หุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัม 3 อันดับแรก ที่น่าจับตามองในปี 2568 

2025-01-03

หุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัม 3 อันดับแรก ที่น่าจับตามองในปี 2568 

หุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมกำลังเป็นที่น่าจับตามอง เพราะถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ ด้วยศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยา ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้หุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมถือเป็นตัวแปรสำคัญในตลาดหุ้น ในขณะที่เข้าปี 2568 จะเห็นได้ชัดว่ามีบริษัทหลายแห่งให้การสนับสนุนในเทคโนโลยีนี้ จึงเป็นสิ่งที่สร้างความสนใจให้แก่นักลงทุนเป็นอย่างมาก 

ในบทความนี้ เราจะพูดถึง หุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัม 3 อันดับแรก ที่น่าจับตามองในปี 2568 และปีต่อๆไป ในอนาคต 

IBM ถือเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัม ทำให้หนึ่งในหุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นที่น่าจับตามองในปี 2568 ยิ่งไปกว่านั้น ทีมควอนตัมของบริษัท (IBM Quantum) ยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ควอนตัมที่มีศักยภาพในการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ 

ในปี 2568 IBM มีโปรเจ็คในการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ควอนตัมที่มีชื่อว่า Condor ซึ่งมีการประมวลผลมากกว่า 1,000 คิวบิต ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมเข้าใกล้ถึงจุดที่เรียกว่า “การคำนวณความเร็วแสง (quantum advantage)” สิ่งนี้ทำให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีประสิทธิภาพสูงกว่าคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ด้วยแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ให้บริการผ่านระบบคลาวด์ และด้าน IBM ได้ให้นักพัฒนาและนักธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงทรัพยากรด้านการคำนวณควอนตัมผ่านเฟรมเวิร์กอย่าง Qiskit ซึ่งเป็น “open-source” และได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก 

สำหรับนักลงทุน ด้วยการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมของ IBM และความร่วมมือกับบริษัทในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเช่น การเงิน สุขภาพ และพลังงาน ทำให้ IBM ถือเป็นหนึ่งในผู้นำในด้านนี้ และด้วยความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ควอนตัม ทำให้หุ้นของ IBM มีโอกาสในการเติบโตที่สูงมาก 

IBM: พร้อมที่จะทำลายสถิติสูงสุดใหม่
IBM: พร้อมที่จะทำลายสถิติสูงสุดใหม่

Google ถือเป็นอีกหนึ่งผู้นำในด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัมและเป็นหนึ่งในหุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่น่าจับตามองมากที่สุดในปี 2568 ในส่วนของทีมควอนตัมของ Google อย่าง Google Quantum AI กำลังพัฒนาโปรเซสเซอร์ควอนตัมที่สามารถแก้ไขปัญหาในโลกจริงได้ด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน 

ในปี 2562 ด้วยโปรเซสเซอร์ควอนตัม Sycamore ได้ประสบความสำเร็จในการพิสูจน์ “การคำนวณขั้นสูง (quantum supremacy)” และด้วยนวัตกรรมล่าสุดของบริษัท โปรเซสเซอร์ควอนตัม Willow ซึ่งคาดว่าจะต่อยอดและขยายขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปอีกขึ้น ผ่านการทดสอบ โปรเซสเซอร์ Willow สามารถแก้ไขปัญหาการคำนวณที่ซับซ้อนได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมต้องใช้เวลาหลายพันปีในการทำงานให้เสร็จสิ้น 

ในขณะที่การคำนวณบนคลาวด์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การผนวกรวมคอมพิวเตอร์ควอนตัมเข้ากับ Google Cloud ของ Google ทำให้มีข้อได้เปรียบในหลายๆด้าน การรวมกันระหว่างคอมพิวเตอร์ควอนตัมและบริการคลาวด์อาจเปิดโอกาสใหม่ๆในสาขาต่างๆเช่น วิทยาการวัสดุ การค้นพบยาใหม่ รวมไปถึงการเติบโตของเทคโนโลยี ในส่วนนักลงทุนที่หวังใช้ประโยชน์จากการขยายตัวของคอมพิวเตอร์ควอนตัม ควรจับตาดู Alphabet อย่างใกล้ชิดเนื่องจากบริษัทยังคงผลักดันขีดความสามารถในสาขานี้อย่างต่อเนื่อง 

GOOGL: การพุ่งขึ้นของควอนตัมจะสร้างสถิติใหม่หรือไม่
GOOGL: การพุ่งขึ้นของควอนตัมจะสร้างสถิติใหม่หรือไม่

Microsoft กำลังพยายามทำให้ตนเองเป็นผู้นำในวงการคอมพิวเตอร์ควอนตัมผ่านแพลตฟอร์ม Azure Quantum ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีควอนตัมเข้ากับบริการคลาวด์ โดยการทำงานร่วมกับผู้จัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์อย่าง Honeywell IonQ และฝ่ายวิจัยควอนตัมของตัวเอง Microsoft กำลังสร้างสิ่งที่เอื้อต่อการพัฒนาของคอมพิวเตอร์ควอนตัม 

หนึ่งในนวัตกรรมที่มีแนวโน้มสูงสุดของ Microsoft คือการวิจัยในเรื่องคิวบิตแบบโทโพโลจิคัล ซึ่งถือเป็นคิวบิตที่มีความเสถียรมากกว่าและมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดน้อยกว่าคิวบิตแบบดั้งเดิมในทางทฤษฎี หาก Microsoft สามารถผลิตคิวบิตแบบโทโพโลจิคัลออกสู่ตลาดได้สำเร็จ จะทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบอย่างมากในการแข่งขันด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัม โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่ 

ด้วยอิทธิพลของ Microsoft ผ่านการใช้การประมวลผลบนคราวด์ รวมกับความก้าวหน้าในเทคโนโลยีควอนตัม ทำให้ Microsoft เป็นหนึ่งในหุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่น่าติดตาม ในขณะที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมได้ถูกผนวกรวมเข้ากับอุตสาหกรรมหลัก อาจทำให้แพลตฟอร์ม Azure Quantum ของ Microsoft มีความสำคัญในการกำหนดทิศทางของเทคโนโลยีควอนตัมในอนาคต ซึ่งสามารถผลักดันหุ้น MSFT ให้พุ่งขึ้นสูงได้อย่างต่อเนื่อง 

MSFT: แนวโน้มของคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
MSFT: แนวโน้มของคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไม่สามาถปฏิเสธได้เลยว่าหุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก ซึ่งล่าสุดมูลค่าการซื้อขายของตัวเลือกซื้อ (call options) สำหรับหุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้พุ่งสูงขึ้นมากถึง 2,500% เหนือค่าเฉลี่ย 

การพุ่งขึ้นนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพในเทคโนโลยีควอนตัม ปริมาณตัวเลือกซื้อในบริษัทต่างๆ เช่น IonQ ($IONQ) Rigetti ($RGTI) Quantum Computing Inc. ($QBTS) และ Quantum Computing Technologies Inc. ($QUBT) ได้เพิ่มขึ้นถึงสิบเท่าในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเมื่อเทียบกับปริมาณเฉลี่ย 

เพื่ออธิบายให้เห็นภาพ เมื่อพิจารณาจากสถิติของ Nvidia’s ($NVDA)  ในเดือนมีนาคม ที่มีปริมาณตัวเลือกสูงสุดเพิ่มขึ้นเพียง 435% เหนือค่าเฉลี่ย  ซึ่งในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งกว่า นั่นหมายความว่านักลงทุนควรจับตามองอย่างใกล้ชิด 

กล่าวโดยสรุป กองทุน ETF สำหรับการคำนวณคอมพิวเตอร์ควอนตัม ($QTUM) ได้พุ่งขึ้นถึง 23% ในเดินที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 50% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน การพุ่งขึ้นของปริมาณการซื้อขายและภาพรวมหุ้นบ่งบอกถึงความสนใจในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนปี 2568 

ความเชื่อใน AI ทำให้แนวโน้มมุ่งสู่หุ้นควอนตัม
ความเชื่อใน AI ทำให้แนวโน้มมุ่งสู่หุ้นควอนตัม

คอมพิวเตอร์ควอนตัมถึงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าอย่างมากในทศวรรษนี้ และเมื่อเข้าใกล้ปี 2568 ทำให้เห็นได้ชัดว่า หลายๆบริษัทพร้อมที่จะกอบโกยจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีควอนตัม ทำให้บริษัทที่มีหุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัม เช่น IBM Google และ Microsoft เป็นที่ควรจับตามองในปี 2568 และแต่ละบริษัทได้นำเสนอนวัตกรรมที่แตกต่างกันและข้อได้เปรียบทางกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมนี้ 

แม้ว่าการลงทุนในหุ้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะมีความเสี่ยงสูง แต่ศักยภาพในการเติบโตระยะยาวนั้นมีมากตามไปด้วย ด้วยการที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีแนวโน้มที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และสุขภาพ บริษัทชั้นนำในด้านต่างๆนี้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เห็นได้ชัดเมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น 

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการหาโอกาสจากเทรนด์คอมพิวเตอร์ควอนตัม การทำความเข้าใจกับการพัฒนาในอุตสาหกรรมและการตัดสินใจลงทุนโดยมุ่งมั่นที่ศักยภาพระยะยาวมากกว่าเพียงแค่กระแสชั่วคราวเป็นสิ่งจำเป็น ในขณะที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมยังคงพัฒนา หุ้นเหล่านี้อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในอนาคตของเทคโนโลยีและธุรกิจ 


การเปิดเผยความเสี่ยง 
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น    
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ   
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว  
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ Doo Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง 

วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

article-thumbnail

2025-06-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

โลหะเงินแตะจุดสูงสุดรอบ 13 ปี: เป้าหมายต่อไป $50? 

ราคาทองคำขยับก่อน แต่ซิลเวอร์ขยับเร็ว  ในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว ราคาซิลเวอร์พุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 11.1% และตอนนี้กำลังซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี จนกลายเป็นที่จับตามองของตลาด ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนระยะยาวหรือนักเทรดสายเก็งกำไร ทุกคนต่างจับตาดูระดับราคาที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ช่วงพีคของปี 2554  สิ่งที่นักเทรดอยากรู้คือ: นี่คือจุดเริ่มต้นของการเบรกทะลุครั้งประวัติศาสตร์ใช่ไหม? หรือแค่เป็นอีกหนึ่งรอบที่ราคาจะ ไปไม่สุดแล้วอ่อนตัวลง ที่แนวต้านอีกครั้ง?  ทำไมการพุ่งขึ้นของซิลเวอร์รอบนี้ถึงสำคัญ  ท่ามกลางกระแสข่าวครึกโครมของ AI และคริปโต ความแข็งแกร่งของซิลเวอร์กำลังบอกสัญญาณบางอย่างที่ลึกกว่านั้น  ในอดีต ซิลเวอร์เคยเป็นสินทรัพย์ที่ใช้เก็บมูลค่า เช่นเดียวกับทองคำ เป็นโลหะที่มีการใช้ในอุตสาหกรรม และยังเป็น เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน เมื่อซิลเวอร์เคลื่อนไหว มันไม่ได้ขยับเบา ๆ  หากย้อนไปปี 2554 ราคาซิลเวอร์พุ่งจาก $35 ไปเกือบ $50 ภายในเวลาเพียง 6 สัปดาห์ หรือคิดเป็นการขยับขึ้นกว่า 40% ในไม่ถึงสองเดือน เป็นรอบที่พุ่งแรงและรวดเร็วจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว และความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัย  วันนี้เรากำลังเห็นรูปแบบที่คล้ายกันอีกครั้ง  และซิลเวอร์ก็กำลังตอบรับต่อสัญญาณนั้น  กราฟ 50 ปีที่เล่าเรื่องได้ในตัวเอง  กราฟด้านบนกำลังส่งสัญญาณเชิงเทคนิคที่น่าสนใจ โดยแสดงให้เห็นว่าราคาซิลเวอร์กำลังสร้างรูปแบบ “ถ้วยพร้อมหูจับ” ซึ่งมักเป็นสัญญาณขาขึ้นก่อนการเบรกทะลุครั้งใหญ่  […]

article-thumbnail

2025-06-06 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ความกลัวการตกงานเพราะ AI พุ่งสูง: นักลงทุนควรรับมืออย่างไร? 

ตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มเป็นนักลงทุนหรือเรียนรู้ทักษะการเทรด เพราะเมื่อ AI เริ่มเข้ามาแทนที่แรงงาน คุณจะต้องมีทักษะในการสร้างรายได้ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วปัญญาประดิษฐ์ไม่ใช่แค่เทรนด์เทคโนโลยีสุดล้ำอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงต่อการจ้างงาน และมันกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  คำเตือนล่าสุดเกี่ยวกับการตกงานเพราะ AI เริ่มชัดเจนมากขึ้นทุกวัน  ซีอีโอของ Anthropic กล่าวว่าปัญญาประดิษฐ์อาจเข้ามาแทนที่งานระดับปฏิบัติการในสายออฟฟิศมากถึงครึ่งหนึ่ง และ อาจทำให้อัตราการว่างงานพุ่งสูงถึง 10 ถึง 20% ภายในเวลาเพียงง 5 ปี  นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีแบบปกติ แต่มันคือคลื่นเศรษฐกิจที่กำลังสั่นสะเทือนวงการแรงงาน แล้วนักลงทุนควรรับมืออย่างไร?  วิกฤตแรงงานจาก AI ไม่รอใคร  การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องใหม่ ตั้งแต่ยุคเครื่องจักรไอน้ำจนถึงสมาร์ทโฟน นวัตกรรมล้วนเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของเราอยู่เสมอ แต่สิ่งที่แตกต่างในครั้งนี้คือ “ความเร็วในการเปลี่ยนแปลง”  AI ไม่ได้แค่ทำงานแทนมนุษย์ แต่มัน “เรียนรู้” ปรับตัว และขยายขีดความสามารถได้อย่างไม่มีวันเหนื่อยล้า และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริงต่อแรงงานจำนวนมากในตลาด  ดร. เดวิด แดงค์ กล่าวตรงไปตรงมาว่า “หากภาคเศรษฐกิจทั้งระบบล่มสลาย คุณจะเห็นอัตราว่างงานพุ่งสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียงสองเดือน นี่ไม่ใช่สิ่งที่โลกเคยเผชิญมาก่อน และเราจะไม่มีเวลาพอในการปรับตัว”  อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบแล้วในตอนนี้ ได้แก่ งานบริการลูกค้า งานป้อนข้อมูล งานด้านกฎหมาย การวิเคราะห์การเงิน สื่อ […]

article-thumbnail

2025-05-29 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทรัมป์กำลังทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐตกต่ำโดยตั้งใจหรือไม่? 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจทางการเงินระดับโลก อาจกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ที่มูลค่าของมันถูกลดทอนอย่างมีกลยุทธ์จากภายใน  และคนที่อยู่ศูนย์กลางของเรื่องนี้ก็คือ? โดนัลด์ ทรัมป์  ในขณะที่ทรัมป์เดินหน้าวางแผนสำหรับอีกสี่ปีข้างหน้า มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าเขาอาจกำลังกดดันธนาคารกลางสหรัฐให้ลดค่าเงินดอลลาร์อย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่ในเชิงเศรษฐกิจ แต่เป็นอาวุธทางการเมืองด้วย  ดังนั้น ทรัมป์กำลังทำให้ดอลลาร์สหรัฐร่วงโดยตั้งใจจริงหรือไม่? มาดูหลักฐานกัน  ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างให้ทรัมป์ได้  การลดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลงประมาณ 25–30% ภายในสองสามปีข้างหน้า อาจฟังดูรุนแรง แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการโดยตรง  เหตุผลมีดังนี้:  พูดง่ายๆ คือ การทำให้ดอลลาร์อ่อนลงสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจในคราวเดียวกัน  ตลาดเริ่มสะท้อนสิ่งนี้แล้วหรือยัง?  พฤติกรรมของตลาดในปี 2025 สะท้อนแนวคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับราคาต่ำสุดที่ผ่านมา:  สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนถึงการกำหนดมูลค่าทรัพย์สินใหม่ภายใต้ยุคใหม่ของ “การลดค่าเงิน”  และยุคนั้นกำลังถูกขับเคลื่อนอย่างเงียบๆ โดยประเทศเศรษฐกิจมหาอำนาจทั่วโลก  วัฏจักรหลายปีของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ  กราฟนี้แสดงให้เห็นว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีรูปแบบวัฏจักรซ้ำทุกๆ 10 ปี โดยแต่ละรอบมักจบลงด้วยการกลับตัวอย่างรุนแรง และในวันนี้ DXY กำลังเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของการอ่อนค่าครั้งใหญ่รอบใหม่  ผลที่ตามมา? มีโอกาสที่ดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อไป โดยเฉพาะหากนโยบายกดค่าเงินของทรัมป์เริ่มเป็นรูปธรรม และธนาคารกลางสหรัฐฯ ถูกกดดันทางการเมืองให้ลดดอกเบี้ย  ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเดินหน้าเต็มสูบ  ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ เท่านั้นที่กำลังลดค่าเงินของตนเอง ยูโรโซน จีน และญี่ปุ่น ต่างก็ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน […]