
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดทั่วโลกต่างเตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้าย น้ำมันพุ่งแรง ทองคำทะยาน พาดหัวข่าวเต็มไปด้วยความตึงเครียดว่าอาจเกิดสงคราม แต่ในแบบฉบับของตลาดการเงิน ทุกอย่างกลับพลิกอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าทรัมป์กำลังผลักดันข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล (ซึ่งเราคาดการณ์ไว้ในบทความสัปดาห์ก่อน) บรรยากาศในตลาดเริ่มเปลี่ยน ความกังวลต่อความเสี่ยงสงครามเริ่มคลี่คลาย ราคาน้ำมันเริ่มย่อตัว สินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มเย็นลง ขณะที่ตลาดหุ้นเริ่มกลับมาฟื้นตัว
คำถามสำคัญในตอนนี้คือ: การเจรจาสันติภาพครั้งนี้ จะส่งผลให้ตลาดหุ้นพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหรือไม่?
มาหาคำตอบกัน
จากความกลัวสงครามสู่ความหวังลดดอกเบี้ย
ตลาดไม่ชอบความไม่แน่นอน พาดหัวข่าวสงครามคือความไม่แน่นอนขั้นสุด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหุ้นถึงแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เมื่อการเจรจาสันติภาพเริ่มมีแรงส่ง เส้นทางใหม่ก็กำลังเปิดขึ้น
ตอนนี้จุดโฟกัสไม่ใช่คำถามว่า “สงครามจะปะทุหรือไม่?” อีกต่อไป แต่มันกำลังเปลี่ยนเป็น “เฟดจะลดดอกเบี้ยเมื่อไหร่?”
นั่นคือกุญแจสำคัญ เพราะยิ่งเฟดลดดอกเบี้ยเร็วเท่าไหร่ ตลาดหุ้นก็ยิ่งมีโอกาสไปได้แรงเท่านั้น
ทำไมข้อตกลงสันติภาพอาจเป็นตัวจุดชนวนที่สมบูรณ์แบบให้หุ้นพุ่ง
ข้อตกลงหยุดยิงที่น่าเชื่อถือสามารถดึงแรงกดดันมหาศาลออกจากระบบได้:
- ราคาน้ำมันอาจทรงตัวต่ำกว่า $70
- ความกังวลด้านเงินเฟ้ออาจบรรเทาลง
- เฟดอาจมีพื้นที่ในการเปลี่ยนท่าทีได้เร็วขึ้น
- ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจอาจฟื้นตัว
พูดง่ายๆ คือ ข้อตกลงสันติภาพอาจปูทางให้เกิดการรีบาวด์ในตลาดหุ้นวงกว้าง S&P 500 กำลังเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบล่าสุด ขณะที่ Nasdaq ยังคงแข็งแกร่ง เมื่อความเสี่ยงจากสงครามลดลง บรรดานักลงทุนฝั่งกระทิงอาจเข้าควบคุมเกมได้
ทรัมป์ vs พาวเวลล์: ตัวเร่งตลาดคนถัดไป?
ทรัมป์ไม่เคยปิดบังว่าเขาต้องการดอกเบี้ยต่ำ เขาเคยโจมตีพาวเวลล์ในที่สาธารณะว่าเดินเกมช้าเกินไป
ในอีกด้าน พาวเวลล์กำลังเดินบนเส้นด้าย การสิ้นสุดสงครามทำให้เขาขยับไปสู่การลดดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ภาษีนำเข้าชุดใหม่ของทรัมป์และแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังค้างอยู่ ยังคงเป็นอุปสรรคต่อเส้นทางข้างหน้า ตอนนี้ตลาดรอจับตาดูว่าเขาจะลงมือเมื่อใด
ยิ่งลดดอกเบี้ยเร็วเท่าไหร่ ตลาดก็จะมีแรงส่งมากขึ้นเท่านั้น
การจัดท่าตลาด: หุ้นจะสามารถเบรกทะลุแนวต้านได้หรือไม่?
ในเชิงเทคนิค ขณะนี้หุ้นสหรัฐกำลังอยู่ในท่าที่พร้อมจะเบรกทะลุ

ดัชนี S&P 500 กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใต้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดูเหมือนพร้อมจะทะลุขึ้นไปได้ทุกเมื่อ
ดัชนีความผันผวน (VIX) กำลังลดลงต่ำกว่า 20 ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับตลาดหุ้น
เมื่อรวมกับพาดหัวข่าวเรื่องสันติภาพ และความเป็นไปได้ที่พาวเวลล์จะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น ก็เหมือนเติมเชื้อเพลิงให้กับการทำจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในอดีต ตลาดชอบการเปลี่ยนผ่านสู่สันติภาพเสมอ ทุกครั้งที่ความกลัวด้านภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลาย เม็ดเงินลงทุนจะหมุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นอย่างรวดเร็ว
กลุ่มหุ้นที่ควรจับตาหากการเจรจาสันติภาพคืบหน้า
หากการเจรจาสันติภาพยังคงเดินหน้า นี่คือกลุ่มหุ้นที่ควรพิจารณา:

สิ่งสำคัญจริงๆ ที่มีผลต่อหุ้นในตอนนี้
ลองมองภาพรวมกัน:
- เฟดจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
- ข้อตกลงสันติภาพจะลบความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อสำคัญออกไป
- ทรัมป์ยังคงกดดันให้พาวเวลล์ลดดอกเบี้ย
- ตลาดชอบสองสิ่งนี้: ดอกเบี้ยขาลง และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว: ตลาดหุ้นอาจอยู่ในช่วงใกล้ทะลุแนวต้านสำคัญก็เป็นได้
ประเด็นสำคัญที่นักเทรดควรรู้
ตอนนี้ตลาดกำลังเปลี่ยนแปลง เรื่องเล่าหลักของตลาดไม่ใช่ “เราจะเข้าสู่สงครามไหม?” อีกต่อไป
แต่กลายเป็นว่า:
“พาวเวลล์จะลดดอกเบี้ยเร็วพอที่จะดันหุ้นขึ้นจุดสูงสุดใหม่หรือไม่?”
การเจรจาสันติภาพกำลังสร้างแรงส่งให้ฝั่งขาขึ้น หากเฟดสามารถลดดอกเบี้ยได้ภายในฤดูร้อนนี้ เราอาจได้เห็น S&P 500 หรือแม้แต่ตลาดทั่วโลก พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่
เช่นเคย ปรับตัวให้ไวตามสถานการณ์ อ่านข่าวเกาะติดเฟด และเทรดตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ตามสิ่งที่คุณคิดว่า “ควรจะเกิด”
การเปิดเผยความเสี่ยง
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ Doo Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง