแบนดังกล่าว ยืนยันว่าไม่มีการบังคับให้ธุรกิจหรือบุคคลใดต้องรวบรวมหรือเก็บรักษาข้อมูลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 

การพัฒนาดังกล่าวนี้เป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับ DeepSeek ในขณะที่บริษัทนี้กำลังพยายามขยายขอบเขตและดำเนินการในสภาพแวดล้อมตลาดระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังเน้นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในระดับโลก 

“DeepSeek AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม AI อย่างไรก็ตามนักลงทุนจำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองและความก้าวหน้าในการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน” 

แดเนียล เกลลี, ผู้นำทีมกลยุทธ์ที่ Morgan Stanley 

คำพูดนี้ทำหน้าที่เป็นข้อสรุปที่เข้าท่าสำหรับการวิเคราะห์ของเรา จากมุมมองที่เป็นกลาง การเข้ามาของตัวแปรใหม่ใน AI นั้นสร้างผลทั้งในแง่บวกและลบต่อตลาดและการแข่งขันในอุตสาหกรรม 

  • ในแง่บวก ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในด้านประสิทธิภาพ, การกำหนดราคา API และการเข้าถึงได้ง่ายขึ้น 
  •  ในทางตรงกันข้าม, มันกลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นในการแยกแยะระหว่างการโฆษณาชวนเชื่อของ AI กับโซลูชั่นที่เป็นไปได้และยั่งยืนจริงๆ นอกจากนี้ ความเสี่ยงเกี่ยวกับความปลอดภัยข้อมูลและความไม่แน่นอนในด้านการกำกับดูแลยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างมาก 

ในขณะที่ DeepSeek ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวงการ AI หรือจะต้องเผชิญกับอุปสรรคทางกฎหมายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ นักลงทุนต้องคอยจับตาดูต่อไป 


การเปิดเผยความเสี่ยง 
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น    
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ   
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต D Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว  
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ D Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง 

วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

article-thumbnail

2025-08-28 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ดอกเบี้ยขาลง : ทองคำคือโอกาส?

ดอกเบี้ยขาลง กำลังมา ดูว่าทำไมทองคำอาจเตรียมเบรกทะลุระดับ $3,500 และทำไมนักเทรดจับตาเป้าหมาย $4,000 ในรอบนี้ 

article-thumbnail

2025-08-21 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

หลังประชุม ทรัมป์–ปูติน จับตาสินค้าโภคภัณฑ์ตัวนี้

ข่าวพาดหัวมาแล้วก็ผ่านไป ตลาดไม่ไหวติง แต่คุณอย่าเพิ่งตายใจ ใต้ผิวน้ำอันสงบนั้น มีบางสิ่งสำคัญเพิ่งเกิดขึ้น: ทรัมป์กับปูตินนั่งคุยกันแบบตัวต่อตัวที่อลาสกา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา และเมื่อสองมหาอำนาจด้านภูมิรัฐศาสตร์เปิดปากพูดคุยกัน หลังความเงียบอันเย็นเยียบหลายปี ผลกระทบที่ตามมาอาจไม่ฉับไวเหมือนการขึ้นดอกเบี้ย แต่แรงกระเพื่อมจะรุนแรงยิ่งกว่าเมื่อมันเริ่มเคลื่อนไหว  และเมื่อมันระเบิดขึ้นมา ก็จะไม่มีคำว่าเบาเลย  นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่มันอาจเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่จะพลิกโฉมตลาดพลังงาน พันธมิตรระหว่างประเทศ และแม้แต่การคาดการณ์เงินเฟ้อที่กำลังมุ่งหน้าสู่ปี 2026.  การประชุมที่ (เงียบๆ) แต่เขยื้อนตลาดได้  ต่างจากซัมมิตทั่วไปที่เต็มไปด้วยข่าวพาดหัวและวาทะเร้าอารมณ์ การพบกันของทรัมป์–ปูตินครั้งนี้กลับเรียบง่ายอย่างน่าประหลาด  ไม่มีข้อตกลงสันติภาพ ไม่มีการเจรจาทะลุทางตัน ไม่มีการจับมือบนเวทีใหญ่พร้อมแสงสีเสียงอลังการ  แต่นั่นแหละ คือเหตุผลที่มันสำคัญ  เพราะนี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ดูเหมือนว่าวอชิงตันกับมอสโกจะกลับมาคุยกันอีกครั้งในเบื้องหลัง และในโลกของสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก การสื่อสารคือสินทรัพย์ โดยเฉพาะเมื่อความขัดแย้งในยูเครนยังไม่มีวี่แววจะยุติ  นักเทรดเริ่มตั้งคำถามกันแล้วว่า: หรือว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายความตึงเครียด?  ทำไมสินค้าโภคภัณฑ์นี้ควรอยู่ในเรดาร์ของคุณ  อย่าอ้อมค้อมเลย: มันคือน้ำมัน  แม้จะไม่มีการเคลื่อนไหวด้านราคาทันที แต่นักเทรดรู้ดีว่าเมื่อใดที่มีสัญญาณแห่งสันติภาพ แม้เพียงแค่จุดเริ่มต้น ก็อาจทำให้เส้นทางการขนส่งที่ถูกปิดกลับมาเปิดได้ มาตรการคว่ำบาตรอาจผ่อนคลายลง และค่าความเสี่ยงที่ผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย–ยูเครนอาจเริ่มคลี่คลาย ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าตลาดพลังงานทั้งหมด  ตำแหน่งถือครองแบบเก็งกำไรฝั่ง Long ในน้ำมันดิบ WTI ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 […]

article-thumbnail

2025-08-15 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ค่าเงินดอลลาร์จะยังคงร่วงต่อในปี 2025 หรือไม่? เจาะลึกแนวโน้มสำคัญ 

การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ทำให้หลายฝ่ายประหลาดใจ ดัชนีดอลลาร์ (DXY) บันทึกการร่วงลงในช่วงครึ่งปีแรกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 โดยดิ่งลงอย่างรุนแรงก่อนจะดีดตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคม แม้การฟื้นตัวนั้นจะช่วยชดเชยบางส่วนที่สูญเสียไป แต่นักวิจัยจาก Morgan Stanley คาดว่าการอ่อนค่ายังไม่จบ และดอลลาร์อาจร่วงลงอีก 10% ภายในสิ้นปี 2026  แล้วอะไรคือเบื้องหลังการร่วงของดอลลาร์ในปี 2025? และมีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะกลับมาฟื้นตัว? มาค้นหาคำตอบกัน  สรุปภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ – ครึ่งปีแรกของปี 2025  ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025 ดัชนี DXY ร่วงลงประมาณ 10.8% ซึ่งถือเป็นผลงานครึ่งปีแรกที่ย่ำแย่ที่สุด นับตั้งแต่การร่วงลง 14.8% เมื่อต้นปี 1973  นักวิเคราะห์ชี้ถึง 2 แรงกดดันสำคัญ:  ทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลกดดันอย่างหนักต่อค่าเงินดอลลาร์  ทำไมดอลลาร์อ่อนค่าลงในปี 2025  1. ภาษีและความไม่แน่นอนด้านนโยบาย บั่นทอนแรงหนุนของดอลลาร์  ท่าทีของทรัมป์ที่เปลี่ยนแปลงไปในเรื่องภาษีและการปฏิรูปภาษี สร้างแรงกดดันระยะยาวต่อค่าเงินดอลลาร์ มาตรการกีดกันทางการค้าไม่เพียงแต่สร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางการค้าทั่วโลก แต่ยังทำลายความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกสหรัฐฯ  ความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายยังสร้างความกังวลให้นักลงทุน ลดความต้องการสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์ และยิ่งตอกย้ำแนวโน้มขาลงของค่าเงิน  2. […]

วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

ดอกเบี้ยขาลง : ทองคำคือโอกาส?

2025-08-28 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก